svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"เบนซ์ เรซซิ่ง"ร้องรัฐขอรับเงินเยียวยาปมอยู่เรือนจำเกินเวลารับโทษจริง

18 มกราคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"เบนซ์ เรซซิ่ง" ร้องศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ขอรับเงินยากรณีอยุ่ในเรือนจำเกินวันรับโทษจริง เสนอกรมราชทัณฑ์แยกผู้ต้องขังยังไม่ถึงที่สุดเพื่อป้องกันเสียสิทธิ์ รวมถึงปรับสภาพลดแออัดเรือนจำ

18 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช" หรือ "เบนซ์ เรซซิ่ง" ได้เดินทางเข้าพบ นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 เพื่อยื่นเรื่องขอรับเงินเยียวยาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 จากกรณีที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเกินจำนวนวันที่ต้องรับโทษจริงไป 256 วัน

โดย นายอัครกิตติ์ กล่าวว่า วันนี้ (18ม.ค.) มายื่นเรื่องเพื่อขอรับสิทธิ์ที่ควรจะได้รับ แม้เงินจะไม่ได้มีจำนวนมาก แต่ต้องการมาใช้สิทธิ์ของตนเอง เพื่อเป็นกรณีตัวอย่างให้ผู้อื่นที่อยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกับตน ว่าจะได้รับสิทธิ์ดังกล่าวด้วย

นอกจากนี้ ส่วนตัวยังได้ขอคำปรึกษาจาก นายกองตรี ธนกฤต กรณีขอให้กรมราชทัณฑ์แยกการคุมขังของผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณา และผู้ต้องขังตามคำพิพากษาออกจากกัน เพราะถ้าคดียังไม่สิ้นสุด ยังถือว่าผู้ต้องขังยังเป็นผู้บริสุทธิ์ เพราะจากประสบการณ์ในฐานะที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ จึงอยากเป็นกระบอกเสียงตัวแทนแก่ผู้ต้องขัง

"อยากให้มีการแยกผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดีออกมา เพราะเห็นว่าได้รับการปฏิบัติเหมือนเช่นผู้ต้องขังตามคำพิพากษา จึงทำให้ส่งผลกระทบในหลายด้าน ทำให้สูญเสียสิทธิบางอย่าง เช่น การเยี่ยมญาติ , การทำเอกสารเพื่อสูคดี และการพบทนายความ อย่างการเยี่ยมญาตินั้นจะได้รับโอกาสเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งๆ ละ 20 นาที เท่ากับปีละ 16 ชั่วโมงเท่านั้น เช่นเดียวกับนักโทษเด็ดขาด ทำให้สูญเสียโอกาสจนอาจถึงแพ้คดีได้" นายอัครกิตติ์ กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีผู้ต้องขังในเรือนจำทั้งหมด 276,466 คน ในจำนวนนั้นมีผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างพิจารณาคดี 54,530 คน คิดเป็นร้อยละ 19.724 จึงอยากให้แยกผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างพิจารณาคดีออกมา เพื่อให้ได้รับสิทธิ์ที่สมควรจะได้

นอกจากนี้ อยากเสนอให้แก้ปัญหาเรื่องความแออัดภายในเรือนจำ เพราะจากประสบการณ์ตนเอง โดยเฉพาะการใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ มีความยากลำบากเป็นอย่างมาก เพราะจำนวนผู้ต้องขังที่แออัด นอนลำบาก , เข้าห้องน้ำลำบาก , อาบน้ำลำบาก และกินอยู่ลำบาก ซึ่งการปล่อยตัวชั่วคราว น่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง

ด้านนายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า จะนำเรื่องที่นายอัครกิตติ์ ขอเงินเยียวยาส่งให้กับกรมคุ้มครองสิทธิ์ และเสรีภาพพิจารณาต่อไป ซึ่งโดยปกติแล้วสามารถยื่นเรื่องได้ภายใน 1 ปี หลังจากมีคำสั่งให้ปล่อยตัว และยอมรับว่าเป็นครั้งแรกที่มีจำเลยในคดีมาเรียกร้องขอรับเงินเยียวยา เพราะถูกขังเกินวันของการรับโทษจริง เพราะที่ผ่านมามีแต่เหยื่อที่เป็นแพะมาขอรับเงินเยียวยา ซึ่งต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ คาดว่าจะทราบผลภายใน 1 เดือน

 

"ถ้าหากได้รับการอนุมัติ โดยเบื้องต้นนายอัครกิตติ์ จะได้รับเงินเยียวยา 2 ส่วน คือ ได้จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพวันละ 365 บาท เนื่องจากมีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพมหานคร และได้รับเงินเยียวยาจากกรมราชทัณฑ์วันละ 500 บาท ซึ่งแต่ละพื้นที่จังหวัด จะได้รับเงินไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับภูมิลำเนาของผู้ร้อง" นายกองตรี ธนกฤต กล่าว

 

ส่วนกรณีที่อยากให้มีการแยกผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีออกจากผู้ต้องขังตามคำพิพากษา โดยส่วนตัวแล้วเห็นด้วย เพราะยังไม่ถือว่าเป็นนักโทษเด็ดขาด ควรได้รับสิทธิ์ที่แตกต่างกัน อีกทั้ง ยังเห็นว่าอยากให้มีการแยกผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีในคดีการเมืองออกมาด้วย ซึ่งจะให้ฝ่ายกฎหมายของศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 นำไปพิจารณาเพื่อยื่นต่อกระทรวงยุติธรรมต่อไป

สำหรับคดีนี้ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง นายอัครกิตติ์ ในข้อหาสมคบค้ายาเสพติด เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ แต่มีความผิดในข้อหาฟอกเงิน จึงพิพากษาให้จำคุก 3 ปี 4 เดือน ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่เนื่องจากนายอัครกิตติ์ ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำมากว่า 4 ปี เกินจำนวนวันที่ต้องรับโทษจริง จึงต้องได้รับเงินเยียวยาดังกล่าวด้วย

logoline