"สาหร่ายผักกาดทะเล" โปรตีนสูง ไขมันต่ำ พืชเศรษฐกิจสำหรับคนรักสุขภาพ

ไปกันที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งพังงา อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา นางอาภรณ์ เทพพานิช ผอ.ศูนย์ฯ พาชมการเพาะเลี้ยง "สาหร่ายผักกาดทะเล" พืชน้ำชนิดใหม่ที่ทางศูนย์ฯ ได้นำต้นพันธุ์มาทดลองเลี้ยงในโรงเรือนของศูนย์ฯ และพบว่าสาหร่ายเจริญเติบโตได้ดี ขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว ภายใน 3-4 สัปดาห์ สามารถนำมาบริโภคได้ จึงนำมาแปรรูปเป็นสาหร่ายผักกาดทะเลชุบแป้งทอดกรอบ (เทมปุระ) เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้ทดลองรับประทานในงานประเพณีปล่อยเต่า ซึ่งได้ความสนใจและรับคำชื่นชมจากผู้ที่ได้ลิ้มชิมรส ว่ารสชาติดี อร่อยมาก 

นางอาภรณ์ กล่าวว่า สาหร่ายผักกาดทะเล หรือ sea lettuce อยู่ในกลุ่มสาหร่ายสีเขียว ลักษณะคล้ายผักกาด พบได้ตามชายฝั่งทะเลทั่วไป สำหรับการเพาะเลี้ยงสาหร่ายผักกาดทะเล ทางกรมประมงได้ดำเนินการมานานโดยศูนย์ฯ เพาะเลี้ยงชายฝั่งเพชรบุรี และปัจจุบันได้ขยายการเพาะเลี้ยงออกไปในหลายพื้นที่ ทำให้ปัจจุบันมีการใช้ประโยชน์จากสาหร่ายผักกาดทะเล มีการพัฒนาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ในพื้นที่จังหวัดพังงา ประชาชนทั่วไปยังไม่รู้จักสาหร่ายชนิดนี้มากนัก โดยเฉพาะการนำมาใช้เป็นอาหารยังไม่แพร่หลาย 

"ศูนย์ฯ จึงนำต้นพันธุ์มาทดลองเลี้ยงในโรงเรือนของศูนย์ฯ พบว่าสาหร่ายเจริญเติบโตได้ดี ขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว ภายใน 3-4 สัปดาห์ สามารถนำมาบริโภคได้ สาหร่ายผักกาดทะเลสามารถเก็บในรูปของสาหร่ายแห้งได้นาน 

โดยคุณค่าทางโภชนาการคงเดิมและสามารถทำได้หลากหลายเมนู เช่น เทมปุระ แกงจืด ผัด ทำน้ำสาหร่าย สาหร่ายผงโรยในอาหารเหมือนกับสาหร่ายญี่ปุ่น ข้าวเกรียบสาหร่าย เส้นหมี่ เป็นต้น และยังใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางได้อีกด้วย" นางอาภรณ์  กล่าว 

ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งพังงา บอกด้วยว่า ในส่วนของคุณค่าทางโภชนาการ พบว่า สาหร่ายผักกาดทะเล มีคุณค่าโปรตีน คาร์โบไฮเครต สูง ไขมันต่ำ เหมาะเป็นอาหารสุขภาพในอนาคตได้เป็นอย่างดี นับเป็นสินค้าเกษตรมูลค่าสูงที่น่าสนใจอีกชนิดหนึ่ง เพราะปัจจุบันราคาการจำหน่ายสาหร่ายสดในท้องตลาดประมาณ 300-500 บาทต่อกิโลกรัม 

สำหรับเกษตรกรที่สนใจที่จะนำไปเลี้ยงเป็นอาชีพ สามารถติดต่อเพื่อมาเรียนรู้กับทางศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งพังงา อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ได้เลย

รู้จัก "สาหร่ายผักกาดทะเล" ให้มากขึ้น 

สาหร่ายผักกาดทะเล เป็นสาหร่ายทะเลที่มีโปรตีนสูงถึง 25-30 กรัม และใยอาหาร 9.79 เปอร์เซ็นต์ แต่มีไขมันและพลังงานที่ต่ำ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจะควบคุมลดน้ำหนัก อีกทั้งยังอุดมด้วยเกลือแร่ วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระหลากหลายชนิด ซึ่งมีสรรพคุณ ด้านเภสัช ด้านเวชสำอาง และใช้ในอุตสาหกรรมอาหารทั้งคนและสัตว์ได้ สามารถนำไปบริโภคได้หลากหลายรูปแบบทั้ง ต้ม ผัด แกง ทอด ใช้ปรุงอาหารได้เหมือนผัก เหมาะกับคนที่ไม่ชอบทานผัก​ หรือ นำไปทำขนมขบเคี้ยวและของหวานต่างๆ ก็ได้

เปิดเทรนด์อาหารแห่งอนาคต (Future Food)

จากที่สาหร่ายผักกาดทะเล เหมาะเป็นอาหารสุขภาพในอนาคต "Nation STORY" ขอพาไปเปิดโลก FUTURE FOOD คืออะไร ใกล้-ไกลตัวเราแค่ไหน 

"อาหารแห่งอนาคต" เป็นแนวคิดในอุตสาหกรรมอาหารโลก ที่มีความหลากหลายในหน้าตา รูปแบบ และกระบวนการผลิตอาหาร โดยเน้นการระดมความคิดเพื่อออกแบบอาหารและกระบวนการผลิตอาหารที่เหมาะสมกับโลกในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะในด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งการลดภาวะโลกร้อน (global warming) และการสร้างระบบอาหารอย่างยั่งยืน โดยสามารถแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ได้แก่

1. functional food ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณประโยชน์อื่น ๆ นอกเหนือจากให้พลังงานแก่ร่างกาย เช่น น้ำแร่ น้ำเกลือแร่สำหรับผู้ออกกำลังกายหรือนักกีฬา นมผงผสมสารอาหารที่จำเป็นสำหรับทารก รวมถึงกลุ่มอาหารที่แปรรูปจากวัตถุดิบทางธรรมชาติ อาทิ ถั่วเหลือง กระเทียม มะเขือเทศ
2. medical food ผลิตภัณฑ์ที่เป็นอาหารเสริมหรือใช้ทดแทนยา เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคได้รับสารอาหารที่มีคุณประโยชน์และเหมาะสม 
3. organic food อาหารที่ผลิตหรือแปรรูปโดยไม่ผ่านการใช้ยาฆ่าแมลงที่สังเคราะห์ทางเคมีหรือปุ๋ยเคมี ไม่ตัดแต่งพันธุกรรม และคำนึงถึงความปลอดภัยทางอาหารเป็นสำคัญ
4. novel food ได้แก่ อาหารพืชล้วน (plant-based food) เนื้อสัตว์จากการเพาะเนื้อเยื่อ (cell-based meat) ผลิตภัณฑ์ที่มีการปรับแต่งกระบวนการผลิตใหม่หรือใช้เทคโนโลยีอย่างเช่นนาโนเทคโนโลยีหรือการพิมพ์สามมิติ (3D printing)

นอกจากนี้ อาหารแห่งอนาคต จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยให้โลกเข้าใกล้เป้าหมายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals หรือ SDGs) มากขึ้น ด้วยการออกแบบโดยคำนึงถึงความมั่นคงทางอาหารของมนุษยชาติทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วย 

• การมีอาหารเพียงพอ (food availability) 
• การเข้าถึงอาหาร (food access) 
• การใช้ประโยชน์จากอาหาร (food utilization) 
• การมีเสถียรภาพด้านอาหาร (food stability) 

อธิบายอย่างง่ายๆ คือ มีอาหารที่คนเข้าถึงได้ตลอดเวลา ไม่มีความเสี่ยงการขาดแคลนอาหารจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สภาพอากาศ และฤดูกาล

ด้วย "สาหร่ายผักกาดทะเล" เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี แถมเป็นมิตรต่อโลก จึงเหมาะที่จะเป็นหนึ่งในอาหารทดแทนแห่งอนาคต และนับว่าเป็นสาหร่ายทะเลเศรษฐกิจที่น่าจับตามอง


อ้างอิงจาก :
https://www.nationtv.tv/gogeen/378914150
BOTMagazine : FUTURE FOOD ทางรอดของมวลมนุษยชาติ 
ประชาสัมพันธ์ กรมประมง