svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ย้อนอ่านอีกครั้ง ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์  VALENTINE'S DAY

ชวนคอข่าว มาร่วมย้อนตำนานแห่งความรักอีกสักครั้ง ในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ (Valentine's Day) ชวนคนมีรัก คอข่าวเนชั่นออนไลน์ มาร่วมเปิด ประวัติวันวาเลนไทน์ จะประทับใจกันขนาดไหน ติดตามอ่านกันตรงนี้ เพื่อร่วมทบทวนทุกความทรงจำแห่งรัก  

ย้อนอ่านอีกครั้ง ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์  VALENTINE'S DAY

เดือนกุมภาพันธ์

จะเป็นอีกหนึ่งเดือนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นไอของความรัก ความสุขของการแสดงความรัก ความห่วงใยถึงคนที่เราปรารถนาดีและเราอยากให้เขามีความสุขมากที่สุดอีกวันหนึ่ง เป็นที่รับรู้กันทั่วโลกว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็น "วันแห่งความรัก" หรือ Valentine's Day และวันนี้ยังมีคิวปิด หรือกามเทพ

ย้อนอ่านอีกครั้ง ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์  VALENTINE'S DAY

ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของวันวาเลนไทน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คิวปิด เป็นบุตรของวีนัสและมาร์ส แต่ชาวกรีกเรียกคิวปิดว่า อีรอส ภาพของคิวปิดที่มนุษย์โลกปัจจุบันได้รู้จักก็คือภาพเด็กน้อยที่ถือคันธนูและลูกศร มีหน้าที่ยิงศรรักให้ปักใจผู้คนบนโลกใบนี้ ปัจจุบันคิวปิดและธนูของเขากลายมาเป็นเครื่องหมายแห่งความรักที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด ภาพจำของคิวปิดคือการยิงศรรักระหว่างหัวใจสองดวงให้รักกัน เรียกกันว่า ศรรักคิวปิด

ย้อนอ่านอีกครั้ง ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์  VALENTINE'S DAY

เทศกาลวาเลนไทน์ (Valentine's Day) เทศกาลแห่งความรัก เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ ในยุคนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกจัดให้เป็นวันหยุดเพื่อเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโน ผู้เป็นจักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน นอกจากนี้แล้วพระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่งอิสตรีเพศและการแต่งงาน และในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นวันเริ่มต้นเทศกาลเฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย การดำเนินชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกตัดขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง

ย้อนอ่านอีกครั้ง ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์  VALENTINE'S DAY

ในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่งกรุงโรม พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีใจคอดุร้าย และทรงนิยมการทำสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักว่าเหตุที่ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วมในกองทัพ เนื่องจากไม่อยากจากคู่รักและครอบครัวไป จึงทรงมีพระราชโองการสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นและแต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาด ทำให้ประชาชนทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง

ย้อนอ่านอีกครั้ง ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์  VALENTINE'S DAY

ในขณะนั้นมีนักบุญรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ หรือ วาเลนตินัส ซึ่งอาศัยอยู่ในโรมได้ร่วมมือกับเซนต์มาริอัส จัดพิธีแต่งงานให้กับชาวคริสต์หลายคู่ และด้วยความปรารถนาดีนี้เองจึงทำให้วาเลนไทน์ถูกจับ และระหว่างนั้นเขาก็ยังคงส่งคำอวยพรวาเลนไทน์ของเขาเองขณะที่เขาเป็นนักโทษ

เชื่อกันว่า วาเลนไทน์ ได้ตกหลุมรักหญิงสาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อจูเลีย ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะสิ้นชีวิตโดยการถูกตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า "From Your Valentine"

หลังจากนั้นศพของเขาได้ถูกเก็บไว้ที่ โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลีย ได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุมศพของ วาเลนตินัส ผู้เป็นที่รักของเธอ

โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพู ได้เป็นตัวแทนแห่งรักนิรันดรและมิตรภาพอันสวยงาม ถึงแม้ว่าเบื้องหลังความเป็นจริงของ "วาเลนไทน์" จะเป็น ตำนานที่มืดมัว แต่ยังคงแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกสงสาร ความกล้าหาญ ที่สำคัญที่สุดถือว่าเป็นเครื่องหมาย สัญญลักษณ์ของความโรแมนติก จึงไม่น่าประหลาดใจเลยว่า ในช่วงยุคกลาง วาเลนไทน์ นับเป็นนักบุญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในอังกฤษและฝรั่งเศส

ย้อนอ่านอีกครั้ง ประวัติวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์  VALENTINE'S DAY
ต่อมา นักบวชในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ "วันที่ 14 กุมภาพันธ์" เป็นวันเฉลิมฉลอง ในเทศกาลวันแห่งความรัก และดูเหมือนว่ายังคงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือกหญิงสาวที่ตนเองพึงใจใน วันวาเลนไทน์ (Valentine's Day) สืบต่อกันเรื่อยมาจากยุคอดีตจวบจนถึง ณ ปัจจุบันนี้ สืบมา

วันวาเลนไทน์ หรือ Valentine's Day ในแต่ละประเทศจะมีประเพณีหรือการปฏิบัติที่แตกต่างกันบ้าง แต่โดยรวมแล้วจะมีการเฉลิมฉลองและเป็นการแสดงถึงความรักที่มีระหว่างกัน ต่อมาเมื่อมีความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีทางด้านการพิมพ์ จึงมีการพิมพ์บัตรอวยพรแทนที่จดหมายที่เขียนด้วยลายมือ และปัจจุบันก็มีการส่งบัตรอวยพรทางออนไลน์เพื่อแสดงถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ช่วยให้คนที่ต้องการแสดงความรักความห่วงใยถึงคนที่รักได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

ประวัติวันวาเลนไทน์ในรูปแบบนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่เล่าต่อ ๆ กันมาจนถึงปัจจุบัน เท่าที่สืบค้นเสาะหามาเล่าสู่กันฟัง ตำนานนี้เป็นเพียงหนึ่งในหลาย ๆ เรื่องเท่านั้น แต่ไม่ว่าประวัติที่แท้จริงจะเป็นอย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ ได้ถือว่าวันวาเลนไทน์เป็นวันสำคัญวันหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว คุณๆๆๆ และคุณทุกคนสามารถส่งดอกไม้ ขนม และการ์ด เพื่อบอกความนัยให้แก่คนพิเศษของคุณ วันนี้..จะเป็นวันที่เราส่งความรู้สึกดีๆ ให้แก่กัน

สำหรับวาเลนไทน์ปี 2566 ปีนี้ ตรงกับวันอังคารที่ 14 (นะจ้ะทุกคน)


อย่าลืม! ย้ำดัง อย่าลืม ส่งมอบความรักให้แก่กันและกัน โลกเราจะได้มีความรัก ความอบอุ่นและเพิ่มเติมสายใยแห่งมิตรภาพมากยิ่งๆ ขึ้นไป