svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

23 ตุลาคม น้อมรำลึกวันประวัติศาสตร์ หนึ่งในพระราชกรณียกิจ ในหลวงรัชกาลที่ 5

23 ตุลาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

วันปิยมหาราช ชวนคนไทย ร่วมย้อนประวัติศาสตร์ชาติไทย รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คือห้วงยามที่ฝรั่งเศสกับอังกฤษรุกรานไทย หาเรื่องยึดครองประเทศไทยตลอดเวลา เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของในหลวงรัชกาลที่ 5 อีกสักครั้ง 

23 ตุลาคม น้อมรำลึกวันประวัติศาสตร์ หนึ่งในพระราชกรณียกิจ ในหลวงรัชกาลที่ 5

23 ตุลาคม น้อมรำลึกวันประวัติศาสตร์ หนึ่งในพระราชกรณียกิจ ในหลวงรัชกาลที่ 5

ในวาระวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ชาติไทย 23 ตุลาคม น้อมรำลึกวันประวัติศาสตร์ พระราชกรณียกิจ ในหลวงรัชกาลที่ 5 หยิบยกบทความที่น่าสนใจ ของ "วินทร์ เลียววาริณ" มาฝากคอข่าวชาวเนชั่นออนไลน์กันตรงนี้ ชวนส่องโพสต์ล่าสุดที่น่าสนใจ ทางด้าน วินทร์ เลียววาริณ กวีซีไรต์คนดัง ส่งโพสต์ดีๆ บทความสาระเข้มๆ เชิงประวัติศาสตร์ เนื่องในวันปิยมหาราช ด้วยหัวข้อ 

23 ตุลาคม น้อมรำลึกวันประวัติศาสตร์ หนึ่งในพระราชกรณียกิจ ในหลวงรัชกาลที่ 5

23 ตุลาคม น้อมรำลึกวันประวัติศาสตร์ หนึ่งในพระราชกรณียกิจ ในหลวงรัชกาลที่ 5

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"23 ตุลาคมรำลึก
ลุกขึ้นมาจับตายต่อสู้ เพื่อรักษาเอกราชของตน" 

23 ตุลาคม น้อมรำลึกวันประวัติศาสตร์ หนึ่งในพระราชกรณียกิจ ในหลวงรัชกาลที่ 5

โดยในโพสต์ระบุว่า

รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คือห้วงยามที่ฝรั่งเศสกับอังกฤษรุกรานไทย หาเรื่องยึดครองประเทศตลอดเวลา

การล่าอาณานิคมของชาวุโรปในภูมิภาคนี้ ทำให้รัชกาลที่ 5 ทรงตระหนักความสำคัญของการคมนาคม เวลานั้นการเดินทางข้ามจังหวัดใช้เกวียนและเรือเป็นหลัก ในภาวะฉุกเฉินย่อมใช้รับมือศัตรูไม่ทันการ

ไทยต้องปรับตัวเรื่องการเดินทาง รถไฟอาจเป็นคำตอบ

ทรงเห็นควรที่จะสร้างทางรถไฟขึ้นในประเทศ เพื่อจะติดต่อกับมณฑลชายแดนง่ายขึ้น ปกครองสะดวกขึ้น และยังสามารถดูแลสอดส่องผู้รุกรานได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ การค้าขาย

23 ตุลาคม น้อมรำลึกวันประวัติศาสตร์ หนึ่งในพระราชกรณียกิจ ในหลวงรัชกาลที่ 5 รถไฟสายแรกเป็นของเอกชน กรุงเทพฯไปสมุทรปราการ (ทางรถไฟสายปากน้ำ) ระหว่างสถานีรถไฟหัวลำโพงกับสถานีรถไฟปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ ระยะทาง 21.3 กิโลเมตร โดยพระยาชลยุทธโยธินทร์ แม่ทัพเรือคนหนึ่งของกองทัพเรือสยามชาวเดนมาร์ก (ชื่อเดิม อองเดร รีเชอลีเยอ Andreas Richelieu)

ทางรถไฟสายนี้มีวิศวกรเดินรถชื่อ ร้อยเอก ที. เอ. ก็อตเช (T.A. Gottsche) ทหารชาวเดนมาร์ก ได้รับการชักชวนจากพระยาชลยุทธโยธิน มาช่วยกิจการทหารเรือในสมัยรัชกาลที่ 5

ก็อตเชเป็นผู้บังคับการป้อมผีเสื้อสมุทรในเหตุการณ์ ร.ศ. 112 ต่อมาได้รับราชทินนามเป็น ขุนบริพัตรโภคกิจ ต้นสกุล คเชศะนันทน์ (เสียงพ้องกับ Gottsche) เป็นฝรั่งที่อยู่เมืองไทยนานจนกลายเป็นคนไทยไปแล้ว ตั้งรกรากในเมืองไทย
สามเดือนหลังจากเปิดรถไฟสายปากน้ำ วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112) กองเรือรบฝรั่งเศสแล่นถึงปากแม่น้ำเจ้าพระยา

ทหารไทยสู้ ฝรั่งเศสจมเรือปืนฝ่ายสยามได้หนึ่งลำ แต่เรือฌอง บัปติสต์ เซย์ ถูกปืนใหญ่สยามยิงเกยตื้นที่แหลมลำพูราย ทหารไทยเสียชีวิตแปดคน บาดเจ็บสี่สิบคน ทหารฝรั่งเศสเสียชีวิตสามคน บาดเจ็บสามคน

เรือแองกองสตองต์และโกแมตแล่นฝ่าปราการต่างๆ เข้ามาได้ ทั้งสองลำแล่นฝ่ากระสุนไปจอดที่หน้าสถานทูตฝรั่งเศส ถนนเจริญกรุง จ่อปืนใหญ่ไปที่พระบรมมหาราชวัง แล้วยื่นคำขาดหกข้อต่อรัฐบาลสยาม ให้ตอบภายใน 48 ชั่วโมง

 

หนึ่งในหกข้อคือสยามต้องชดใช้ค่าเสียหายต่อฝรั่งเศสเป็นเงินสองล้านฟรังก์

23 ตุลาคม น้อมรำลึกวันประวัติศาสตร์ หนึ่งในพระราชกรณียกิจ ในหลวงรัชกาลที่ 5

สยามจ่ายเงินให้ฝรั่งเศสก้อนหนึ่งชำระด้วยเหรียญนกจากท้องพระคลังจำนวน 801,282 เหรียญ หนักถึง 23 ตัน
เหรียญนกก็คือเงินถุงแดงที่รัชกาลที่ 3 ทรงสะสมไว้ซื้อเอกราชให้ประเทศ
เจ้าหน้าที่ขนเหรียญนกออกจากวังทางประตูต้นสน ไปลงเรือที่ท่าราชวรดิฐตลอดวันตลอดคืน

บันทึกฝรั่งเศสเขียนว่า

“ด้วยนายทหารฝรั่งเศสเพียง 50 นาย ทหารญวน 150 นาย และผู้เชี่ยวชาญทางปืนใหญ่อีก 4-5 นาย ก็สามารถยึดสยามทั้งประเทศไว้ได้สำเร็จ”
แต่ฝรั่งเศสไม่พอใจแค่นั้น ขอเพิ่มเติมเงื่อนไขคือ ขอยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรีไว้เป็นประกัน จนกว่าสยามจะชดใช้ค่าเสียหายครบ
23 ตุลาคม น้อมรำลึกวันประวัติศาสตร์ หนึ่งในพระราชกรณียกิจ ในหลวงรัชกาลที่ 5

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฝ่ายไทยก็ต้องยอมรับอีก

สยามสูญเสียดินแดนครั้งใหญ่ รวมเนื้อที่ประมาณ 143,800 ตารางกิโลเมตร 
การเสียดินแดนสยามจากวิกฤตการณ์ครั้งนั้นทำให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสียพระราชหฤทัยอย่างสุดซึ้ง จนทรงพระประชวร 

นายช่างเยอรมัน ลูอิส ไวเลอร์ ที่มาทำงานรถไฟในไทยบันทึกไว้ในอนุทินของเขาว่า เวลานั้นคนไทยเกลียดชาวฝรั่งเศส เพราะคิดกลืนกินดินแดนไทย หนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสในตังเกี๋ยเขียนใส่ร้ายคนไทย รวมถึงพฤติกรรมของพวกทูตฝรั่งเศสในสยาม ทำให้ไม่เพียงคนไทยไม่ชอบคนฝรั่งเศส พวกยุโรปชาติอื่นๆ ก็ไม่ชอบเช่นกัน
บันทึกของ ลูอิส ไวเลอร์ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2451 เขียนว่า “ชาวสยามเป็นชนชาติที่รักสงบมากที่สุดในโลกอย่างไม่น่าสงสัย แต่ทว่าผมจะไม่ประหลาดใจเลยหากชาวสยามจะลุกขึ้นมาจับดาบต่อสู้เพื่อรักษาเอกราชของตน ภายหลังจากที่ประเทศสยามค่อยๆ ถูกตัดแบ่งออกไปเรื่อยๆ ตั้งแต่สิบห้าปีมาแล้ว” (จากหนังสือ กำเนิดการรถไฟในประเทศไทย ลูอิส ไวเลอร์ เขียน แปลโดย ถนอมนวล โอเจริญ และ วิลิตา ศรีอุฬารพงศ์)

วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 ทำให้รัชกาลที่ 5 ทรงตระหนักว่า ไม่มีผู้ใดช่วยเราได้ มีแต่มหาอำนาจหลายชาติต้องการกินเรา เราต้องมีแผนการที่ดีเพื่อรักษาเอกราชของชาติ

23 ตุลาคม น้อมรำลึกวันประวัติศาสตร์ หนึ่งในพระราชกรณียกิจ ในหลวงรัชกาลที่ 5
ทางหนึ่งคือการเสด็จประพาสยุโรปครั้งแรก เป้าหมายเพื่อหาพันธมิตรมาคานอำนาจศัตรู ก็คือซาร์ นิโคลาสที่ 2 แห่งรัสเซีย
อีกทางหนึ่งคือปรับปรุงทางรถไฟของสยามให้ดีขึ้น พร้อมรับมือกับข้าศึกได้ทุกเมื่อ
เหตุการณ์ ร.ศ. 112 ทำให้รัชกาลที่ 5 ทรงเปลี่ยนแผน เลือกสร้างสายอีสานก่อน เพราะเรื่องยุทธศาสตร์ เส้นทางจากกรุงเทพฯไปแม่น้ำโขงจำต้องผ่านโคราช 
ฝ่ายไทยโชคดีมากที่ได้ คาร์ล เบธเกอ และนายช่างเยอรมันหลายคนมาทำงานนี้ รัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชดำเนินไปดูการสร้างรถไฟเสมอ

รถไฟสายอีสานแล้วเสร็จในปี 2443 รวมระยะทางทั้งสาย 265 กิโลเมตร หลังจากนั้นก็ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างทางรถไฟสาย อื่นๆ ต่อไป เช่น ทางรถไฟสายเหนือจากชุมทางบ้านภาชีถึงเชียงใหม่ ระยะทาง 661 กม. เสร็จในรัชกาลต่อมา
ทรงมีวิสัยทัศน์ไกล จะต่อสู้กับอำนาจมารนอกประเทศ ต้องเตรียมพร้อมทุกด้าน ทั้งเชิงรับและเชิงรุก ทั้งทางทหาร การเมืองระหว่างประเทศ การคมนาคม ไปจนถึงการปฏิรูประบบต่างๆ
ทหารมีไว้ทำไม กษัตริย์มีไว้ทำไม หากไม่มี ป่านนี้คนไทยคงพูดภาษาฝรั่งเศสกัน

23 ตุลาคม น้อมรำลึกวันประวัติศาสตร์ หนึ่งในพระราชกรณียกิจ ในหลวงรัชกาลที่ 5

วินทร์ เลียววาริณ
23 ตุลาคม 2566

ขอขอบคุณที่มา >> วินทร์ เลียววาริณ

  

logoline