svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"เผ่าภูมิ โรจนสกุล" มือปั้น เงินดิจิทัล10,000บาท เลือดใหม่จากพรรคเพื่อไทย

ได้เวลา ทำความรู้จัก "เผ่าภูมิ โรจนสกุล" หนึ่งในผู้ผลักดันนโยบายศก. "เงินดิจิทัล 10,000 บาท" คนรุ่นใหม่ที่่น่าจับตามากๆ คนหนึ่งในวันนี้จากพรรคเพื่อไทย เจาะลึกทุกเส้นทางชีวิต ผลงานก่อนหน้านี้ทำอะไรมาบ้าง  

วินาทีนี้ คงไม่มีใครไม่ติดตาม ประเด็นร้อน เงินดิจัทัลก่อนสงกรานต์ 2567 จะมาถึง

นั่นก็คือนโยบายที่วาดฝันที่ใช้หาเสียง ว่าด้วยประเด็น "เงินดิจิทัล 10000" หนึ่งในนโยบายสำคัญในการเลือกตั้งที่ผ่านมาของพรรคเพื่อไทยซึ่งกำลังถูกพูดถึงมากที่สุดเวลานี้คงต้องยกเครดิตให้กับ ทีมนโยบายเศรษฐกิจของพรรค โดยคีย์แมนคนสำคัญหนึ่งในนั้นก็คือ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคและโฆษกคณะกรรมการเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ควบตำแหน่ง "ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายพรรคเพื่อไทย" อีกตำแหน่งหนึ่งด้วย

"เผ่าภูมิ โรจนสกุล" มือปั้น เงินดิจิทัล10,000บาท เลือดใหม่จากพรรคเพื่อไทย

เผ่าภูมิ โรจนสกุล เป็นหนึ่งใน "นักนโยบายเศรษฐกิจ" ของพรรคอยู่ท่ามกลางขุนพลเศรษฐกิจที่มากประสบการณ์ของพรรค ไม่ว่าจะเป็น นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และอดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ

นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตที่ปรึกษาด้านนโยบายในรัฐบาลทักษิณ, ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของประเทศ และดร.ปานปรีย์ มหิทธานุกร อดีตผู้แทนการค้าและที่ปรึกษานายกด้านเศรษฐกิจและการต่างประเทศ เป็นต้น 

เปิดประวัติคนดังในข่าว : เผ่าภูมิ โรจนสกุล

  • เกิดวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2526 อายุ 40 ปี ชื่อเล่น ออฟ

การศึกษา

  • ปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • MBA : University of Massachusetts at Boston
  • MA. Economics : University of Illinois at Chicago
  • Ph.D. Economics : University of Illinois at Chicago

"เผ่าภูมิ โรจนสกุล" มือปั้น เงินดิจิทัล10,000บาท เลือดใหม่จากพรรคเพื่อไทย ก้าวสู่เส้นทางการเมือง 

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล อยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับที่ 89 ของพรรคเพื่อไทย จากประสบการณ์การทำงานที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หน่วยงานรัฐซึ่งถือว่าเป็น คลังสมองของประเทศ ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจในการจัดทำนโยบายแต่เนื่องจากการทำงานในหน่วยงานรัฐนั้นมีข้อจำกัดจึงตัดสินใจเบนเข็มเข้าสู่เส้นทางการเมือง เขาเคยให้สัมภาษณ์กับ "ฐานเศรษฐกิจ" ไว้ว่า

"...ระบบราชการของไทยยังมีปัญหาอยู่เยอะมาก ด้วยระบบราชการมีหลายลำดับชั้น ทำให้ผลักดันสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นได้ยากพอสมควร ล่าช้า และไม่ได้ตอบสนองในสิ่งที่เราอยากให้มันเป็น นโยบายที่เราคิด ทิศทางที่คิดไว้ ขับเคลื่อนได้ช้า"

 

เผ่าภูมิ ตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทยจากการเชิญชวนของ นายภูมิธรรม เวชยชัย หนึ่งในคีย์แมนคนสำคัญของพรรคและเริ่มทำงานด้านการพัฒนา วิจัยและออกแบบนโยบาย ได้เป็น กรรมการและเลขานุการกรรมการนโยบายและวิชาการพรรคเพื่อไทย 

ในช่วงที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำพรรคฝ่ายค้าน เขาคือคนหนึ่งที่ทำหน้าที่ออกมาตอบโต้การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประเด็นปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และความล้มเหลวของ พ.ร.ก. เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท ที่เรียกว่า "กู้มาแจก" รวมไปถึงการวิพากษ์ ความล้มเหลวในการบริหารสถานการณ์โควิด-19 

ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา เขาทำหน้าที่สื่อสารกับสังคมในประเด็นต่าง ๆ รวมถึง Digital Wallet หรือ นโยบาย "เงินดิจิทัล 10,000 บาท"  

"เผ่าภูมิ โรจนสกุล" ดอกเตอร์หนุ่ม 1 ใน 30 คน “เลือดใหม่” พรรคเพื่อไทย 
ด้วยความมุ่งหวังจะใช้ความรู้และประสบการณ์ทำการเมืองแบบสร้างสรรค์

เผ่าภูมิ โรจนสกุล “เลือดใหม่” พรรคเพื่อไทย เริ่มเข้ามาชิมลางงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทยได้ 3 ปี ทั้งในฐานะที่ปรึกษาเลขาธิการพรรค และเลขานุการคณะกรรมการนโยบายด้านคนรุ่นใหม่และเยาวชนของพรรคเพื่อไทย ด้วยความมุ่งหวังจะใช้ความรู้และประสบการณ์ทำงานการเมืองแบบสร้างสรรค์

"เผ่าภูมิ โรจนสกุล" มือปั้น เงินดิจิทัล10,000บาท เลือดใหม่จากพรรคเพื่อไทย

สิ่งที่ทำให้ เผ่าภูมิ สนใจงานด้านการเมือง เริ่มจากในช่วงเรียนปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์ สาขาวิชาเอกเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ การคลังสาธารณะ ที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งสอนให้มองโลกกว้าง ในเชิงบริบท พลวัตของโลก ​การเคลื่อนตัวของระบบเศรษฐกิจโลก รวมทั้งเรียนวิธีการกำหนดนโยบาย กำหนดโมเดล ทำให้ประเทศสามารถเดินหน้าสอดคล้องกับระบบเศรษฐกิจ มีความก้าวหน้าและทำให้เกิดความมั่งคั่งในประเทศ จึงหวังจะเอาความรู้ที่มีมาช่วยผลักดันให้เกิดสิ่งเหล่านี้

หลังจากสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ได้สักระยะ เขากลับมารับราชการที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ซึ่งเป็นที่ที่ได้ร่วมทำงานกับคนเก่งๆ แต่อีกด้านก็ยังมีข้อจำกัด คือ สิ่งที่คิดกับสิ่งที่ปฏิบัติบางครั้งก็ห่างไกลกัน เมื่อผ่านระบบขั้นตอนข้าราชการไปจนถึงผู้มีอำนาจตัดสินใจ เลยหาทางว่ามีช่องทางอื่นที่ทำให้ช่องว่างระหว่างคนที่มีอำนาจตัดสินใจกับเราแคบกว่านี้ คำตอบนั้นก็คือการเมือง

เผ่าภูมิ เล่าอีกว่า 

สาเหตุที่เลือกทำงานกับพรรคเพื่อไทย ประเด็นแรก เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ได้มองปัญหาสั้นๆ หรือแก้ปัญหาอย่างไร้ทิศทาง แต่มองไกลเป็นสิบปีว่าอยากเห็นประเทศเดินมุ่งไปตรงไหนแล้วค่อยย้อนกลับมากำหนดนโยบายของพรรค​ นโยบายย่อยๆ ที่ทำมาในอดีตจึงสอดคล้องกับสิ่งที่มองไปสิบปีข้างหน้าตลอด อันนี้วิสัยทัศน์ของพรรค ซึ่งส่วนตัวเขาให้ความสำคัญกับเรื่องวิสัยทัศน์ในการทำงานมาก

ประเด็นที่สอง พรรคเพื่อไทยมีประสบการณ์การทำสิ่งดีๆ ให้กับประเทศเยอะมาก นโยบายที่คนไม่เคยคิดว่าจะสำเร็จ ก็ทำให้สำเร็จได้ มีคนที่มีความสามารถสูงมาร่วมทำงาน เป็นที่ประจักษ์ต่อประชาชนว่าสิ่งที่ทำมาในอดีตเกิดประโยชน์จริงๆ รวมทั้งมีโครงสร้างที่เป็นระบบและเปิดรับความคิดใหม่ ​​

ประเด็นที่สาม พรรคเพื่อไทยมีจุดแข็งเรื่องประชาธิปไตยสูง​ เคารพหลักสิทธิเสรีภาพ เคารพทุกความเห็น ให้ความสำคัญกับทุกความเห็นเท่ากัน ยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ บรรยากาศในพรรคจึงเปิดกว้าง ไม่ได้เอาเกณฑ์วัยวุฒิ คุณวุฒิ รูปร่างหน้าตามาตัดสิน แต่ดูที่ความคิด มีการถกเถียงเปิดให้ทุกฝ่าย หาคำตอบที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ระบบยังปิด การเมืองจึงทำอะไรที่ทำได้เพียงแค่การพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งหากระบบเปิดการเมืองคงเป็นอะไรที่ท้าทายและสนุกมาก

"เผ่าภูมิ โรจนสกุล" มือปั้น เงินดิจิทัล10,000บาท เลือดใหม่จากพรรคเพื่อไทย
ครั้งหนึ่ง "เผ่าภูมิ" ได้เคยชี้แจงนโบายนี้เอาไว้ว่า 

"..การกระตุ้นครั้งใหญ่ต้องเกิดขึ้นเพื่อปลุกชีวิตของประเทศขึ้นมา เราปลุกเศรษฐกิจของประเทศขึ้นมาระดับหนึ่งจากที่อยู่ไอซียู และวันนี้เราจะปลุกแรง - ปลุกด้วยเงิน 500,000 กว่าล้านบาทที่ไม่ใช่แค่ปลุกให้ฟื้นเฉย ๆ เราปลุกเสร็จ เราจะทำกายภาพบำบัด เราจะพาคนไทยวิ่งเพราะทางพรรคเตรียมโครงการไว้เยอะ.."