
12 ธันวาคม 2566 กลายเป็นประเด็นร้อนแรง "จบราชภัฏ" บนโลกโซเชียล เมื่อปรากฎข้อความจาก ผู้ปกครองท่านหนึ่ง ตามหาครูสอบพิเศษวิชาภาษาอังกฤษ ในกลุ่มเฟซบุ๊ก "หาครูสอนพิเศษตามบ้าน" ซึ่งเป็นกลุ่มสาธารณะ มีสมาชิกในกลุ่มประมาณ 8 พันคน โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Sxxxxx Txxxxx" ระบุว่ามีข้อความไว้ว่า..
"หาครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษ เด็ก 7 ขวบครับ พิกัดศรีราชา ขอคนที่ไม่จบจาก ราชภัฏนะครับ นอกนั้นได้หมด"
ภายหลังจากโพสต์ดรามา ไม่รับครูสอนพิเศษ "จบราชภัฏ" เผยแพร่ไป มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งมองว่าเป็นการกำหนดคุณสมบัติตามที่คาดหวัง ขณะที่บางคนการมองว่าเป็นการดูหมิ่นสถาบันการศึกษา พร้อมทั้งตั้งคำถามว่า สิ่งที่โพสต์เป็นความต้องการที่แท้จริง หรือแค่มาปั่นป่วนเท่านั้น เช่น
"เลือกทำไมทีหลังครับ บอกตอนนี้เลยก็ดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลาทั้งสองฝ่าย ทั้งคนหาและคนสอน"
"มันไม่ได้ต่างอะไรกับพวกHR ที่บอกรับสมัครงาน พอไปสมัครจริงๆยื่นเอกสาร ถ่ายรูปครบ บอกจะติดต่อมาละไม่ติดต่อ หายเงียบ มันเสียเวลาครับ"
"เค้าแค่ระบุมหาลัยที่ต้องการ มันจะโอเคกว่ากว่าทีาจะบอกไม่ต้องการ แล้วแค่ส่วนใหญ่ เค้าก็จะให้โปรไฟล์ไว้ ยังไม่ได้ถือเปนการเสียเวลา ก็แค่เลือกๆ ในสิ่งที่คุณต้องการ วิธีการมันก็ต่างกัน เดี่ยวนี้ก็ออนไลน์ทั้งหมด คนหางานเค้าก็ไม่ติดหรอกค่ะ ที่เค้าจะทิ้ง profile ไว้ และนี่ก็แค่แนะนำ เพราะสังคมเดี๋ยวนี้ สังคมที่ทำให้คนรู้สึกแย่คือแบบนี้คล้ายๆมกับการบูลลี่ทางอ้อมอ่ะค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แล้วแต่ จขกท ในวิธีการโพสเลยค่ะ แค่แสดงความคิดเห็นในอีกมุมนึง คุณลองอ่านหลายๆ ความคิดในนี้ ถ้าก้าวก่ายต้องขออภัย""รับสมัครลูกจ้างขนของ ที่เป็นชาย100% ไม่กะเทย ไม่เกย์ อย่าว่าเหยียดเพศนะ ถ้างั้นคนโพสต์ก็เหยียดสถาบันอ่ะ"
อ่านโพสต์ต้นเรื่อง >> คลิกที่นี่
ในเวลาต่อมา แอดมินผู้ดูแล กลุ่มเฟซบุ๊ก "หาครูสอนพิเศษตามบ้าน" ได้เข้ามาเขียนโพสต์สยบดรามาดังกล่าว โดยอยากให้มองว่าเป็นการแจ้งคุณสมบัติที่ต้องการของผู้ปกครอง ไม่อยากให้มองในมุมดูถูกสถาบัน เปรียบเทียบเหมือนการสมัครงานที่จะมีการสกรีนคุณสมบัติที่หน่วยงานต้องการ มีรายละเอียด ดังนี้..
หวัดดีค่ะ ปกติ #แอดมิน จะไม่ค่อยมายุ่งกะโพส แต่วันนี้เห็นมีโพสดราม่าจากการประกาศหาครู
ส่วนตัวเห็นว่ากลุ่มนี้ ถ้าผู้ปกครองต้องการแบบไหน จบสถาบันอะไร คุณสมบัติอะไร ก็สามารถเปิดกว้างบอกได้นะคะ จะได้ได้คนที่ตรงใจ อันนี้รวมถึงครูด้วย ถ้าไม่อยากรับสอนเด็กแบบไหน รึบ้านแบบไหน ก็บอกได้ เช่น ไม่อยากสอนเด็กLD ขอสอนห้องแอร์ บ้านใกล้รถไฟฟ้า...etc อะไรก็ว่าไปเถอะค่ะ
แอดถือว่ายิ่งใส่รายละเอียดที่จุกจิกแต่แรก มันทำให้ได้คนที่ถูกจริตไม่ต้องเสียเวลาคุยหลายคนรึเปลี่ยนครูไปมาค่ะ
ความคาดหวังคนเรามันต่างกัน อย่าคิดว่าไปดูถูกสถาบันรึอะไรเลยค่ะ คนสมัครงานหลายองค์กรที่ HR ก็สกรีนสถาบันเหมือนกัน
ตอนที่แอดทำงานใหม่ๆ ในแผนกนึงที่ต้องใช้ภาษาระดับผู้จัดการ จะรับคนที่จบจากจุฬา ธรรมศาสตร์ เอแบค รึต่างประเทศล้วนๆเลยค่ะ อื่นๆไม่มีเลย
คนจบราชภัฏอาจจะเก่ง ขยัน สู้งาน แต่ในเมื่อความต้องการของผู้ว่าจ้างไม่ตรงกัน คนที่ระบุความต้องการก็ถือว่าไม่ผิดค่ะ
อย่าดึงดราม่ากันเลยค่ะ❤️
ปล.หลังจากโพสสีแดงออกมาสักพักก็มีโพสขวามือตามมา คือแทนที่จะบอกไม่เอาจุฬา มหิดลเพราะเกินงบ ทำไมคุณไม่บอกงบคุณละค้าาา?!?😅ส่วนอันแรก มีคนบอกว่าเป็นนักปั่น
เตือนนะคะ ใครจงใจปั่น แอดแบนนะคะ อยากให้กลุ่มนี้มีประโยชน์จริงไม่ใช่กลุ่มปั่นขำๆค่ะ
คุณเลือกได้ว่าจะโพสแบบไหน แต่กลุ่มสาธารณะกรุณาใช้คำพูดให้ระวังหน่อย
วิจารณญาณในการลบรึแบน ขึ้นกะแอดมินคนเดียวค่ะ
ภายหลังจากโพสต์ของแอดมินเผยแพร่ไป มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางเช่นกัน ทั้งเห็นด้วยและเห็นต่าง ยังคงมีการโต้แย้งกันหนักหน่วง ร้อนแรง อาทิ
ขณะที่มีคนแสดงความเห็นของแอดมิน ว่า "ถ้าตัดความรู้สึกรักสถาบันออกไป จะมองเห็นได้เลยว่าการจบมหาวิทยาลัยที่มีชื่อของรัฐ มีภาษีสูงกว่าและได้รับโอกาสตั้งแต่ยังไม่เห็นการทำงานนะคะ เพราะชื่อเสียงที่สั่งสมกันมาและชนชั้นในสังคมมันเป็นแบบนั้นจริงๆ ในอดีตหรือ ณ ปัจจุบันจะถูกมองว่าไม่มีที่เรียนก็เรียนราชภัฏเอา มันทำให้ตรงนี้เกิดเป็นภาพจำที่ส่งต่อกันมา ส่วนตัวก็เลือกครูที่มาจากจุฬา ธรรมศาสตร์ ให้ลูกค่ะ แม้ว่าตัวเองไม่ได้จบที่นั่น เพราะมองว่าคนจากมอเหล่านี้เบื้องต้นคือ มีคุณภาพรองรับไว้แล้ว ความมั่นใจในการสอนมีมากกว่า ที่สำคัญเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกเราในการพัฒนาตนเองด้วย นอกจากครูเอาความรู้มาสอนลูกเราแล้ว ผปค.อาจจะมองไปถึงมุมมองที่เปิดกว้าง เช่น การวางแผนการเรียน การแก้ปัญหาเวลาเรียน ซึ่งเด็กจุฬา หรือรัฐอื่นๆ มีทักษะพวกนี้สูงมากๆ เอาตัวรอดเก่ง มีวิธีคิดหลากหลายกว่า อยากให้ลูกซึมซับไปด้วยนะคะ ถึงเลือกกลุ่มคนเหล่านี้" ปล.ความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ตำหนิกันนะคะ"
อ่านโพสต์ แอดมินสยบดรามา >> คลิกที่นี่