สำรวจ "หมอชิต 2" ไขปมดรามา พร้อมส่องความเห็น ประชาชนคิดยังไงกับสิ่งที่เจอ

29 ธันวาคม 2566 จากกรณี นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส. กทม. พรรคก้าวไกล โพสต์เกี่ยวกับ 14 ข้อ ความไม่เรียบร้อยในสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือ หมอชิต 2 จนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ นั้น

ต่อมา ทีมข่าว "เนชั่นทีวี" เดินทางไปในแต่ละจุด ที่เป็นประเด็นกัน พบว่า ประชาชนให้ความคิดเห็นกันหลายหลาย มีทั้งเห็นด้วยกับ บขส.และอยากให้ บขส.ปรับปรุง เพราะเป็นปัญหาจริงๆ

เริ่มจากจุดแรก คือ ห้องพยาบาลของสถานีขนส่งหมอชิต ห้องพยาบาล ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ใกล้กับทางเข้าหลัก ซึ่งช่วงกลางวันจะมีเจ้าหน้าที่ของศูนย์บริการสาธารณสุข 66 กรุงเทพมหานคร มาคอยอำนวยความสะดวกและดูแลประชาชน ในช่วงเทศกาล 7 วัน อันตรายด้วย

โดยพยาบาลวิชาขีพชำนาญการ ศูนย์บริการสาธารณสุข66 บอกว่า ตั้งแต่ 27 ธ.ค.66 ถึ. 4 ม.ค.67 เวลา 08.00-16.00 น. จะมีการผลัดเวรเข้ามาประจำ เพื่อดูแลและให้บริการประชาชน ส่วนนอกเวลา ก็จะเป็นหน้าที่ของ บขส. โดยจะมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ในการดูแลช่วยเหลือไว้พร้อม โดยเฉพาะเครื่อง AED 

จากนั้น ทีมข่าวเดินไปด้านหลัง จุดที่ประชาชนรอขึ้นรถออกจากท่า ของสายอีสานและสายเหนือ ซึ่งตรงจุดนั้น จะเป็นจุดที่ลิฟท์ติดป้ายว่าปิดปรับปรุง ไม่ให้ใช้บริการ  ซึ่งทาง บขส.ชี้แจงแล้วว่า ปิดให้บริการถาวร เพราะกังวลเรื่องไม่ปลอดภัย เนื่องจากเคยมีอุบัตเหตุล้มเป็นโดมิโน

จากการเดินสำรวจ พบว่า ผู้โดยสารหลายคนเลือกเดินลงบันได แต่หลายคนก็เลือกเดืนลงทางลาด ที่อยู่ติดกับลิฟท์ โดยเฉพาะคนที่มีสัมภาระมากๆ มีถุงของใหญ่ๆ เพราะถือของเดินลงมาได้สะดวกกว่า และถ้าใช้บริการรถเข็น จะเห็นว่า เข็นสัมภาระลงมาได้อย่างสบายๆ

โดยหนึ่งในประชาชนที่มาใช้บริการ เปิดเผยว่า มีทางลาด มันก็ดี กระเป๋าลากลงมาได้เลย ดูแล้วปลอดภัยกว่าใช้บันไดเลื่อน ส่วนพื้นที่ ดูไม่น่ากลัว เพราะมีเจ้าหน้าที่ตลอด ให้บริการดี

จากนั้น ทีมข่าวเดินไปต่อยังจุดเจ้าปัญหา คือ หมอชิตฝั่งขาเข้า ที่มีประเด็นว่าเป็นปัญหารถเถื่อน ปรากฎว่า ไปเจอกับเจ้าหน้าที่ตรวจการของกรมการขนส่งทางบก ประจำจุดอยู่ ซึ่งก็เป็นไปตามที่ บขส.ชี้แจงว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาจับปรับทันที โดยทาง เจ้าหน้าที่ตรวจการ บอกว่า ได้ประสานกับตำรวจ สน.บางซื่อ หากเจอรถป้ายรถทั้งแท็กซี่และวิน ก็จะจับปรับทันที 

สำหรับจุดบริเวณขาเข้าตั้งแต่ห้องน้ำ และทางเดินไปยัง จุดจอดรถเมล์ ซึ่งโซนนี้บางช่วง ก็จะเป็นพื้นที่ที่ไม่มีการใช้งานมานานแล้ว



ส่วนห้องน้ำโซนด้านหลังจะเปิดเป็นเวลา ติดป้ายบอกไว้ชัดเจน


แต่ที่เป็นไฮไลท์ คือ บริเวณทางเดินไปต่อรถรถเมล์ จุดที่ทาง สส.พรรคก้าวไกล โพสต์รูปภาพข้อความป้ายบอกทางเป็นลายมือ ปรากฎว่า มีป้ายเขียนไว้แบบนั้นหลายจุด พอไปสอบถามรัานค้าแถวนั้น บอกว่า "อ่อ ป้าเขียนเอง เพราะประชาชนหลงทางกันบ่อยและมักจะมาถามทาง และทางนี้เปลี่ยวมาก จริงๆก็อยากให้ทาง บขส. มีการปรับปรุงพื้นที่ตรงนี้"

ทั้งนี้ จากทีมข่าวยืนสังเกต พบว่า คนที่จะไปขึ้นรถเมล์ มองหาป้าย มองหาทางเดินไปกันตลอดเวลา ผู้สื่อข่าวจึงไปสอบถามคนที่จะเดินไปใช้บริการรถเมล์ เขาก็บอกเลยว่า เขาเนี่ย เดินหลงทาง หาทางไปขึ้นรถเมล์อยู่ หลายคนก็เดินกันหลง เพราะไม่รู้ไปทางไหนป้ายไม่มี ก็อยากจะให้ บขส.ช่วยปรับปรุงทั้งหมดด้วย

ต่อมา ทีมข่าวไปสำรวจห้องน้ำ และภาพรวมของความปลอดภัย พบว่า ห้องน้ำสถานีขนส่งหมอชิต มีพนักงานเข้าไปทำความสะอาดเป็นระยะๆ เปิดให้บริการในจุดที่มีผู้โดยสารหนาแน่น ตลอดไม่ได้ปิดให้บริการ  ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ที่มาใช้บริการบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ที่นี่สะอาด และให้บริการเป็นอย่างดี

เมื่อถามพนักงานขับรถโดยสารรถร่วม กรุงเทพ-อุบล ซึ่งขับรถที่นี่มาเป็น 10 ปี เห็นการพัฒนาของหมอชิต เขาบอกว่า  ทุกวันนี้ หมอชิตมีการพัฒนาและปรับปรุงดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ด้วยช่วงเย็นที่เป็นช่วงเทศกาลคนเยอะ อาจจะทำให้เจ้าหน้าที่ดูแลไม่ทั่วถึง เพราะเจ้าหน้าที่น้อยทั้งเรื่องความปลอดภัย และเรื่องความสะอาด แต่ปัจจุบันก็พบว่า มีความสะอาดตาขึ้นกว่าเดิมเยอะ

ประชาชนพอใจ การให้บริการของ "หมอชิต" หวังเพิ่มที่พักคอยรอรถช่วงเทศกาล


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บรรยากาศการเดินทางกลับของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่สถานีขนส่งหมอชิต พบว่า ช่วงเย็นมาจนถึงช่วงค่ำ มีประชาชนเดินทางมารอขึ้นรถกลับต่างจังหวัดกันเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ได้แออัดหนาแน่น เพราะวันนี้ไม่ใช่วันที่พีคที่สุด เนื่องจากส่วนใหญ่กลับไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

แต่ที่พบในช่วงเย็นจนถึงช่วงค่ำ ประชาชนที่มารอที่สถานีขนส่งหมอชิต โดยเฉพาะช่วงเทศกาลเรียกได่ว่า เป็นภาพคุ้นตากันเลย คือ ประชาชนจำนวนมากต้องนั่งรอรถออก กับพื้น ทั้งโซนที่เป็นห้องแอร์ และโซนที่เป็นชานชราที่ไม่มีแอร์ เพราะเก้าอี้ไม่เพียงพอ จึงเป็นสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่ สะท้อนปัญหานี้ อยากให้มีที่นั่งเพียงพอในการรองรับประชาชนช่วงเทศกาล

แต่ภาพรวมของการให้บริการของเจ้าหน้าที่ในสถานีขนส่งหมอชิต ประชาชนส่วนใหญ่พอใจ และบอกว่าให้บริการดี สะอาด และรู้สึกปลอดภัย

สำหรับในช่วงเวลาที่มีประชาชนมารอขึ้นรถจำนวนมาก นอกจากเจ้าหน้าที่ของ บขส.แล้ว ก็จะมีทั้งตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มาช่วยกันดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนไปจนกว่าคนจะเบาบางลงด้วย

ย้อนดูโพสต์ "ศุภณัฐ" สส. กทม. ก้าวไกล สะท้อนปัญหาภายใน "หมอชิต 2"

ก่อนหน้านี้ (28 ธ.ค.66) นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส. กทม. พรรคก้าวไกล ได้โพสต์เกี่ยวกับ "หมอชิต 2" โดยระบุว่า ความปลอดภัยพื้นฐาน ที่รัฐบาลให้คุณไม่ได้ อย่างที่ทุกคนทราบ หมอชิต 2 คือสถานีขนส่งกลับต่างจังหวัด ที่มีผู้โดยสารใช้งานมากที่สุดในกรุงเทพ นั่งรถไปภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน ยิ่งในช่วงเทศกาล มีประชาชนใช้บริการมากถึง 60,000-100,000 คน / วัน รวมตลอดเทศกาล มีไม่น้อยกว่า 500,000 คน แต่กระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และ บขส. ที่พรรคเพื่อไทย ดูแลโดยตรง กลับเพิกเฉย ไม่มีการแก้ไขไม่มีการทำอะไรทั้งสิ้น 

อีกทั้ง นายศุภณัฐ ยังระบุถึงปัญหาภายในสถานีขนส่งหมอชิต 2 จำนวน 14 ข้อ ประกอบด้วย

1. บันไดเลื่อน 5 ตัว เสียครบ 5 ตัว ประชาชนแบกสัมภาระขึ้นบันได กันอย่างทุลักทุเล 
2. ไม่มีลิฟท์โดยสาร 
3. จุดดับเพลิง 15 จุด เสีย 10 จุด
4. ห้องปฐมพยาบาลปิด 
5. ห้องให้นมบุตรไม่เปิด 
6. ชานชาลาไม่มีแอร์ ประชาชนนั่งรอรถไป สูด PM 2.5 ไป
7. เครื่องซื้อตั๋วไม่มีคนใช้ เสียเงินฟรี
8. ทางเดินเท้าไม่ universal design ลำพังจะลากกระเป๋ายังลำบาก คนพิการไปไม่รอด 
9. มืด แสงสว่างน้อย ไม่ปลอดภัย มีจุดเสี่ยงหลายจุด 
10. มีพื้นที่ทิ้งร้าง จนคนบุกรุกอาศัย
11. ห้องน้ำไม่ดี
12. ป้ายบอกทางแย่ คนไทยเดินหลง ต่างชาติยืนงง
13. แทกซี่-วิน รับจ้างผิดกฎหมาย คิดค่าบริการที่สูงเกินจริง 
14. ไม่มีการเชื่อมต่อจากสถานีขนส่งฯ ไปยังสถานีรถไฟฟ้า BTS ผิดหลักขนส่งมวลชน

ทั้งนี้ นายศุภณัฐ ระบุอีกว่า แม้ว่าตัวเองจะเรียกร้องให้แก้ไข ทั้งอภิปรายในสภา เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว จนรัฐสภาออกหนังสือส่งไปยังกระทรวงคมนาคม ก็เมื่อ 3 เดือนก่อน และตนเองยังส่งหนังสือส่วนตัวไปยังกระทรวงคมนาคม เมื่อ 1 เดือนก่อน แต่รัฐบาล ก็เพิกเฉย ไม่มีการปรับปรุงสถานีแต่อย่างใด 

และเทศกาลวันปีใหม่ก็มาถึง สิ่งที่หน่วยงานทำคือ เพิ่มจำนวนเที่ยวรถ ขยายเวลาบริการ เพื่อโกยเงินช่วงเทศกาล แต่ประชาชนทั้งคนไทย คนต่างชาติ ก็ต้องเจอกับสถานีที่ไร้คุณภาพเช่นเดิม นี่เป็น negative soft power ที่รัฐบาลอยากส่งต่อไปให้ทั่วโลกหรือไง? 

ซึ่ง นายศุภณัฐ ยังระบุทิ้งท้าย อย่าต้องให้เกิดเหตุการณ์สูยเสียหรืออุบัติเหตุกับประชาชนก่อนเลย ถึงค่อย "วัวหายล้อมคอก"


หลังจากนั้น นายศุภณัฐ ได้ลงพื้นที่สถานีขนส่ง "หมอชิต 2" และโพสต์ในเฟซบุ๊ก ระบุว่า เมื่อกี้ไปสถานี #หมอชิต2 มา คนเยอะมาก ที่นั่งไม่พอ นั่งรอกันที่ฟุตบาทเพียบ และมีประเด็นใหม่ที่ประชาชนมาร้องคือตั๋วผี ขายเกินราคา ปกติ 400 กว่า วันนี้ขาย 650 และคนขายบอก "ไม่เอาก็ไม่ต้องเอา ระวังไม่มีรถกลับบ้าน มีคนอื่นพร้อมจะซื้ออีกเยอะ" คนพวกนี้ขูดเลือดกับปู ส่วนวินเถื่อน เห็นผมใส่เสื้อส้มไปพร้อมนักข่าว ขับหนีเรียบร้อย

เรื่องที่นั่ง ผมแนะนำว่าช่วงเทศกาล อาจลองยืมหน่วยงาน และโรงเรียนต่างๆได้นะครับ ไม่ต้องลงทุน สถานที่ราชการเขาปิดกัน เราก็ยืมมาบริการประชาชนได้ ถ้าหน่วยงานร่วมมือกัน มันน่าจะแก้ง่ายขึ้นนะครับ 

บขส. แจงข้อเท็จจริง

ต่อมา บริษัทขนส่ง จำกัด หรือ บขส. ออกมาชี้แจง ระบุว่า บขส.ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจประเภทจดทะเบียนบริษัทตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เป็น การบริหารงานเพื่อบริการประชาชนแบบไม่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณแผ่นดิน 

ขอชี้แจงต่อข้อกล่าวหาของคุณศุภณัฐ มินชัยนันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล กรณี พื้นที่การให้บริการของ สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต 2 มีความไม่เรียบร้อย ถึง 14 ประการ ขอเรียนข้อเท็จจริง ดังนี้

1) ข้อกล่าวหาต่อระบบโครงสร้างพื้นฐาน เช่น บันไดเลื่อนเสีย  ลิฟต์ ไม่ได้ให้บริการ ห้องปฐมพยาบาลปิด ห้องให้นมบุตรปิด จุดดับเพลิงเสีย ชานชาลาไม่มีห้องแอร์ 

บริษัทฯ ได้ดำเนินการบริหารงานสถานีขนส่งหมอชิต 2 ที่ได้เช่าที่จากการรถไฟมาถึงขณะนี้เป็นเวลา 26 ปี ให้เกิดความเรียบร้อย ปลอดภัยต่อผู้โดยสาร ถึงแม้ว่าอาคารรับรองผู้โดยสาร ชานชาลา จะมีอายุ และได้ปรับปรุงให้เกิดความปลอดภัยมาโดยตลอด 

โดยงบประมาณของบริษัท  โดยในปัจจุบันบริษัทจำเป็นต้องปิดบันไดเลื่อนชุดที่ติดตั้งมา 26 ปี เนื่องจากไม่สามารถหาอะไหล่ได้ และถึงแม่จะเปิดได้ในข่วงเทศกาลก็จะปิดเพราะอาจเป็นอันตรายต่อประชาชนหากมีเหตุคนล้นอาคารชานชาลาในช่วงเทศกาล 

ส่วนลิฟต์ และระบบสาธารณูปโภค เช่น จุดดับเพลิง แอร์คอนดิชั่น ที่อาคารผู้โดยสาร นั้น ขอยืนยันว่าใช้งานได้ทุกจุด ส่วนห้องปฐมพยาบาลบริษัท เปิดให้บริการตลอด ห้องให้นมบุตร โดยขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ประจำห้อง เนื่องจากหากเปิดไว้ตลอดอาจเป็นจุดลับตาในการก่อให้เกิดเหตุอาชญากรรมได้ 

สำหรับในส่วนพื้นที่ทิ้งร้าง นั้น เป็นพื้นที่เพื่ออยู่การพาณิชย์ อยู่นอกอาคาร และเป็นส่วนการให้บริการ เดิมเป็นจุดเชื่อมต่อกับเขตเดินรถที่ 8 ของ ขสมก แต่ในช่วงปี 2563-2566 ที่ผ่านมาไม่มีผู้เช่า บริษัทจึงทำการปิดพื้นที่ เพื่อเตรียมการพัฒนาโดยรื้อสิ่งปลูกสร้างออกทั้งหมดและพัฒนาเป็น Transpotation Hub ตามนโยบายของรัฐบาลให้เกิดการเชื่อมต่อ แบบไร้รอยต่อ โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำ ผังและแบบการพัฒนา ให้แล้วเสร็จใน 1 ปี 

2) ข้อกล่าวหาในเชิงบริการ การเชื่อมต่อผู้โดยสาร บริษัทฯ ขอเรียนยืนยันว่า ตลอดระยะเวลาการให้บริการที่ผ่านมา ประชาชนสามารถเดินทางเชื่อมต่อเข้าสู่หมอชิต 2 ได้โดยระบบรถโดยสารสาธารณะได้หลายสาย และในช่วงตั้งแต่รัฐบาลได้เข้ามาบริหาร 

ประเทศได้มีนโยบายในการเชื่อมต่อและบูรณาการระบบการขนส่ง บริษัทฯ จึงได้ประสานงานกับทางการรถไฟแห่งประเทศไทย ในการส่งผู้โดยสารขาเข้าโดยมีจุดแวะส่ง ที่สถานี กลางกรุงเทพอภิวัฒน์ซึ่งในปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการมาวันที่ 15 ธันวาคม 2566 

มีประชาชนใช้บริการการเชื่อมต่อในปัจจุบันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ บริษัท ยังได้ประสานงานกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ในการ จัดให้มีรถของ ขสมก. เข้ามาจอดในบริเวณชานชาลา ภายในบริเวณสถานี จำนวน 12 สาย 

ซึ่ง ได้เริ่มทดลองให้บริการตลอดเดือนธันวาคม 2566 มีประชาชนใช้บริการมากถึง 77,000 ราย และจัเพิ่มจำนวนสายทางเพิ่มขึ้น ในเส้นทาที่ประชาชนเดินทาง 

สำหรับการปราบปรามผู้มีอิทธิพล วินแท็กซี่ มอเตอร์ไซด์เถื่อน ทาง บริษัท ได้ดำเนินการมีหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีการ ดำเนินการจับกุมผู้บุกรุก ผู้กระทำความผิดกฏหมาย ในทุกวัน 

อย่างไรก็ดี บริษัท จะทำการ จัดการขั้นเด็ดขาดต่อผู้กระทำความผิดผู้บุกรุกและดำเนินคดีอาญาอย่างเข้มงวดในทุกรายต่อไป

บริษัทขอเรียนว่า รัฐบาลและกระทรวงคมนาคมได้มีความห่วงใยต่อบริษัทฯ ที่ประสบปัญหาการขาดทุนในช่วงเวลาสามปีที่ผ่านมา เนื่องจากการเดินทางในระบบรถขนส่งสาธารณะระหว่างเมืองได้รับความนิยมลดลง  ตลอดจนประสบปัญหาสถานการณ์โรคระบาด จนทำให้ประสบปัญหาการขาดทุนถึงสามปีซ้อน 

อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาการให้บริการในปี 2566 ที่ผ่านมาบริษัทสามารถฟื้นฟูสถานะทางการเงินไปสู่สถานะที่ดีขึ้นโดยการเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายสูงขึ้นมากกว่าปี 2565 ถึงประมาณ 1,000 ล้านบาท และพร้อมที่จะพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอาคาร ชานชาลา และสิ่งอำนวยความสะดวกตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการโดยเร็วที่สุดต่อไป

"ศุภณัฐ" โต้คำชี้แจง บขส.ไม่สะท้อนสภาพความเป็นจริง

ต่อมา นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส. กทม. พรรคก้าวไกล ให้ความเห็นว่า คำชี้แจงของ บขส.ไม่สะท้อนสภาพความเป็นจริงของหมอชิต 2 ที่พี่น้องประชาชนต้องเผชิญอยู่ทุกวัน เช่น จากการลงพื้นที่เมื่อคืนนี้ ตนก็ยังคงพบว่าจุดดับเพลิงบริเวณชั้น 3 ไม่มีถังดับเพลิง ส่วนเครื่องปรับอากาศที่ชี้แจงว่ามีนั้น ก็มีเฉพาะในอาคารขายตั๋วโดยสาร แต่ที่ชานชาลาขึ้นรถซึ่งเป็นจุดที่มีประชาชนไปนั่งรอกันอย่างแออัด จนต้องนั่งบนฟุตบาท กลับไม่มี

ในส่วนของบันไดเลื่อนที่ บขส.ชี้แจงว่ามีอายุมาก และไม่มีอะไหล่มาซ่อมแซม ศุภณัฐกล่าวว่า บันไดเลื่อนที่หมอชิต 2 เสียมานานนับปีแล้ว โดยในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา บขส.แจ้งว่าจะตั้งงบมาปรับปรุงซ่อมแซม แต่เวลาผ่านไป 8 เดือน เหตุใดจึงเพิ่งรู้ว่าบันไดเลื่อนไม่มีอะไหล่ แล้วขั้นตอนต่อจากนี้จะทำอย่างไรต่อไป ต้องจัดซื้อบันไดเลื่อนชุดใหม่ใช่หรือไม่ นี่คือสิ่งที่ บขส.ต้องชี้แจงกับประชาชนให้ชัดเจน ไม่ใช่ทำงานอย่างล่าช้า ไร้ประสิทธิภาพ และไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจนเช่นนี้

ในส่วนของห้องให้นมบุตรและห้องปฐมพยาบาล ศุภณัฐ กล่าวว่า สัปดาห์ที่แล้วมีทีมงานของตนเข้าไปสำรวจ ทั้งสองห้องไม่เปิด แต่วันนี้ในช่วงเทศกาลกลับมาเปิดแล้ว จึงเชื่อว่าน่าจะเปิดให้ใช้เฉพาะในช่วงเทศกาล เพราะในวันปกติห้องปิดมืดสนิท ไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำ ทั้งที่ห้องเหล่านี้ควรเปิดพร้อมให้บริการประชาชนอยู่ตลอดเวลา ไม่ควรจะต้องให้ประชาชนไปขอใช้บริการ

สำหรับพื้นที่ทิ้งร้าง ที่ บขส.ชี้แจงว่ากำลังจะปรับปรุงเป็นศูนย์การเดินทาง ศุภณัฐชี้ว่า จุดนี้ไม่ใช่แค่ไม่มีคนเช่า แต่พื้นที่ถูกทิ้งร้างจนมีคนไร้บ้านเข้าไปอาศัยอยู่ บขส.ทราบหรือไม่ว่ามีคนไร้บ้านบุกรุกเข้าไปแอบอาศัยอยู่ในพื้นที่ของตน บขส.ได้ให้ความใส่ใจพื้นที่ของตน รวมถึงพี่น้องประชาชนผู้โดยสารมากน้อยแค่ไหน

นอกจากนี้ยังพบปัญหาการโก่งราคาตั๋วในช่วงเทศกาล รวมถึงปัญหาแท็กซี่-วินมอเตอร์ไซค์ผิดกฎหมายก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะขากลับจากการเดินทางที่ผู้โดยสารถูกแท็กซี่-วินมอเตอร์ไซค์มาดักรอตามทางเดิน เรียกเก็บค่าโดยสารแพงเกินจริง

นายศุภณัฐ กล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งเหล่านี้คือปัญหาที่ประชาชน ทั้งที่เดินทางออกต่างจังหวัดและกลับเข้ามากรุงเทพฯ ต้องพบเจออยู่เป็นประจำ แต่ไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ซึ่งสะท้อนว่า บขส. รวมถึงกระทรวงคมนาคม ไม่ได้ลงมารับรู้และรับทราบปัญหาของพี่น้องประชาชนเลย พร้อมตั้งคำถามว่า ในเมื่อสถานีขนส่งหมอชิต 2 คือ "หน้าด่าน" ของเมืองรอง การมีสถานีขนส่งผู้โดยสารที่เสื่อมโทรมเช่นนี้ จะถือเป็นการทำลายเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเมืองรองหรือไม่ โดยเฉพาะเมืองที่ไม่มีเครื่องบินหรือรถไฟเดินทางไปถึง แล้วอย่างนี้ นโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองจะเกิดขึ้นได้อย่างไร