svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ยังจำได้ไหม ก่อน JN.1 จะระบาดในไทย โควิดมีที่มาอย่างไร แล้วตั้งชื่อแบบไหน

24 มกราคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ยังจำได้ไหม ก่อนสายพันธุ์ JN.1 จะระบาดในประเทศไทย โควิด-19 บ้านเรามีที่มาอย่างไร แล้วมีวิธีการตั้งกันชื่อแบบไหนบ้าง

ยังประมาทไม่ได้กับสถานการณ์ โควิด-19 ในประเทศไทย ที่ขณะนี้เริ่มกลับมาแพร่ระบาด มีผู้ติดเชื้อมากขึ้น แม้ประชาชนแทบทั้งหมดในประเทศ จะได้รับวัคซีนชนิดต่าง ๆ กันอย่างครบถ้วนแล้วก็ตาม ซ้ำยังมีประเด็นเรื่องความปลอดภัยของวัคซีน หลัง "โควิด" ได้มีการพัฒนาสายพันุ์ใหม่ ๆ ขึ้นมาเรื่อย ๆ โดยที่กำลังระบาดในบ้านเราตอนนี้ คือ เป็น สายพันธุ์ JN.1   

สำหรับประเด็น สายพันธุ์โควิด นั้น ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มีการโพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ถึงเนื่องโควิด-19 วิวัฒนาการของไวรัสก่อโรคโควิด-19 และการตั้งชื่อ ระบุว่า
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก  
 

ตั้งแต่มีการระบาดของ ไวรัส corona ปลายปี พ.ศ 2562  ต่อมาตั้งชื่อไวรัสนี้ว่า SARS Corona Virus 2 (SARS-CoV- 2) ในระยะแรกมี 2 สายพันธุ์ เราเรียกว่าสายพันธุ์ L และ S (คือ  NS8/L84S L = leucine, S = Serine) ตำแหน่งที่ 84 บนยีนส์ NS8 ใน ORF1a มีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมจาก L เป็น S สายพันธุ์ที่เริ่มระบาดในประเทศไทย เป็นสายพันธุ์ S  สายพันธุ์ L ไประบาดมากในยุโรป และต่อมามีการกลายพันธุ์บน spike gene ในตำแหน่งที่ 614 (D614G) เกิดเป็นสายพันธุ์ G ติดง่ายแพร่กระจายเร็วกว่าสายพันธุ์เดิม   

ในอดีตที่ผ่านมา การกลายพันธุ์ มีการเฝ้าระวังมากที่สุด คือ ไข้หวัดใหญ่ กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ สร้างฐานข้อมูลสาธารณะ GISAID (Global Initiative on Sharing All Influenza Data) โดยเริ่มต้นเป็นการแบ่งปันข้อมูลทางด้านไข้หวัดนกก่อน (the Global Initiative on Sharing Avian Influenza Data) และเมื่อมาถึงยุคของโควิด-19 ใช้ฐานข้อมูลเดียวกัน เป็นศูนย์กลางการแบ่งปันข้อมูลไวรัสก่อโรคโควิด-19  
ยังจำได้ไหม ก่อน JN.1 จะระบาดในไทย โควิดมีที่มาอย่างไร แล้วตั้งชื่อแบบไหน
 

ปัจจุบันมีการบรรจุข้อมูลรหัสพันธุกรรม ทั้งตัวของไวรัส โควิด-19  มากกว่า 16 ล้านตัว และบางส่วนอีกเป็นจำนวนมาก การแบ่งสายพันธุ์ที่มีการแปรเปลี่ยน ถูกกำหนดขึ้น ใช้ชื่อว่าแบ่งแบบ pangolin (ตัวนิ่ม ลิ่น ที่สงสัยต้นตอไวรัส)   โดยใช้อักษร ABC นำ แล้วจุดต่อเช่น A.1…, A.1.1. , A1.1.1 ตัวเลขเพิ่มได้ เมื่อครบ 3 ตำแหน่ง  ก็จะเป็นอักษร B  จนถึง Z และเมื่อครบแล้วก็จะเป็น AA…ZZ ถ้ามีการผสมข้ามสายพันธุ์ (recombination) ก็จะขึ้นตัวอักษรเป็น X แล้วตามด้วย A.. B.. เช่น XA, XB.. XBB.1.16   

การกำหนดดังกล่าว เป็นการยากที่จะเข้าใจสำหรับประชาชนทั่วไป องค์การอนามัยโลกจึงแบ่งกลุ่ม แล้วใช้อักษรกรีก มาเป็นตัวกำหนด เป็น alpha , beta , gamma , .. omicron  

เมื่อมาถึงยุค omicron การกลายพันธุ์เกิดขึ้นจำนวนมาก จะเห็นว่าตั้งแต่ BA.1, BA.2, BA.2.86..BA.5 EG.1.5, HK.3 XBB.1.5, XBB.1.16, JN.1 มีกลุ่มย่อยมากมาย จนยากจะเข้าใจหรือจดจำ   

Ryan Gregary นักวิวัฒนาการชาวแคนาดา ตั้งชื่อเล่น (nickname) โดยใช้ชื่อเทพนิยายของกรีก สัตว์ในเทพนิยายต่างๆ แม้กระทั่งดวงดาวมากกว่า 20 ชื่อ แทนการเรียกตาม pangolin เช่น BA.2.75 เป็น Centaurus XBB.1.15 เป็น Kracken (ปลาหมึกยักษ์) KBB .1.16 คือ Arcturus (ดาวดวงแก้ว) BA.2.86 ตั้งชื่อว่า Pilora (ชื่อของดาวเคราะห์น้อย) เพื่อให้จดจำได้ง่าย 

ขณะนี้ JN.1 ที่กำลังระบาดมากทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ยังไม่ได้มีการตั้งชื่อเล่น (ถ้าเป็นสายพันธุ์ใหม่ ที่เกิดในบ้านเรา เราน่าจะตั้งชื่อ พระอภัยมณี หรือขุนแผน และต่อมาลูกของสายพันธุ์นี้ จะได้ตั้งชื่อว่าเป็น สุดสาคร หรือพลายงาม ถ้าเราตั้งชื่อ ไม่รู้จะมีใครมาเรียกชื่อนี้ กับเราหรือไม่) 

การระบาดในไทย ระลอกแรก ในปีพ.ศ 2563 เป็นสายพันธุ์ S ต่อมาระบาดในระลอกที่ 2 ปลายปี 2563 ที่ตลาดกลางกุ้ง สายพันธุ์ระบาดเป็นสายพันธุ์ G (D614G) ในปีต่อมา 2564 การระบาดเกิดขึ้นที่สถานบันเทิงที่ทองหล่อ เป็นสายพันธุ์ alpha  และระลอกที่ 4 กลางปี 2564  เป็นสายพันธุ์ delta ส่วนสายพันธุ์ omicron เริ่มระบาดตั้งแต่ปลายปี 2564 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นระยะเวลาค่อนข้างที่จะยาวนาน มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ย่อยโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน (มกราคม 2567)เป็นสายพันธุ์ JN.1  
ยังจำได้ไหม ก่อน JN.1 จะระบาดในไทย โควิดมีที่มาอย่างไร แล้วตั้งชื่อแบบไหน  

สายพันธุ์ที่ระบาดและครองพื้นที่ส่วนใหญ่ จะเบียดบังและกดสายพันธุ์เดิมให้หายไป เพราะสายพันธุ์ใหม่แพร่กระจายได้เร็วกว่า ติดต่อได้ง่ายกว่า หรือมีลูกหลานได้มากกว่า ก็จะเป็นสายพันธุ์เด่น ด้วยกฎเกณฑ์ของวิวัฒนาการ สายพันธุ์ที่เกิดใหม่จะติดต่อง่าย แพร่กระจายได้ง่ายกว่าสายพันธุ์เดิมมาตลอด และจะลดความรุนแรงของโรคลง เพื่อความอยู่รอดตามทฤษฎี natural selection ของ Charles Darwin และโรคโควิด-19 ก็จะอยู่กับเราเป็นโรคประจำฤดูกาลต่อไป โดยการระบาดใหญ่ครั้งนี้ ได้ให้บทเรียนทางวิทยาศาสตร์กับเราเป็นจำนวนมาก

 

logoline