svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"ณัฐวุฒิ" ขอแชร์ประสบการณ์ถูกมิจฉาชีพหลอกจองโต๊ะอาหารสั่งไวน์หรู

เกือบโดนแล้ว! "ณัฐวุฒิ" ขอแชร์ประสบการณ์หลังถูกมิจฉาชีพหลอกจองโต๊ะอาหาร พร้อมสั่งให้หาไวน์ราคาแพง ก่อนโจรแนะนำร้านจำหน่าย หวังลวงให้โอนเงิน เตือนสติคนทำร้านอาหารอย่าหลงเชื่อ เผยมีหลักฐานครบจ่อแจ้งความดำเนินคดี กระตุกหน่วยงานเกี่ยวข้อง

27 มกราคม 2567 "มิจฉาชีพ" นับวันยิ่งเป็นภัยใกล้ตัวเข้ามาทุกขณะ เพราะแอบแฝงไว้ด้วยซึ่งวิธีการต่างๆ นานา เพื่อหลอกให้คนตกเป็นเหยื่อ จนต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง หรือตกเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว 

อย่างกรณีล่าสุด "นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ" อดีตผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และอดีต รมช.พาณิชย์ ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปัจจุบันวางมือทางการเมือง แล้วผันตัวมาทำร้านอาหารชื่อ "เยี่ยมใต้" ซึ่งตั้งอยู่ถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ดจ.นนทบุรี

ก็ถูกมิจฉาชีพหลอกใช้มุขจองโต๊ะอาหาร เพื่อจัดเลี้ยง พร้อมกับสั่งให้ทางร้านจัดเตรียมไวน์หรูราคาแพง เพื่อเอาไว้ต้อนรับผู้ใหญ่ที่จะเดินทางมาร่วมงาน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (26ม.ค.) 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินไปยังร้านอาหาร "เยี่ยมใต้" เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยนายณัฐวุฒิ เล่าว่า เมื่อวานนี้ตอนกลางวัน ขณะที่ตนเข้ามาดูแลร้านตามปกติ ระหว่างนั่งทานอาหารกลางวัน ได้ยินพนักงานแจ้งว่ามีลูกค้าโทรเข้ามาจองโต๊ะ จำนวน 20 ที่นั่ง และขอเป็นห้องจัดเลี้ยงส่วนตัว

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ซึ่งตนก็นั่งฟังอยู่สักพัก จนกระทั่งรู้สึกเอะใจ เมื่อลูกค้ารายนี้ถามเรื่องเครื่องดื่ม ซึ่งพนักงานของร้านได้แนะนำเครื่องดื่มประเภทไวน์ ว่า มีอะไรบ้าง ซึ่งมุขแบบนี้ตนเคยเห็น ว่ามีผู้เสียหายหลงกลตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพในลักษณะนี้มาแล้ว จึงได้บอกกับพนักงานไปว่า ลักษณะแบบนี้ไม่ใช่ลูกค้า น่าจะเป็นมิจฉาชีพมาหลอกลวงมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ตนจึงให้พนักงานในร้านพิมพ์ไลน์โต้ตอบไปมากับมิจฉาชีพรายนี้ต่อ เพื่อต้องการดูวิธีการของมิจฉาชีพ ว่าจะใช้อุบายอะไรต่อไป เพราะตนตั้งใจจะนำเรื่องราวที่เกิดมาแจ้งเตือนภัยให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ ให้รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของมิจฉาชีพ ซึ่งมิจฉาชีพ ก็จะใช้วิธีการตามสูตร คือ แจ้งรายละเอียดไวน์ราคาแพงที่อ้างผู้ใหญ่ต้องการดื่ม โดยต้องเป็นไวน์ราคาแพงที่ร้านอาหารทั่วไปไม่มีขาย

 

"เมื่อทางร้านแจ้งว่าหาซื้อไวน์ตัวดังกล่าวไม่ได้ มิจฉาชีพก็จะแนะนำร้านขายไวน์มาให้ เพื่อให้ทางร้านไปจัดหามา เพื่อต้อนรับผู้ใหญ่ ซึ่งเมื่อทางร้านหลงเชื่อติดต่อไปที่ร้านขายไวน์ ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นกลุ่มมิจฉาชีพด้วยกัน ทางร้านก็จะถูกหลอกให้โอนเงินค่าไวน์ให้ ก่อนนำมาส่ง ซึ่งจะเข้าทางมิจฉาชีพทันที" นายณัฐวุฒิ ระบุ

 

ทั้งนี้ หลังถูกมิจฉาชีพหลอกสั่งไวน์แล้ว ตนได้นำรายละเอียดทั้งหมดส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.นนทบุรี ติดตามเบาะแสมิจฉาชีพรายนี้แล้ว และกำลังตัดสินใจว่าจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่ แต่ต้องการแจ้งเตือนสุจริตชน คนทำมาหากินและเจ้าของร้านอาหารให้ระมัดระวังมิจฉาชีพเหล่านี้ จึงตัดสินใจโพสต์คลิปบทสนทนาของตนกับมิจฉาชีพที่เกิดขึ้น 

 

 

"ในระหว่างที่ผมได้โทรศัพท์คุยกับมิจฉาชีพรายนี้ เขาอ้างชื่อบริษัทแห่งหนึ่งแถว ต.ละหาร อ.บางบัวทอง เมื่อตรวจสอบบริษัทตามที่มิจฉาชีพกล่าวอ้างมา ก็พบว่าบริษัทแห่งนี้มีตัวตนจริง ส่วนรูปโปรไฟล์กับชื่อคนจริง ๆ ที่มิจฉาชีพนำมาอ้างสวมรอย ก็น่าจะมีตัวตนจริง ซึ่งถ้ามีร้านอาหารหลงเชื่อไป น่าจะสูญเงินกันเป็นจำนวนมาก โดยผมมีหลักฐานเป็นแชทข้อความที่คุยไลน์ กับมิจฉาชีพรายนี้ รวมทั้งชื่อบริษัท ชื่อตัวบุคคล ยี่ห้อไวน์ราคาแพง ที่มิจฉาชีพนำมาใช้เป็นอุบายหลอกทางร้านอาหารด้วย" นายณัฐวุฒิ กล่าว

 

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวทิ้งท้าย หลังจากที่ตนเริ่มมีอารมณ์ระหว่างที่คุยกับมิจฉาชีพรายนี้ พร้อมกับถามไปว่ารู้จักเด็กเสิร์ฟที่ชื่อ "ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ" หรือไม่ ทำให้คนร้ายนิ่งไปสักพัก ก่อนที่คนร้ายรู้ตัว และเริ่มไล่ลบข้อความที่สนทนาผ่านทางไลน์เกือบทั้งหมด แต่ตนได้ถ่ายบันทึกหลักฐานทั้งหมดไว้ก่อนแล้ว

 

"เรื่องมิจฉาชีพที่มาหลอกลวงสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนนั้น ต้องฝากถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ DSI หรือหน่วยงานทั้งหลายที่เกี่ยวข้อง ว่าถ้าเครื่องมือไม่พอก็จัดหามา เพื่อให้สามารถจับให้ได้ ไล่ให้ทันกับมิจฉาชีพ เพราะปัจจุบันรื่องเทคโนโลยี เดินไปเร็วกว่ากลไกของรัฐแล้ว และถ้าจับเหล่ามิจฉาชีพได้แล้ว ก็ต้องบังคับใช้กฎหมายขั้นสูงสุดอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เกิดการเอาเป็นเยี่ยง" อดีต ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย กล่าว