svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สาวอินโดฯ วีน ตม.ไทย ส่งสามีกลับประเทศ ด้าน ตม.งัดวงจรปิดโต้ พบมาคนเดียว

29 กุมภาพันธ์ 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สาวอินโดฯ โวย ตม.ไทย ทำลายทริปฮันนีมูน ส่งสามีกลับประเทศ เพราะไม่มีเงินติดตัว ด้าน ตม.งัดวงจรปิดโต้ พบมาคนเดียว และอยู่ไทย 13 วัน เชื่อตั้งใจกุเรื่องสร้างคอนเทนต์

จากกรณี เพจสถานฑูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่ข้อมูลเตือนชาวอินโดนีเซียที่จะเข้ามาท่องเที่ยวไทย ให้เตรียมหนังสือเดินทาง ทริปการท่องเที่ยว และเงินติดตัว ไม่เช่นนั้นจะถูก ตม.ไทยส่งกลับ และต่อมามีนักท่องเที่ยวสาวชาวอินโดนีเซีย เผยแพร่ภาพคลิปลง Tiktok ชื่อ Herjastipbkk

สาวอินโดฯ วีน ตม.ไทย ส่งสามีกลับประเทศ ด้าน ตม.งัดวงจรปิดโต้ พบมาคนเดียว สาวอินโดฯ วีน ตม.ไทย ส่งสามีกลับประเทศ ด้าน ตม.งัดวงจรปิดโต้ พบมาคนเดียว

เผยว่า เมื่อช่วงเดือนมกราคม 2567 ตนและสามี ได้เดินทางมาฉลองฮันนีมูนที่ประเทศไทย ตนผ่าน ตม.ได้ แต่สามีติด ตม. เนื่องจากไม่มีเงินติดตัว ซึ่งตนได้พยายามกด ATM แสดงเงินแก่เจ้าหน้าที่ ตม. แต่ก็ยังส่งสามีตนกลับ เป็นเหตุให้ตนต้องยกเลิกทริป และเดินทางกลับไปพร้อมสามี โดยเปลี่ยนไปฮันนีมูนที่ญี่ปุ่นแทน จนกลายเป็นไวรัลในอินโดนีเซีย ส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทย และ ตม. นั้น

สาวอินโดฯ วีน ตม.ไทย ส่งสามีกลับประเทศ ด้าน ตม.งัดวงจรปิดโต้ พบมาคนเดียว

29 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 ในฐานะโฆษก สตม. เปิดเผยว่า ทาง บก.ตม.2 ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวชื่อน.ส.ฟาลิดา (นามสมมุติ) เป็นชาวอินโดนีเซีย เดินทางเข้าไทยทางสนามบินดอนเมือง เที่ยวบินที่ FD395 จากเมืองจาร์กาตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2567

โดยปรากฏภาพในวงจรปิด หญิงคนดังกล่าวเดินทางเพียงคนเดียว ไม่มีสามีมาด้วยตามที่กล่าวอ้าง และได้รับอนุญาตเข้าไทย โดยเดินทางออกจากไทยเมื่อ 16 มกราคม 2567 ทางสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นเวลาที่พักในไทยกว่า 13 วัน ไม่ได้เดินทางออกทันทีตามที่พูดในคลิปแต่อย่างใด นอกจากนั้นขยายผลพบว่า น.ส.ฟาลิดา เข้าออกไทยบ่อยครั้ง โดยมีอาชีพขายของออนไลน์ จึงเชื่อว่า น.ส.ฟาลิดา ตั้งใจกุเรื่องขึ้นเพื่อสร้างคอนเทนต์เท่านั้น

สาวอินโดฯ วีน ตม.ไทย ส่งสามีกลับประเทศ ด้าน ตม.งัดวงจรปิดโต้ พบมาคนเดียว

พล.ต.ต.เชิงรณ จึงเชิญผู้แทนสถานทูตอินโดนีเซียในไทยมาร่วมรับฟังคำชี้แจง เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมีนายนิธิ สีแพร รองผู้ว่าด้านการสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมประชุมด้วย เนื่องจากเรื่องนี้ กระทบต่อนโยบายเปิดฟรีวีซ่า และการกระตุ้นการท่องเที่ยวของทางรัฐบาล เป็นอย่างยิ่ง

พร้อมเปิดเผยหลักฐานวงจรปิดให้ที่ประชุมรับทราบ พร้อมชี้แจงว่า ทาง ตม.ไทย มีการจัดลำดับในการตรวจสอบกลุ่มท่องเที่ยวที่อาจแฝงตัวเข้ามาลักลอบทำงาน โดยดูแผนการท่องเที่ยว การจองที่พัก เป็นหลัก ส่วนเงินติดตัวเป็นประเด็นประกอบเท่านั้น เนื่องจากปัจจุบัน มีการใช้บัตรเครดิต และระบบ E-payment จำนวนมากแล้ว

ดังนั้น การกล่าวอ้างเรื่อง การมีเงินติดตัวไม่พอแล้ว จะถูกปฏิเสธการเข้าเมือง จึงไม่ตรงตามข้อเท็จจริง และคนต่างชาติที่ถูกปฏิเสธเข้าเมืองส่วนใหญ่ ไม่สามารถแสดง แผนการท่องเที่ยว ไม่มีการจองที่พัก รวมถึงบางรายใช้หลักฐานการจองที่พักปลอมเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ตม.ด้วย

สาวอินโดฯ วีน ตม.ไทย ส่งสามีกลับประเทศ ด้าน ตม.งัดวงจรปิดโต้ พบมาคนเดียว

ซึ่งพบว่าคนอินโดนีเซียจำนวนมาก ถูกหลอกให้บินเข้าไทยเพื่อผ่านแดนไปประเทศเพื่อนบ้านเข้าไปเป็นคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเข้าข่ายเสี่ยงค้ามนุษย์ และที่ผ่านมา ทาง สถานทูตอินโดนีเซีย ยังเคยมีหนังสือขอบคุณ ตม.สนามบินดอนเมือง ที่ช่วยคัดกรองชาวอินโดนีเซียให้ด้วยซ้ำ พร้อมย้ำว่า ตม.ไทย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอินโดนีเซียเสมอ

logoline