
เป็นอีกกรณีที่ผู้คนในสังคมให้ความสนใจ จากเหตุที่มีครูสาว ที่ จ.เชียงราย ถูกชายที่มีประวัติยาเสพติด บุกเข้ามาทำร้าย จนบาดเจ็บสาหัส ขณะปฏิบัติหน้าที่ "ครูเวร" ที่โรงเรียน จนนำไปสู่การแสดงความคิดเห็น และความห่วงใยต่อบรรดาคุณครู ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว กลายเป็นกระแสการติด แฮชแท็ก #ยกเลิกครูเวรกี่โมง จนขึ้นเทรนด์ X ทวิตเตอร์ โดยยกเหตุผลเรื่องความปลอดภัย เพราะโรงเรียนบางแห่งมีครูน้อย ต้องอยู่เวรคนเดียว โดยเฉพาะครูที่เป็นผู้หญิง และเห็นตรงกันว่า ควรจ้างภารโรง หรือ รปภ. มาทำหน้าที่นี้จะดีกว่า
สิ่งที่ผู้คนสนใจในข่าวนี้ นอกจากเหตุอุกฉกรรจ์ที่เกิดขึ้น ยังมีหลากหลายคำถามที่ตามมาว่า "ทำไมต้องมีครูเวร ครูเวรทำหน้าที่อะไร" ทั้งที่ความจริงหน้าที่ครู คือการให้ความรู้ คำปรึกษาแก่นักเรียน หน้าที่ครูเวร เป็นการเพิ่มภาระงานให้แก่ครูหรือไม่?
ปัญหาเรื่องการเข้าเวรของครู ยังได้ถูกสะท้อนออกมาจากการทำแบบสอบถาม ครูผู้สอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - มัธยมศึกษาปีที่ 6 ทั่วประเทศ ในระหว่างวันที่ 9 - 15 มกราคม 2567 โดย Rocket Media Lab ร่วมกับมูลนิธิแพธทูเฮลท์ เพื่อสำรวจความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ที่พบว่า
กฎระเบียบของโรงเรียนที่ครูไม่ชอบมากที่สุด 18.48% ไม่ชอบการเข้าเวร
และสิ่งที่ครูไม่อยากให้มีมากที่สุด พบว่า 40.92% คือการอยู่เวรนอกเวลาเรียน
แล้วทำไมต้องมี "ครูเวร" แล้ว "ครูเวร" มีหน้าที่อะไร
การเป็นครูในประเทศไทย ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากหน้าที่สอนหนังสือ ให้ความรู้นักเรียนแล้ว ยังต้องทำอีกสารพัดหน้าที่ หนึ่งในนั้นคือหน้าที่ “อยู่เวร” ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ บางครั้งยังต้องมาเข้าเวรกลางคืน ในช่วงเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดพิเศษต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งช่วงปิดเทอม ที่ไม่มีการเรียนการสอน
ทั้งที่ในปัจจุบัน โรงเรียนและสถานศึกษาส่วนใหญ่ มีการจ้าง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) และติดตั้งอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยอื่น ๆ เช่น กล้องวงจรปิด สัญญาณกันขโมย ประตูรั้วเหล็กสูงใหญ่ ฯลฯ แต่ท้ายที่สุดภาระก็ต้องตกเป็นของครู ที่ต้องมาเฝ้าเวรอยู่ดี
คนที่เข้ามาทำหน้าที่ครู จะรู้เข้าใจว่า เป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันว่า ครูเวร มีหน้าที่การเข้าเวร หรือ นอนเวรกลางคืนที่โรงเรียน เพื่อเฝ้าทรัพย์สินทางราชการ ตลอดจนดูแลความปลอดภัยอื่น ๆ ซึ่งโรงเรียนจะมีที่พักให้ ตามศักยภาพของโรงเรียนนั้น ๆ เช่น โรงเรียนขนาดใหญ่ในเมือง ที่มีศักยภาพสูง ที่พักครูเวร ก็อาจจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอ แต่หากเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ในพื้นที่่ต่างจังหวัด หรูหน่อยก็อาจจะเป็นบ้านพักครู หรือเป็นเพียงห้องในอาคารเรียนที่ถูกดัดแปลงเป็นที่พักครูเวรเท่านั้น
ส่วนเหตุผลที่ต้องมีการทำหน้าที่ครูเวร เป็นไปตาม มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2542 ซึ่งเป็นการแก้ไขมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 15 เม.ย. 36 เรื่องการจัดเวรรักษาการณ์ประจำสถานที่ราชการ ที่ระบุให้สถานที่ราชการทุกแห่ง ต้องจัดให้มีเวรรักษาการณ์ประจำสถานที่ราชการ หรือหน่วยงานนอกเวลา และในวันหยุดราชการตลอดเวลา ทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อดูแลป้องกันความเสียหาย อันจะบังเกิดแก่สถานที่ราชการหรือหน่วยงานจากกรณีต่าง ๆ มีหลักเกณฑ์การอยู่เวรรักษาการณ์ ดังต่อไปนี้
สำหรับบทบาทและหน้าที่ของครูเวรในแต่ละวันนั้น มีตัวอย่างคำสั่ง เรื่อง แต่งตั้งเวรรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ (โรงเรียน) ประจำปี 2560 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ระบุเอาว่า
1. บทบาทหน้าที่ของครูเวรประจำวันกลางวัน
2. บทบาทหน้าที่ของครูเวรกลางคืน
3. ผู้ตรวจเวร
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุร้ายกับ "ครูเวร" ก็เหมือนจะมีข่าวดีกับบรรดาคุณครูทั้งหลายบ้าง เมื่อ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มอบหมาย ศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. บุคลากรของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 (สพป.เชียงราย เขต 1) นักจิตวิทยาประจำเขตพื้นที่พร้อมทีมสหวิชาชีพ รุดลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามอาการของคุณครูที่ได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนี้ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยังได้แสดงความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกำชับ สพฐ. ให้ดูแลขวัญและกำลังใจของครูที่ประสบเหตุ พร้อมติดตามการดำเนินคดี และกำหนดแนวทางสร้างเสริมความปลอดภัยในสถานศึกษาให้รัดกุมมากขึ้น รวมถึงทราบถึงภาระและความกังวลใจของคุณครูทั่วประเทศ ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เวรรักษาการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเวรกลางวันหรือเวรกลางคืน ตามมติคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2542 จึงได้กำหนดนโยบายลดภาระครู เพื่อให้คุณครูได้ทุ่มเทเวลา เพื่อการเรียนการสอนอย่างเต็มที่ และได้สั่งการ สพฐ. ให้เสนอขอคณะรัฐมนตรี อนุมัติคืนอัตรานักการภารโรงกว่า 14,000 ตำแหน่ง เพื่อให้ทุกโรงเรียนมีนักการภารโรงประจำ ซึ่ง สพฐ. ได้จัดทำคำขอต่อ ครม. เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่กลางเดือนที่ผ่านมา
โดยในระหว่างที่ รอ ครม. พิจารณาอนุมัติ คืนตำแหน่งนักการภารโรง ซึ่งจะสามารถช่วยทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่โรงเรียนได้อีกแรงหนึ่ง ขอสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และโรงเรียนประสานความร่วมมือกับหน่วยงานปกครองในพื้นที่ หรือผู้นำชุมชน ช่วยจัดเวรยาม ดูแลความปลอดภัยในโรงเรียน และช่วยเฝ้าระวังกรณีชุมชน มีบุคคลผู้เสี่ยงมีพฤติกรรมรุนแรง ซึ่ง สพฐ. ส่วนกลางได้มีหนังสือส่งถึงกระทรวงมหาดไทย ให้สนับสนุนการทำงานของโรงเรียนก่อนหน้านี้แล้ว
นอกจากนี้ สพฐ. จะได้เร่งแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาแนวทางการจัดเวรยาม และการรักษาความปลอดภัยของสถานศึกษา ที่เหมาะกับบริบทความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบัน รวมถึงสนับสนุนการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเสริมสร้างความปลอดภัย เพื่อให้โรงเรียนเป็นสถานที่แห่งการเรียนรู้ ที่สร้างความสุขและความอุ่นใจให้แก่ครู นักเรียนทุกคน
บทสรุปของเรื่อง "ครูเวร"
จากเรื่องราวที่นำเสนอมาทั้งหมดจะเห็นว่า ยังเป็นเพียง มาตรการล้อมคอก แต่ก็ถือเป็นข่าวดีเล็ก ๆ ในข่าวร้ายที่เกิดขึ้นกับครู จากความพยายามแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับครู และคำถามดัง ๆ ของบรรดาครูทั้งหลายว่า ทำไมถึงไม่มีการยกเลิกการเข้าเวรของครู รวมถึงการทำหน้าที่อื่น ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องของการเรียนการสอน ตามนโยบายลดภาระครู เพื่อคืนครูให้กับนักเรียนอย่างแท้จริง