ชูวิทย์ ลั่น เป็นไปตามแผน รอโหวตนายกฯ รอบ3 เปิดเกมสลับข้ามขั้ว นายกฯคนใหม่

ห้ามกระพริบตาทีเดียว กับกระแสร้อนๆ การเมืองไทยวันนี้ จากปมร้อนโหวตนายก รอบ2  

โดย นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เคลื่อนไหวล่าสุด หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หยุดปฏิบัติหน้าที่สส. ชั่วคราวระหว่างรอคำวินิจฉัย จากกรณีหุ้นสื่อ ITV ซึ่งนายชูวิทย์ยืนยันอีกรอบว่า ทุกอย่างเป็นไปตามแผน  ให้จับตารอบโหวตนายกฯ 3 เกมสลับข้ามขั้วได้นายกฯ คนใหม่

ล่าสุด นายชูวิทย์ โพสต์ว่า

เป็นไปตามแผน ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง พิธา หยุดปฎิบัติหน้าที่ ส.ส. วันนี้ไม่ได้โหวตนายกฯ รอบ 2
จับตารอบ 3 เกมสลับข้ามขั้ว
ได้นายกฯ คนใหม่

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

"พิธา"ลุกบอกลา หลังรับทราบคำสั่งศาล ลั่นประเทศไทยไม่เหมือนเดิมแล้ว

โดยก่อนหน้าถึงวันโหวตนายกฯ รอบ2 วันที่ 19 ก.ค. 2566 นายชูวิทย์ ได้เปิดเผยเรื่องราวทำนายทิศทางการเมืองไทย ปิดสวิตช์ประชาชน ประชาชนสนใจเรียนรู้การเมืองไทย การโหวตนายกฯถามผมทุกวี่ทุกวัน “พิธาจะได้เป็นนายกฯ ไหม?” ให้ลองอ่านดังต่อไปนี้ เพราะขณะนี้การเมืองพลิก เปลี่ยนแปลงทุกวัน แต่เท่าที่นิ่งแล้ว คือ

- การเลือกตั้งไม่ใช่การตัดสินว่าใครได้เป็นรัฐบาล แม้ได้คะแนนเสียงจากประชาชนมากสุด ยังเป็นฝ่ายค้านได้ ดังนั้นการเลือกตั้งจึงเป็นเพียงพิธีกรรมของคนไทยที่ออกไปใช้สิทธ์ลงคะแนนเสียง 

- การจับมือจัดตั้งพรรคร่วมรัฐบาลของ 8 พรรค เป็นละครที่ถูกบังคับแสดงให้ประชาชนดู ดังนั้นดูได้ แต่อย่าไปหลงเชื่อ 

- ก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้านในที่สุด ไม่มีรักแท้ทางการเมือง แต่มือใครยาวสาวได้สาวเอาต่างหาก

- เพื่อไทยจะขึ้นมาเป็นแกนนำพลิกข้ามขั้ว แม้เสนอให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่หากยังมีก้าวไกลอยู่ ก็ไม่ผ่าน ส.ว. ชีวิตจริงต้องดูกันยาวๆ ไม่ใช่หนังตลก

- มีการจัดเตรียมสลับพลิกขั้วรัฐบาลโดยเพื่อไทยเป็นแกนนำ และประสบความสำเร็จ
โดยผ่านเสียง ส.ว.

- ภูมิใจไทยจะได้ร่วมรัฐบาล และได้กระทรวงคมนาคม กับสาธารณสุขเหมือนเดิม ส่วนพลังประชารัฐจะได้มหาดไทย เป็นเรื่องจริงอีกเรื่องที่บอกไปก็คงไม่เชื่อ 

- ก้าวไกลได้ประสบการณ์ว่า การมี ส.ส. ใหม่ และเร็วเกินคาดทำให้การตัดสินใจผิดพลาด 
ตั้งแต่เรื่อง ม. 272 หรือการไปเจรจากับประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนา ให้ร่วมรัฐบาล

- นายกฯ จะเลือกได้ในรอบ 3 ผ่าน ส.ว. ฉลุย ดูรอบ 2 ก็ทราบแล้ว 

- การจัดตั้งรัฐบาลจะเสร็จภายในเดือนสิงหาคม แต่หน้าตาไม่ใช่แบบที่ประชาชนส่วนมากต้องการ และเห็นแต่แรกในวันจับมือ 8 พรรคเซ็น MOU

- ยุบพรรคมีแน่ เป็นแผนต่อเนื่อง เตรียมตั้งพรรคใหม่ไว้รอ ชื่อพรรคอนาคตไกล

การเมืองหลายเรื่องคนไม่เชื่อ แต่เวลาจะพิสูจน์ว่ามันเป็นเรื่องจริง 

อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็นหรือได้ยิน เพราะไม่มีใครพูดความจริงเบื้องหลัง

ตอนนั้นบอกว่าไม่มี “ดีลลับ” มีแต่ “ดีลรัก”

แต่ตอนนี้กลายเป็น “ดีลลวง” ไปแล้ว

ผมพูดไปไม่มีวัตถุประสงค์เชียร์ หรือทำลายใคร แต่ต้องการให้ประชาชนรู้เท่าทันการเมือง

แม้ว่าเบื้องหลังบางอย่างผมจะไม่สามารถพูดได้หมด แต่หากเดาจากสิ่งที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้ประชาชนที่ติดตามคงทราบ 

อย่าไปคิดมาก ประเทศไทยยังอยู่ที่เดิมบนแผนที่โลกไม่ได้ไปไหนครับ

ขณะที่ในรัฐสภา 

จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ รับคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีกล่าวหานายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ว่า สมาชิกภาพของ ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ พร้อมกับมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เสียง สั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. กรณีการถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น itv เป็นกิจการสื่อสารมวลชนหรือไม่

ล่าสุดประมาณ 14.40 น. ในที่ประชุมรัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยกมือขออนุญาตประธานสภา ระหว่างการอภิปราย โดยบอกว่า เมื่อมีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญมาถึงแล้ว ก็ขอยุติการทำหน้าที่ สส. จนกว่าจะมีคำสั่งอื่น โดยระบุว่า

"มีเอกสารจากศาล รธน. มีคำสั่งให้ผมหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะฉะนั้นคงจะขออนุญาตพูดกับท่านประธานฯ ว่า รับทราบคำสั่ง และจะปฏิบัติตามคำสั่ง จนกว่าจะวินิจฉัยเป็นอื่น

ขอใช้โอกาสนี้อำลาท่านประธาน จนกว่า เราจะพบกันใหม่
ฝากเพื่อนสมาชิกในการใช้รัฐสภาดูแลพี่น้องประชาชน

ผมคิดว่า ประเทศเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ตั้งแต่ 14 ก.ค.  

และถ้าเกิดประชาชนชนะมาได้แล้วครึ่งทาง 

เหลืออีกครึ่งทาง 

ถึงแม้ผมจะยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ 

แต่ขอให้เพื่อนสมาชิกฯ ทุกคนดูแลประชาชนต่อไปครับ

เมื่อพูดจบนายพิธาก็เดินออกจากที่ประชุม ท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้องทั้งที่ประชุม และประธานสภาได้กล่าวตอบว่า "ขอบคุณคุณพิธามากครับ ขอบคุณคุณพิธาที่ให้ความเคารพต่อสภา เมื่อมีคำวินิจฉัยมาถึงสภา ท่านก็ได้เคารพในกติกา นั่นก็คือไม่ขอปฏิบัติหน้าที่ในสภา จนกว่าคำวินิจฉัยจะเปลี่ยนแปลงไป" 

ย้อนอ่านโพสต์ก่อนหน้านี้ เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา สุดปังสส

ศักดิ์ศรีของเมียหลวง

หนุ่มเพื่อไทย กับ สาวก้าวไกล ที่จดทะเบียนสมรสจัดงานแต่งงานกันใหญ่โตต่อหน้าประชาชน

ต้องถือว่าเป็น “คู่สมรส” ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะสักขีพยานมากันมากมาย

แต่ดันอยู่กินกันไม่ได้ เพราะบุคคลที่ 3 มายุยงให้แตกแยก

โดย “ลุง ส.ว.” ถึงขนาดจะจับคู่ใหม่ให้หนุ่มเพื่อไทย แล้วทอดทิ้งสาวก้าวไกล

ทั้งๆ ที่ลุง ส.ว. ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวมาอยู่กินด้วยกัน มีหน้าที่แค่ถือกุญแจเข้าบ้าน

แต่ทำตัวเป็นเจ้าของบ้าน เป็น “บ่างช่างยุ” กำหนดทิศทางครอบครัวของผัวหนุ่มเมียสาวให้แตกแยกต่างคนต่างเดิน ไล่สาวก้าวไกลไปเสียอย่างนั้น

บีบให้เอ่ยคำว่า “เสียสละ” ยอมเป็นคนเดินก้าวออกจากบ้านไปคนเดียว

ท่ามกลางแขกเหรื่อเสีย “เงินใส่ซอง” อวยพรในวันแต่งงานให้อยู่กินกันดั่ง “ไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร”

ที่ไหนได้หม้อข้าวยังไม่ทันดำ หนุ่มเพื่อไทยทำท่ากระมิดกระเมี้ยน ในใจกระดี๊กระด๊าเหมือน “ปลากระดี่ได้น้ำ”

หันไปหา “อีหนู” ทั้งที่แต่ก่อนรับปากกันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ทำท่าทางรักไม่มีวันเปลี่ยนใจจากสาวก้าวไกล

ที่แท้แสร้งทำเอาใจชาวบ้าน เข้าทำนองกลอนพาไป

แค่ไม่ถึงเดือนก็ใจโลเลกลับหลังหันไปหลงคนใหม่ได้ถึงเพียงนี้

ก่อนหน้าจัดงานแต่ง ก็เอ่ยปากให้คนทั้งบ้านทั้งเมืองได้ยินเต็มหูว่า จะไม่มีทางปันใจไปให้สาวอื่น ถึงขนาดบอกว่า “เอาคอเป็นประกัน”

ตอนนี้เริ่มออกอาการลับหลัง หันไปหลงระเริงสาวสูงวัยมากบารมี หลังจากตกอับอยู่นานหลายปี

ถือโอกาสเอา “สินสอดทองหมั้น” ไปแบ่งปันกับสาวใหม่สบายใจเฉิบ ปล่อยให้เมียหลวงเก็บกระเป๋าเดินตัวเปล่าออกจากบ้านไปหน้าตาเฉย

ใจคอผู้ชายแบบนี้ทำด้วยอะไร?

เคยเห็นแต่ในละคร เพิ่งจะได้มาเห็นในชีวิตจริง

ชาวบ้านพากันหาทางออกให้สาวก้าวไกล

ต้องอดทน และอย่าได้ยอมออกจากบ้าน

“ชั้นจะอยู่ของชั้นอย่างนี้ไม่ไปไหน หากเธออยากให้ชั้นไป ก็เอ่ยปากออกมาต่อหน้าประชาชนว่าต้องการให้ชั้นไปเอง”

สักขีพยานจะได้เห็นว่า หนุ่มเพื่อไทยต่อหน้าอย่าง ลับหลังจิตใจแปรปรวนเชื่อใจไม่ได้ หวังจ้องแต่จะได้สมบัติพัสฐาน

ถึงขนาดจะเอาไปแบ่งเชิดชูให้เมียน้อยออกหน้าออกตา ทิ้งเมียหลวงไปเสวยสุข

ศักดิ์ศรีเมียหลวงต้องมี จะเดินออกจากบ้านเพราะถูกผัวทิ้งก็ต้องประกาศให้ผู้ใหญ่รับรู้

ฝ่ายชายเพื่อไทยต้องกล้าพูดออกมาจากปากเอง ไม่ใช่ไปใช้คนอื่น หรืออ้างโน่นอ้างนี่ว่าถึงทางตงทางตัน ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ใช้ชีวิตด้วยกันเลย

ไหนว่า “จะรักกันตลอดไป” หากออกจากบ้านก็ต้องไปผจญเวรกรรมด้วยกัน

ไม่ใช่ให้ฝ่ายหญิงเสียสละไปเอง แล้วตัวเองรอเอาเมียใหม่เข้าบ้าน

ของอย่างนี้คนไทยถือว่า ลูกผู้ชายไม่ทำกัน