สรุปดราม่าลูกค้าตีเนียน คีบทิชชูใส่หม้อชาบู ร้านเอาจริง! ฟ้องแพ่ง-อาญา

กำลังมีไวรัลดราม่าในโลกออนไลน์ กรณีลูกค้าสาววีนฉ่ำ เจอทิชชู่ในหม้อชาบู จนพนักงานต้องยกมือไหว้ สุดท้ายทางร้านไปไล่เช็กกล้องวงจรปิดภายในร้านย้อนหลัง เห็นจังหวะลูกค้าคีบทิชชู่ใส่หม้อชาบูเอง จึงได้โพสต์ชี้แจงข้อเท็จจริงและอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ร้าน "Dragongrill ชาบู&ปิ้งย่าง" สาขาสนามบินน้ำ วันที่ 03/04/2567 เวลาประมาณ 20.00 - 22.00 น. ระบุรายละเอียดดังนี้

ทางเราได้ไตร่ตรองอยู่นานว่าจะโพสต์ดีไหม โพสต์แล้วจะเป็นอย่างไรต่อ และได้ข้อสรุปว่าอยากให้ลูกค้ารับฟังเสียงของพวกเราในฐานะผู้ให้บริการ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ทางเราได้รับสายแจ้งจาก ผจก.ร้าน ในเวลาดังกล่าว ว่ามีลูกค้าเข้ามาใชับริการ 3 ท่าน ผู้ใหญ่ 2 และเด็ก 1 กำลังโมโหเสียงดังอยู่ที่ร้าน ในขณะที่มีลูกค้าท่านอื่นๆ ใช้บริการอยู่ จากการสอบถาม ผจก.ร้าน ได้รับรายงานสาเหตุที่ทำให้ลูกค้าโมโหและไม่พอใจเนื่องจาก สาเหตุดังนี้

• 1. ลูกค้าแจ้งว่า มีทิชชู่อยู่ในถาดคอนโด และในหม้อชาบูที่ลูกค้าทานอยู่
• 2. ปูอัดมีรสชาติที่ผิดปกติ
• 3. เคยมาใช้บริการในครั้งก่อน น้ำหวานที่ร้านก็มีรสชาติผิดปกติ ครั้งนี้ก็เจอทิชชู่ในหม้ออีก

จึงขอเช็คบิลไป แจ้งว่าทานไม่ลงแล้ว หลังจากที่เข้าใช้บริการไปแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

ทางพนักงาน และผู้จัดการร้าน ได้รีบเข้าไปไหว้ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที โดยที่ยังไม่ได้คิดแม้แต่จะตรวจสอบอะไร พนักงานทุกท่านพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะบริการให้ลูกค้าทุกท่านพึงพอใจมากที่สุด

แต่หลังจากเราตรวจสอบวัตถุดิบ พบว่าไม่ได้ผิดปกติแต่อย่างใด แต่ก็ไม่ได้แจ้งอะไรกับลูกค้า เพื่อไม่ให้มีปัญหากับลูกค้า เราจึงได้แต่ขอโทษ ยกมือไหว้อยู่อย่างนั้น ขอโทษแล้วขอโทษอีก ทั้งที่โต๊ะ และหน้าเคาน์เตอร์

ต่อมาเราได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่าลูกค้านำทิชชู่ที่ใช้เช็ดปากวางไว้บนถาดคอนโด และใช้ตะเกียบคีบทิชชู่ลงไปในหม้อ เท่านั้นยังไม่พอ ยังต่อว่าร้านเรา และพนักงานของเราในเรื่องนี้

พนักงานของเราตั้งใจให้บริการกับลูกค้าเต็มที่เพื่อจะบริการออกมาให้ดีที่สุด ขอโทษลูกค้าก่อนที่จะตรวจสอบ รับผิดทุกอย่างโดยที่ไม่มีคำถามอะไรเพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจมากเท่าที่จะทำได้ พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ออกมาดีที่สุด

แต่พอมาทราบแบบนี้ ทางร้านของเราและพนักงานเสียใจกับเหตุการณ์นี้มากๆ ลูกค้าทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ลูกค้าต้องการอะไร พนักงานทำหน้าที่อย่างเต็มที่ที่สุดแแล้ว แต่กลับถูกต่อว่าในสิ่งที่พวกเค้าไม่ได้ทำผิดอะไร

เศรษฐกิจก็แย่อยู่แล้ว เรายังต้องมาเจออะไรแบบนี้อีก ลูกค้าท่านอื่นที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ทยอยเช็คบิลออกจากร้าน ซึ่งทางพวกเรากังวลจึงขออธิบายและตัดสินใจโพสต์เพื่อชี้แจง และขอโทษลูกค้าท่านอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย

ทางร้านยังได้แนบภาพอาหารที่เหลือบนโต๊ะ และในหม้อชาบู หลังจากที่ลูกค้าเช็คบิลออกไป หลังจากทานไปประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที และกราบกราบขออภัยลูกค้าทุกท่านที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย

โพสต์ดังกล่าวมีชาวเน็ตเข้ามาให้กำลังใจร้านชาบูอย่างล้นหลาม พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่าพฤติการณ์แบบนี้ตั้งใจหลอกกินฟรีหรือไม่ และแนะนำให้ทางร้านฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย

ต่อมาผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง คาดว่าเป็นแฟนของลูกค้าสาวรายดังกล่าว เข้ามาคอมเมนต์ว่า "ใครที่ด่าหรือว่าอะไรก็แล้วแต่ ด่ามาเยอะ จะได้มัดรวมทีเดียว คุณไม่ได้ไปนั่งทานด้วยคิดกันไปใหญ่"

ผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายเข้ามาแสดงความเห็นว่า เห็นในคลิปแล้วจำได้ขึ้นใจ เมื่อก่อนเคยทำงานห้าง สามีภรรยาคู่นี้ชอบมาคอมเพลนพนักงาน แล้วขอพบผู้จัดการ เพื่อจะเอาวอยเชอร์แทนคำขอโทษ ไม่คิดว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังทำอยู่

ล่าสุด ร้าน "Dragongrill ชาบู&ปิ้งย่าง" ออกแถลงการณ์อีกครั้ง หลังทางบริษัทได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามกล้องวงจรปิดจากผู้จัดการ และพนักงาน จึงเห็นการกระทำดั่งกล่าวของลูกค้าท่านนี้ การกระทำดังกล่าวทำให้บริษัทได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียง และความเชื่อมั่นเป็นอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการของร้าน

บริษัทจึงขอแสดงจุดยืน เพื่อปกป้อง คุ้มครอง พนักงาน ชื่อเสียงของร้าน และเรียกความเชื่อมั่นจากลูกค้ากลับคืนมา เมื่อข้อเท็จจริงได้ปรากฏชัดว่าไม่ได้เป็นไปตามที่ลูกค้กลุ่มดังกล่าวได้กล่าวหามา บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญาต่อไป

นอกจากเป็นการใช้สิทธิ์ตามที่กฎหมายรับรองหรือคุ้มครองให้แล้ว ก็เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้บุคคลใดๆ มีการกระทำดังเช่นกรณีที่เกิดขึ้นนี้แก่บริษัทและร้านค้าอื่นๆ อีก

บริษัทและพนักงานทุกคนขอขอบคุณสำหรับลูกค้าและผู้ที่ติดตามเรื่องนี้ ที่เป็นกำลังใจและส่งข้อความมาอย่างล้นหลาม หากขาดตกบกพร่องประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

ลูกค้าสาวขอไกล่เกลี่ยร้านชาบู ยอมรับดราม่าทำกระทบเรื่องงาน

ล่าสุด 5 เมษายน 2567 เวลา 14.30 น. น.ส.อีฟ อายุ 33 ปี ลูกค้าสาวคู่กรณีร้านชาบู เดินทางเข้ามาพูดคุยกับผู้จัดการร้านฯ ก่อนออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ตนได้เดินทางเข้ามาเพื่อขอโทษและขอไกล่เกลี่ยกับทางร้าน แต่ผู้จัดการร้านแจ้งว่าต้องรอทางสำนักงานใหญ่ติดต่อกลับ

น.ส.อีฟ เล่าว่า วันเกิดเหตุได้ขอโทษร้านไปแล้ว จริงๆ ตนใช้กระดาษทิชชูเช็ดปาก และมัวแต่กดโทรศัพท์จึงไม่เห็นว่าตัวเองคีบกระดาษทิชชูลงไปในหม้อชาบู จึงเรียกพนักงานมาเพื่อบอกเรื่องกระดาษทิชชูว่ามีในหม้อ พนักงานได้ขอโทษและนำถาดที่มีทิชชูไปเก็บ ตนก็นั่งทานต่อปกติ และสั่งอาหารเพิ่มโดยมีปูอัดด้วย สั่งมา 2 ถาด ถาดนึงมีเมือกและรสชาติเปรี้ยว จึงเรียกพนักงานมาบอก และเช็คบิลเลยเพราะอารมณ์เสีย

จากนั้นตนเดินมารอที่เคาน์เตอร์เช็คบิล ผู้จัดการร้านได้นำคลิปวงจรปิดมาให้ตนดูว่าทิชชูมาจากตนเองที่เป็นคนคีบลงหม้อชาบู ตนจึงขอโทษทางร้านไป และแจ้งว่ารอบที่แล้วน้ำเก๊กฮวยมีรสชาติเปรี้ยว ทางร้านจึงรับผิดชอบ โดยการคิดเงินแค่ 2 คน ลดไป 1 คน ตนไม่ได้มีเจตนาโกงร้าน และมาทานร้านนี้หลายครั้ง ถ้ากลัวจะเสียค่าปรับคงเดินออกไปจากร้านไม่รอเช็คบิล

น.ส.อีฟ กล่าวต่ออีกว่า ตนเพิ่งเห็นแถลงการณ์ของทางร้าน พยายามติดต่อกับทางร้านตั้งแต่รู้ข่าวเมื่อวาน เพื่อพูดคุย และตนได้ขอโทษในร้านไปแล้วคิดว่าจะจบแล้ว ตอนนี้ได้รับผลกระทบกับเรื่องงาน เนื่องจากตนทำงานเป็น รปภ. และเป็นการจ้างรายวัน ตนถูกยกเลิกงานที่รับไว้ คนรอบข้างที่ไม่ได้มากินด้วยโดนทักไปต่อว่าทางเฟซบุ๊ก และมีคอมเมนต์ต่อว่าตนเป็นครอบครัวขอทาน ส่วนที่บอกว่าตนไปโวยวายจนได้ Gift Voucher ตั้งแต่เกิดมาตนก็ไม่เคยได้ ตนยืนยันว่าวันที่เกิดเหตุไม่ได้โวยวายเสียงดังเพียงแต่อาจจะพูดห้วนๆ ตนอยากขอความเห็นใจจากสังคม

ตอนนี้เครียดมากและมีปัญหาเรื่องงาน ต้องหากินใช้วันต่อวัน ตนแค่อยากมากินและใช้บริการกับทางร้านไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เกิดเรื่อง ตอนนี้คงทำได้แค่รอสำนักงานใหญ่ของร้านติดต่อมา