เปิดไทม์ไลน์ รถพยาบาลแวะซื้อกล้วยทอด ขณะรับผู้ป่วย ใช้เวลาแค่ 3 วินาที

16 ตุลาคม 2566 จากกรณีที่มีโซเชียลมีการแชร์คลิป สาวคนหนึ่งขณะกำลังโวยรถพยาบาล ที่แวะจอดซื้อกล้วยทอด ทั้ง ๆ ที่พ่อตนเอง นอนอยู่ในรถพยาบาล หลังสาวคนดังกล่าวโทรแจ้ง 1669 เรียกรถพยาบาลมารับพ่อ ที่มีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ให้มารับที่บ้าน โดยระหว่างขับรถไปโรงพยาบาล ได้ชะลอดูต้นไม้ แวะซื้อกล้วยทอด และเมื่อขึ้นไปสอบถาม ก็ไม่ได้คำตอบจากเจ้าหน้าที่ หรือชี้แจงอะไร จึงได้ร้องขอความเป็นธรรม กับทางเพจเรื่องจริงนครนายก

โดยเมื่อทางเพจได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว จึงได้ส่งผู้สื่อข่าวเข้าสอบถามข้อเท็จจริง จากทางร้านกล้วยทอดดังกล่าว ทราบว่า รถ รพ. ได้มีการแวะซื้อกล้วยทอดจริง แต่เป็นการสั่งล่วงหน้ามา ไม่ได้มาจอดซื้อ  เมื่อผ่านมาทางร้าน ก็ได้วิ่งเอาออกไปให้ ไม่ได้มีการหยุดรถแต่อย่างใด เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา

 

น.ส.สุชาดา น้ำมะลิ อายุ 32 ปี ลูกสาวคนป่วย ระบุว่า วันเกิดเหตุ นายสมหมาย พ่อของตน นอนป่วยอยู่บ้านจึงให้หลานชายโทรหากู้ภัย และโทร.1669 ก่อนมีรถโรงพยาบาลมารับ โดยตอนนั้นพ่ออาการหนักแล้ว  ระหว่างที่รอรถพยาบาลมารับ เจ้าหน้าที่ก็เริ่มพูดไม่ดี บอกว่ากำลังรีบไปรับ แต่น้องชายบอกว่า ยังไม่เห็นรถพยาบาลมาเลย

ต่อมาเมื่อรถพยาบาลมาถึงบ้าน พ่ออาการเริ่มวิกฤตแล้ว ก่อนพาพ่อขึ้นรถพยาบาล เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ถามอาการพ่อว่า อาการเป็นอย่างไรบ้าง ถ้า 100 คะแนน อาการให้กี่คะแนน พ่อก็บอกว่าตอนนี้เหลือ 8 คะแนนแล้ว เนื่องจากอาการหนักมาก เพราะป่วยหลายโรคมาก

 

และเมื่อนำพ่อขึ้นรถพยาบาลแล้ว เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ไม่ให้หลานชายขึ้นไปด้วย ต้องเป็นผู้ใหญ่ถึงจะขึ้นไปได้ ทั้งที่หลานชายก็อายุ 22 ปีแล้ว สามารถเซ็นเอกสารและตัดสินใจได้ ตนจึงบอกว่า เดี๋ยวขึ้นรถไปเอง แต่เมื่อเข้าบ้านไปเปลี่ยนชุด รถพยาบาลก็ออกไปแล้ว เพื่อพาพ่อไปโรงพยาบาล

น.ส.สุชาดา กล่าวอีกว่า ระหว่างรถพยาบาลนำตัวพ่อส่งโรงพยาบาล หลานชายที่อยู่บนรถเล่าว่า รถพยาบาลเหมือนชะลอดูต้นไม้ และได้ยินคนบนรถพูดว่า “ต้นไม้สวยดี” ซึ่งเป็นต้นไม้ บริเวณปากซอยบ้าน ทั้งที่ตอนนั้น พ่อยังป่วยขั้นวิกฤตอยู่บนรถ

และยังไม่หมดแค่นั้น ระหว่างทางนำพ่อไปโรงพยาบาล รถพยาบาลยังแวะเอากล้วยทอดระหว่างทางไปโรงพยาบาลอีก ซึ่งน้องชายอยู่บนรถก็บอกว่า รถพยาบาลจอดชะลอเอากล้วยทอดด้วย จึงทวงถามความเป็นธรรมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคลิปที่ปรากฏ
 

อย่างไรก็ตาม ภายหลังหลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ เบื้องต้นผู้บริหารโรงพยาบาลนครนายก ได้มีการสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ข้อเท็จจริงในการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ ผู้ให้บริการ โดยจะมีการเรียกสอบในวันที่ 16 ต.ค. 66

พร้อมยืนยันว่า ทางโรงพยาบาลได้มีการฝึกอบรมทางด้านจริยธรรมวิชาชีพการให้บริการอย่างเข้มงวด อย่างสม่ำเสมอ ขณะที่ผู้ป่วยอยู่ในความดูแลของแพทย์ และพยาบาล ซึ่งรายงานจากผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยโรค ไม่พบภาวะหัวใจขาดเลือด อาการทั่วไปคงที่ ขณะนี้ให้ผู้ป่วยพักรักษาตัวกลับไปรักษาตัวที่บ้านต่อไป


ขณะที่ น.ส.สุชาดา น้ำมะลิ อายุ 32 ปี ลูกสาวคนป่วย เปิดใจว่า หลังพ่อปลอดภัยแล้ว ก็ไม่ติดใจ แต่ขอทางโรงพยาบาลอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
 

ล่าสุด ศูนย์สื่อสารองค์กร โรงพยาบาลนครนายก ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น ว่า หลังตรวจสอบเหตุการณ์จากกล้องบันทึกภาพด้านหน้ารถยนต์ พบว่า

เวลา 10.27 น. ได้รับแจ้งเหตุ มีผู้ป่วยล้มหมดสติ ผู้แจ้งบอกว่าเป็นเพื่อนบ้าน ไม่ทราบรายละเอียด

เวลา 10.28 น. สั่งการให้รถพยาบาล ALS ออกรถไปรับผู้ป่วย ณ จุดเกิดเหตุ

เวลา 10.29 น. รถออกจากฐานปฏิบัติการ

เวลา 10.38 น. รถเดินทางถึงที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นพยาบาลได้ทำการประเมินตรวจร่างกาย และทำหัตถการทางการแพทย์บนรถ สัญญาณชีพผู้ป่วยปกติดี

เวลา 10.47 น. รถออกจากจุดเกิดเหตุ ในระหว่างเดินทางพบว่า มีการชะลอความเร็วรถ เพื่อรับกล้วยทอดที่สั่งไว้ ใช้เวลา 3 วินาที เนื่องจากผู้ขายกล้วยทอด วิ่งมารอส่งของอยู่ริมถนน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำเวลาออกเหตุ

เวลา 10.57 น. รถพยาบาล ALS ขับมาถึงโรงพยาบาล ผู้ป่วยได้เข้ารับการตรวจรักษาที่ห้องฉุกเฉิน เข้านอนพักรักษาตัว อยู่ในแผนกผู้ป่วยในอายุรกรรมชาย 1 คืน อาการทั่วไปปกติ แพทย์อนุญาตให้ กลับบ้านได้ ในวันที่ 14 ตุลาคม 2566 เวลา 14.00 น. 

พร้อมยืนยันด้วยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางโรงพยาบาลนครนายก ได้ตระหนักถึงปัญหา และให้ความสำคัญ กับการดูแลผู้ป่วยเป็นอย่างยิ่ง จึงตั้งกรรมการสอบสวน ผู้เกี่ยวข้องตามระเบียบของทางราชการ  พร้อมขออภัยในความผิดพลาด ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และขอน้อมรับข้อเสนอแนะของทุกท่าน ซึ่งทางโรงพยาบาลนครนายก จะนำมาปรับปรุงระบบงาน และพฤติกรรมบริการ ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป