svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เปิดความเชื่อ "นะหน้าทอง" พิธีเสริมเสน่ห์จาก "พระลักษณ์" สู่มหานิยม 9 จุด

เปิดความเชื่อ "นะหน้าทอง" พิธีกรรมเสริมเสน่ห์ จาก "พระลักษณ์" วรรณคดี "รามเกียรติ์" ผู้ที่เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ สู่เสน่ห์มหานิยม 9 จุดสำคัญ ที่สายมูนิยมแปะทองทำพิธีในร่างกาย

ข่าวครึกโครมในช่วงนี้ หนีไม่พ้นกระแสการลง "นะหน้าทอง" ซึ่งปรากฎข่าวกรณีการ "ลงนะดาก" โดย อาจารย์แมน แห่งจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งถูกแฉพฤติกรรมผ่านเพจ "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6" พร้อมนำคลิปการทำพิธีที่หลายคนชมแล้วถึงกับอึ้ง เมื่อมีการทำพิธีด้วยการนำ แผ่นทองคำเปลวปิดตามบั้นท้าย จากนั้นทำการท่องคาถา แล้วเสกเป่า ใช้ลิ้นเลียบริเวณทวารหนัก

ต่อมา "อาจารย์แมน" เปิดใจถึงเคล็ดวิชา "ลงนะของลับ" และ "คาถานะรูทอง" ทำมานานนับสิบปี ส่วนการ"ลงนะ"บริเวณไหนนั้น ลูกศิษย์ที่มาทำจะเป็นคนชี้จุดต่างๆ ซึ่งตนเองก็ทำให้ตามคำขอ โดยจุดที่นิยมมากคือ บริเวณก้น หรือ "นะดาก" และบริเวณของลับ ซึ่งที่ผ่านมามีคนดังทั้งนักการเมือง ดารานักแสดงมาทำพิธีจำนวนมาก 
เปิดความเชื่อ "นะหน้าทอง" พิธีเสริมเสน่ห์จาก "พระลักษณ์" สู่มหานิยม 9 จุด
ขณะเดียวกัน "พระราชธรรมนิเทศ" หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ระบุว่า พิธีดังกล่าวลามก วิปริต วิปลาส หลังๆเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนพลัดหลัก อะไรแกว่งมาไขว่คว้าเอาไว้ก่อน กลายเป็นเรื่องน่าเกลียด

วงจรไสยศาสตร์ สายมู จะทำอะไรแปลกๆเพี้ยนๆไปเรื่อย แต่ถ้าทำแล้วมีความสุขก็ช่างเขา คนที่ยังไม่ทำก็อย่าไปทำ ขอให้อยู่ในหลักศีล สมาธิ ปัญญาจะดีที่สุด มันเป็นแค่ศาสตร์หนึ่งทำไปไม่มีทางดับทุกข์ได้สิ้นเชิง เผลอๆก่อทุกข์ด้วย ดูแล้วน่าเกลียด คนปกติเขาไม่ทำกัน
เปิดความเชื่อ "นะหน้าทอง" พิธีเสริมเสน่ห์จาก "พระลักษณ์" สู่มหานิยม 9 จุด

เปิดข้อมูล ที่มาของ "นะหน้าทอง"
พิธีลง "นะหน้าทอง" มีมาตั้งแต่โบราณ ในอดีตถือเป็นพิธีมงคลอย่างยิ่ง มีรากฐานมาจาก ลัทธิพราหมณ์ สืบเนื่องมาจากวรรณคดี "เรื่องรามเกียรติ์" ซึ่งมีตัวละครสำคัญคือ "พระลักษณ์" 

"พระลักษณ์" มีศักดิ์เป็นน้องของ "พระราม"  มีรูปกายเป็นสีทอง มีลักษณะ สง่างาม เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดา ด้วยคุณของพระลักษณ์ดังกล่าวมานี้ ในกาลต่อมาจึงได้ถือเป็นคติในการสร้างวิชาสายเมตตามหานิยม และมหาเสน่ห์ 

"นะหน้าทอง" ถือเป็นวิชาไสยศาสตร์ที่มีอำนาจทางเมตตามหานิยม จัดเป็นวิชาชั้นสูงที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธคุณ ไม่ใช่วิชาสายต่ำ หรือมนต์ดำ
พระลักษณ์ ผู้มีใบหน้าสีทอง เป็นที่รักของทั้งเทวดาและมนุษย์ (ภาพจาก IG : baanrukhuakhon_khonmask)
ทำไมต้องใช้ "ทองคำเปลว" ?
คุณลักษณะเด่นของ "พระลักษณ์" สายเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ โชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง คติของ "นะหน้าทอง" จึงมาจากการเอาความเป็น พระลักษณ์หน้าทอง มาประสิทธิ์ (ลงนะ) แก่ผู้ที่ต้องการพรนั้น 

แต่จะไปเอาหน้ากาก พระลักษณ์ มาสวมติดหน้าอยู่ตลอดเวลาคงเป็นไปไม่ได้ ตามพิธีโบราณจึงใช้แผ่นทองคำเปลว มาแปะทั่วไปทั้งใบหน้า เป็นดั่งสัญญลักษณ์ของ พระลักษณ์หน้าทอง จากนั้นก็เสกเป่ามนต์คาถาตามความเชื่อ
เปิดความเชื่อ "นะหน้าทอง" พิธีเสริมเสน่ห์จาก "พระลักษณ์" สู่มหานิยม 9 จุด

"ธาตุทอง" คือ มงคลธาตุ ซึมซับสิริมงคล
นอกจากนี้ "ทองคำเปลว" ถือว่าเป็นของสูง เสมือนความสุข ความสว่าง ทองคำ เป็นสิ่งที่รวมเอาพลังของพระอาทิตย์ และพระจันทร์ มาไว้ด้วยกันเป็นธาตุมงคลที่ซึมซับสิริและมงคลมาสู่ผู้ที่รับทองคำนั้นเข้ามา 

ตาม คัมภีร์ไสยเวทย์ "ทองคำ" ถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าในตัวเอง จะโดนอะไรมากระทบ จะโดนไฟแผดเผา ก็ไม่เสียคุณค่าในตัวเอง 

ดังนั้น การลง "นะหน้าทอง" ไม่ใช่ แค่เอาทองปิดหน้า แต่มีการลงคาถาประสิทธิ์ลงไปบนแผ่นทอง ที่มีนัยแฝงแห่งความเป็นสิริมงคลมากมาย
หน้ากาก "พระลักษณ์" (ภาพจาก IG : baanrukhuakhon_khonmask)
"นะหน้าทอง" ทำไมต้องปิดแผ่นทองเต็มหน้า
การลงนะหน้าทองจะใช้แผ่นทองคำแท้ๆ หรือ แผ่นทองคำเปลว ตั้งแต่จำนวน 3 , 5, 9 ถึง 108 แผ่น แล้วแต่ความพึงพอใจ เชื่อกันว่าเมื่อได้ลงนะหน้าทองแล้ว หากผู้นั้นปฏิบัติอยู่ในศีลในธรรม แผ่นทองจะติดอยู่ที่กะโหลกหน้าผาก

สำหรับ จุดสำคัญในร่างกาย ที่นิยมในการ ลงนะหน้าทอง มีทั้งหมด 9 จุด ส่วนมากอยู่บนศีรษะและใบหน้า ได้แก่ 

  • 1. หน้าผาก : จุดสูงสุดในร่างกาย มองเห็นเด่นชัด ถือเป็นจุดเป็นมงคลทั้งปวง
  • 2. ฝ่ามือ : กระทำการสิ่งใดจะประสบความสำเร็จ
  • 3. แก้ม : เป็นจุดตามวิชาพรหมสี่หน้า (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา) มีคุณในเรื่องความเมตตาที่ประเสริฐ
  • 4. กราม : คำพูดน่าเชื่อถือ พูดอะไรคนฟังก็เชื่อ
  • 5. เปลือกตา : ผู้ใดเมื่อได้สบตาจะเป็นที่พึงใจ นิยมชมชอบ ผู้ใหญ่รักใคร่เอ็นดู
  • 6. ติ่งหูสองด้าน : เชื่อว่าเป็นที่สถิตย์ของวิญญาณ นิยมลงเพื่อเชิญบารมีเทวดารักษาให้อายุมั่นขวัญยืน
  • 7. กระหม่อม : พราหมณ์ถือว่ากระหม่อมเป็นจุดเข้าออกของปราณพลังชีวิต เป็นที่สถิตย์ของเทวดา
  • 8. คาง : เป็นจุดที่ต่ำที่สุดของใบหน้า ลงเพื่อความมั่นคง เป็นที่เคารพยำเกรง
  • 9. ลิ้น : ผู้มีวาจาไพเราะเสนาะหู ใครได้ยินแม้เพียงเสียงก็จะหลงใหลในวาจา

เปิดความเชื่อ "นะหน้าทอง" พิธีเสริมเสน่ห์จาก "พระลักษณ์" สู่มหานิยม 9 จุด
การ "ลงนะหน้าทอง" จะลงเฉพาะจุดที่ต้องการสิริมงคล แต่เพราะช่วงเวลานี้คนอาจต้องการสิริมงคลต่างๆกันไป อย่างไรก็ตามเมื่อได้ทำพิธีแล้ว ผู้รับการลงนะหน้ามอง มักจะเลือกลงให้ครบทั้ง 9 จุด ทำให้ระว่างทำพิธีหน้าตาจะมีแผ่นทองคำเปลว ทองอร่ามไปทั้งใบหน้า 

จุดที่นิยมลง นะหน้าทอง หรือ ปิดทอง เสริมสิริมงคล คือ หน้าผาก จุดนนี้นิยมที่สุด เพราะหน้าผาก ถือเป็น จุดสำคัญของใบหน้า ถ้าคิ้วคือมงกุฎของใบหน้า ซึ่งหน้าผาก คือ กระหม่อม หรือ ยอดของใบหน้า 

จุดถัดมา "แก้ม" แก้มเป็นจุดสำคัญของวิชาตามวิชาพรหมสี่หน้า ซึ่งพระพรหม มีคุณในเรื่องความเมตตา (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา) เมตตาที่แก้มจึงเป็นเมตตาที่ประเสริฐ

จุดที่สาม "กราม" จุดนี้เพื่อความน่าเชื่อถือในการพูด ส่วน "เปลือกตา" เชื่อว่า ลงตาแล้วจะทำให้เป็นที่นิยมพอใจของผู้พบเห็น 

ขณะที่ "ติ่งหู" เป็นที่สถิตย์ของวิญญาณ จุดนี้หมายถึงอายุมั่นขวัญยืน กระหม่อม พราหมณ์ถือว่า กระหม่อมเป็นทางเข้าออกของ พลังชีวิต เป็นที่สถิตย์ของเทวดา 
เปิดความเชื่อ "นะหน้าทอง" พิธีเสริมเสน่ห์จาก "พระลักษณ์" สู่มหานิยม 9 จุด
อย่างไรก็ตามในยุคหลัง ในการลง "นะหน้าทอง" อาจจะไม่มีการนำแผ่นทองคำเปลวมาปิดหน้าดังอดีต แต่นำหน้ากากพระลักษณ์สีทอง มาครอบที่ใบหน้า แล้วสวดคาถาที่เป็นมงคล 

"นะหน้าทอง" ในอดีตเป็นวิชาสายขาว เสริมกำลังใจและความสบายใจในการใช้ชีวิต แต่ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย กระทำการสิ่งใดถึงใช้สติและวิจารญาณในการอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดผลร้ายที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้