
ภายหลังศาลจังหวัดมุกดาหาร ได้สืบพยานจำเลยปากสุดท้าย ในคดีการเสียชีวิตของ "น้องชมพู่" ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา วัย 3 ขวบ เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ศาลได้นัดฟังคำพิพากษา ในวันที่ 31 ตุลาคม 2566 เวลา 10.00 น.
เนชั่นออนไลน์ พาไปย้อนเหตุการณ์คดีน้องชมพู่ ซึ่งผ่านมานานกว่า 3 ปี เหลือเวลาอีกเพียง 1 สัปดาห์ เราก็จะได้ทราบว่า ใครทำน้องชมพู่ตาย?
11 พฤษภาคม 2563 น้องชมพู่ หายตัวไปอย่างปริศนาจากบ้านพัก หมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ชาวบ้าน และครอบครัวได้ระดมออกค้นหาบริเวณโดยรอบ จนกระทั่งวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 ชาวบ้านไปพบร่างไร้วิญญาณของน้องชมพู่ บนภูเหล็กไฟ ซึ่งเป็นเขาสูงชันห่างจากบ้านพัก ประมาณ 2 กิโลเมตร
15 พฤษภาคม 2563 ตำรวจ สภ.กกตูม ส่งศพน้องชมพู่ ไปชันสูตรที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ผลชันสูตรไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย ไม่พบร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศ และไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ เนื่องจากสภาพศพเริ่มเน่า จากนั้นครอบครัวส่งศพน้องชมพู่ ไปชันสูตรครั้งที่ 2 ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ผลชันสูตรพบบาดแผลตามร่างกาย และอวัยวะเพศ แต่ตรวจอสุจิในช่องคลอดไม่ได้ เนื่องจากศพมีสภาพเน่าเปื่อย
20 พฤษภาคม 2563 ครอบครัวน้องชมพู่ ทำพิธีฌาปนกิจศพเชิงตะกอนแบบโบราณ ที่ป่าช้าบ้านกกกอก
ช่วงเดือนมิถุนายน 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบหาตัวคนร้ายที่ทำให้น้องชมพู่เสียชีวิต โดยลุงพลตกเป็นผู้ต้องสงสัย และถูกตำรวจคุมตัวไปสอบปากคำในฐานะพยาน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าไปเก็บหลักฐานที่บ้านลุงพล ตรวจรถยนต์ เสื้อผ้า เก็บหลักฐานไปตรวจสอบ นำกระสอบปุ๋ย ถุงมือ และขนสุนัขที่บ้านไปตรวจสอบ
7 กรกฎาคม 2563 ลุงพล ไปออกรายการโทรทัศน์ หลังถูกตกเป็นผู้ต้องสงสัย ลุงพล ยังยืนยันหนักแน่นว่า ไม่ได้เป็นคนฆ่าล้านเปอร์เซ็นต์ รักน้องชมพู่เหมือนลูกตัวเอง จุดนี้จากผู้ต้องสงสัย ลุงพลกลับได้รับคะแนนสงสาร จนเกิดกระแส "ลุงพลฟีเวอร์" กลายเป็นเซเลบบ้านกกกอก มีงานเข้ารัวๆ ทั้งพรีเซ็นเตอร์ และงานร้องเพลง
2 ตุลาคม 2563 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. (ในขณะนั้น) ออกมาแถลงข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าน้องชมพู่ ไม่ได้เดินขึ้นไปเองที่จุดพบศพบนภูเหล็กไฟ และอาจถูกใครบางคนกระทำด้วยวิธีการใด ๆ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมให้เสียชีวิต แต่ไม่ชี้ชัดว่าใครคือผู้ต้องหา
โดยคณะพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนชันสูตรพลิกศพที่ 3/2563 สรุปข้อมูลที่ได้ทำการสืบสวนสอบสวนแล้วยืนยันว่า "น้องชมพู่ไม่สามารถเดินขึ้นไปบนจุดพบศพบนภูเหล็กไฟได้ด้วยตนเอง" มีเหตุผลสรุปดังนี้
ระหว่างนั้นนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล และน.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น มาร่วมรับฟังการแถลงข่าว ยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์
เวลาล่วงเลยมาถึงปี 2564 ระหว่างวันที่ 4-10 มกราคม 2564 ตำรวจเชิญตัวพ่อแม่น้องชมพู่ พี่สาว น้าต่าย น้าเสริม น้าแต น้าฝน และลุงพล ทยอยเข้าเครื่องจับเท็จ โดยลุงพล ยืนยันว่าไม่ได้ทำผิด หากจะโยนความผิดมาลงที่ตัวเอง ก็จะสู้ให้ถึงที่สุด
11 พฤษภาคม 2564 ครบรอบ 1 ปี การเสียชีวิตของน้องชมพู่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.(ในขณะนั้น) ออกมาเปิดเผยว่า ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังคงทำงานตลอด ย้ำว่าจะไม่ปล่อยให้คนผิดลอยนวล
1 มิถุนายน 2564 ศาลจังหวัดมุกดาหาร อนุมัติหมายจับลุงพล คดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ในข้อหา พรากผู้เยาว์ ทอดทิ้งเด็กเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และกระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
ช่วงเช้ามืดวันที่ 2 มิถุนายน 2564 ตำรวจเปิดปฏิบัติการ "ฟ้าสางกลางกกกอก" นำกำลังเข้าจับกุมลุงพล ที่บ้านกกอกอก แต่ไม่พบตัวลุงพล และป้าแต๋น ตำรวจต้องถอนกำลังกลับ
ต่อมาในช่วงบ่าย นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง ได้พาลุงพล เข้ามอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากนั้นตำรวจคุมตัวลุงพล ไปสอบสวนที่ สภ.กกตูม พื้นที่เกิดเหตุ ลุงพลให้การปฏิเสธทุกข้อหา และถูกคุมตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร โดยศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 1.8 แสนบาท
2 กันยายน 2564 ป้าแต๋น เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกระทำผิดกับผู้ต้องหา โดยร่วมกันกระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
7 กันยานยน 2564 อัยการจังหวัดมุกดาหารได้สั่งฟ้อง นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล 3 ข้อหา คือ 1.เจตนาฆ่าโดยเล็งเห็นผล 2.ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย 3.กระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณพบศพก่อนชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น
และสั่งฟ้อง น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น 1 ข้อหา ฐานกระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น โดยจำเลยทั้งสอง ได้รับการประกันตัวระหว่างต่อสู้คดี
สำหรับคดีนี้ศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐาน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 และเริ่มสืบพยานฝ่ายโจทก์มาตั้งแต่ 30 มิถุนายน 2565 โดยสืบพยานฝ่ายโจทก์ทั้งหมด 47 ปาก และสืบพยานฝ่ายจำเลย 20 ปาก เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2566
โดยศาลจังหวัดมุกดาหาร ได้นัดคู่ความทั้งสองฝ่ายมาฟังคำพิพากษา คดีการเสียชีวิตของ "น้องชมพู่" ในวันที่ 31 ตุลาคม 2566 เวลา 10.00 น.