อัปเดตข้อมูลล่าสุดช้าง "พลายประตูผา"
อีกหนึ่งช้างไทยในศรีลังกา หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าถูกพาหนีอ้างว่า "ช้างตกมัน" เพื่อเลี่ยงไม่ให้เจอคณะเจ้าหน้าที่ไทย ซึ่งจะเข้าไปให้การช่วยเหลือช้าง ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ทำเอาหลายๆคนเป็นห่วง เนื่องจากพลายประตูผาอายุมากแล้ว อีกทั้งบาดเจ็บ โดยมีการเปิดเผยว่า ณ เวลานี้ พลายประตูผา ถูกผูกอยู่ที่เดิม วัดเล็กๆในการดูแลของวัดพระเขี้ยวแก้ว
ล่าสุด ดร.ชญาน์นันท์ อัศวธรรมานนท์ อาจารย์ประจำสาขาพระพุทธศาสนา-วิทยาลัยสงฆ์ เปิดเผยว่า ผ่านเฟซบุ๊ก Chayanan Assawadhammanond ว่า
สัตวแพทย์ระบุพลายประตูผาอายุมาก หากขนย้ายเสี่ยงอันตรายกับตัวพลายประตูผา
หมายเหตุ ดร.ชญาน์นันท์ อัศวธรรมานนท์ ไปหาพลายประตูผาไม่ได้กล่าวอ้างหรือใช้ชื่อของสถานทูตไทยเรา..
Dr.Chayanan Assawadhammanond.. เขียนชื่อมหาวิทยาลัย.สถานที่เราทำงาน, ตำแหน่ง.. พร้อมอีเมล์ที่ติดต่อเราได้ไว้แล้วและถัดจากวันนั้นในคลิปที่นำกล้วยไปป้อนได้เพราะช้างไทยพลายประตูผายืนอยู่ริมถนนรถผ่าน.. ได้นำกล้วยและผลไม้ไปฝากเพราะเห็นช้างไทยพลายประตูผาที่มีอายุมาก.. กินอาหารแข็งๆ
และวันก่อนได้ถวายปัจจัยกับพระที่วัดไว้เพื่อฝากซื้อยามาทาแผล ซึ่งอาการล่าสุด "พลายประตูผา" มีแผลที่ขาหลัง2ข้างที่มีแผลใหม่และรอยแผลเก่าจำนวนมาก และที่กกหางมีเลือดออกซิบๆ
จึงต้องทายาและไปหาไปเฝ้าให้ลุงควาญทายาขวดนั้น (เงินค่ายาของเราเอง) ทายาให้ที่ขาทั้ง 2 ข้างของพลายประตูผา
ขอขอบคุณพระคุณเจ้าและลุงควาญที่กรุณาไปหาซื้อยาให้.. พร้อมน้องๆคนที่วัดช่วยซื้อผลไม้ตามงบปัจจัยที่เราฝากไว้ป้อนพลายประตูผา.. เราช่วยกันป้อนกับทั้งขอขอบคุณเป็นพิเศษกับบุรุษหนุ่มชาวศรีลังกา (ไม่ทราบชื่อ)
เขาเห็นเราหิวอิดโรย (เราไม่ได้ทานข้าวเพราะห่วงแต่ช้าง.เราหายใจเข้าออกเป็นช้าง)และเห็นเราร้องไห้ วิ่งไปขอหย่อนโซ่ที่มัดขาหน้า 2 ขาของพลายประตูผา.. เขาห่วงเกรงว่าเราจะไม่ไหว.. กรุณาไปซื้อขนมปังและนมเปรี้ยวมาให้เรารับประทาน 2 ชิ้นกับ 1 ขวด (ขอบคุณน้ำใจของชายชาวศรีลังกาท่านนี้อย่างยิ่ง)
ขอบพระคุณพระที่ส่งภาพป้อนอาหารให้ทุกเมนู.. อาทิ กล้วย อ้อย แตงโม สับปะรดพร้อมกับให้เด็กไปซื้อมาเพิ่มอีกเพราะงบที่ฝากไว้ยังเหลือ..(จากค่ายาทาแผลให้ช้าง) ขอบคุณมากค่ะ ขออำนาจคุณพระรัตนตรัยคุ้มครอง อายุบวร
อีกความเคลื่อนไหวที่ชาวเน็ต คนรักช้างไทยร่วมจับตา !!
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ขณะนี้กลุ่มแฟนคลับ พลายศักดิ์สุรินทร์ และบรรดาคนรักช้าง มีความห่วงใย ช้างอีก 2 เชือกของไทย ที่ยังอยู่ที่ประเทศศรีลังกา และมีการสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมากต่อความเป็นไปได้ที่จะนำกลับมาประเทศไทยด้วยหรือไม่ว่า
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ไม่ได้นิ่งนอนใจจะส่งทีมสัตวแพทย์ไปพร้อมกับ นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะทำงานยุทธศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในต้นเดือนกันยายนนี้
เพื่อให้ดูแนวทางความร่วมมือในการทำงานระหว่างหน่วยงานของไทยและหน่วยงานของศรีลังกาในการถ่ายทอดความรู้ เทคนิคเรื่องการดูแลรักษาพยาบาลช้างเพราะศรีลังกาเป็นประเทศที่มีช้างเลี้ยงและช้างป่าอยู่เป็นจำนวนมาก
นายวราวุธ กล่าวว่า
สอดคล้องกับการที่มีคณะสัตวแพทย์ของมหาวิทยาลัยเมืองแคนดี้ ประเทศศรีลังกาซึ่งเป็นเมืองที่ "พลายประตูผา" อยู่ได้ติดต่อมายังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยแสดงเจตจำนงว่า มีความพร้อมที่จะช่วยดูแลและแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับเรื่องการรักษาพยาบาลช้าง ดังนั้น จากนี้ไปการทำงานด้านสุขภาพช้างระหว่างไทยกับศรีลังกาจะมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น
สำหรับประเด็นของ "พลายประตูผา" เป็นเรื่องที่แตกต่างจาก "พลายศักดิ์สุรินทร์" เพราะพลายศักดิ์สุรินทร์อายุเพียง 30 ปี ยังหนุ่ม ขณะที่ "พลายประตูผา" อายุเกือบ 50 ปีแล้วซึ่งสัตวแพทย์มีความเห็นว่า การเคลื่อนย้ายพลายประตูผาข้ามประเทศมีความเสี่ยงและเป็นอันตรายกับตัวช้างเอง
ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุด คือ ให้ "พลายประตูผา" ได้รับการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องยั่งยืนด้วยการทำโครงการความร่วมมือกันระหว่าง ไทยกับศรีลังกาในการแลกเปลี่ยนความรู้ บุคลากรเกี่ยวกับเรื่องการรักษาพยาบาลช้างซึ่งการทำเช่นนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาการดูแลช้างในระยะยาว ในประเทศศรีลังกาได้ และเชื่อว่า จะทำให้พี่น้องประชาชนคนไทยคลายความห่วงกังวลต่อช้างไทยที่ยังอยู่ในศรีลังกาได้
สำหรับโครงการแลกเปลี่ยนดังกล่าว อาจมีการทำ MOU ขึ้นซึ่งต้องให้กรมอุทยานฯ และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) เป็นผู้ลงนาม MOU ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศศรีลังกา เพื่อทำความตกลงแลกเปลี่ยน เทคโนโลยี และความรู้ทางการแพทย์เกี่ยวกับการดูแลช้าง ซึ่งแนวทางนี้จะทำให้การดูแลช้างเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และต่อเนื่องยาวนาน" นายวราวุธ กล่าว
นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า
สำหรับ "พลายศรีณรงค์" นั้นจากการที่นางสาวกัญจนาได้ไปเยี่ยมมาด้วยตัวเองนั้นก็ยังเห็นว่า มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี สุขภาพปกติดีอยู่ และการเดินทางไปศรีลังกาในต้นเดือนกันยายนนี้ นางสาวกัญจนาก็จะไปเยี่ยมพลายศรีณรงค์อีกครั้ง
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการกลับเมืองไทยของ พลายศักดิ์สุรินทร์ และ รมว.ทส. ได้รายงานให้ที่ประชุม ครม. ทราบรายละเอียดเพิ่มเติม โดยมีการรายงานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีกรณีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รับพลายศักดิ์สุรินทร์ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ เป็นที่ปลื้มปิติของพวกเราชาวกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ทีมงานทุกคน และปวงชนชาวไทย และต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ได้อนุมัติและช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงจนทุกอย่างราบรื่น พร้อมกันนี้ตนได้รายงานนายกฯ ว่า การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณรับพลายศักดิ์สุรินทร์ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์เช่นนี้ ทำให้ความกังวลเรื่องที่จะต้องส่งพลายศักดิ์สุรินทร์กลับศรีลังกาหรือไม่นั้นหายไป ส่วนทีมแพทย์ก็จะรักษาอาการบาดเจ็บของพลายศักดิ์สุรินทร์อย่างเต็มที่