13 พฤศจิกายน 2565 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงานระบบบริการสาธารณสุขพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยมีการจัดเสวนาในหัวข้อ “ทศวรรษที่ 3 สู่การสร้างความเชื่อมั่นเครือข่ายระบบบริการสุขภาพของคนกรุงเทพมหานคร” เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่อง สิทธิ "บัตรทอง"
ระบบบัตรทองกทม. 7.8 ล้านคน ให้บริการได้แค่ 20 %
นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ใน กทม. มีจำนวน
ทั้งหมดมีบทบาทในการดูแลสุขภาพของประชาชนกทม. ทราบดีว่ายังไม่สามารถดูแลได้อย่างครอบคลุม
จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ที่ผ่านมา ทางผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินโครงการ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระยะสั้น 90 วัน เช่น
ต่อจากนี้ จะมีการพัฒนาระบบและเชื่อมโยงข้อมูล เช่น
“กรุงเทพมหานคร ไม่สามารถทำโดยลำพังได้ คงจะต้องมีความร่วมมือจากภาคเครือข่ายในกรุงเทพมหานครทั้งหมด สปสช. สบส. ที่จะต้องมาจับมือกันเพื่อทำให้เกิดระบบการให้บริการ” นพ.สุขสันต์ กล่าว
ต่อยอดเพิ่มหน่วยบริการเสริม
พญ.ลลิตยา กองคำ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า กทม.จะมีหน่วยบริการด้านปฐมภูมิเป็นหลักที่ให้บริการอยู่ แต่ในจำนวนที่มีอยู่ ยังไม่สามารถครอบคลุมประชาชนได้ทั้งหมด จากนี้อาจต้องเพิ่มหน่วยบริการเสริมในส่วนนี้ โดยอาศัยระบบการดูแลรักษาที่เกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาให้เป็นโอกาสที่จะต่อยอดให้เกิดขึ้น เช่น
จัดระบบส่งต่อที่พึงประสงค์และมีประสิทธิภาพ
พลอากาศเอก นพ.ทวีพงษ์ ปาจรีย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า การจะทำระบบส่งต่อที่พึงประสงค์และมีประสิทธิภาพ โดยหลักแล้วไม่มีอะไรที่ซับซ้อน แต่ประเด็นอยู่ที่ความพึงประสงค์ ซึ่งมีองค์ประกอบอยู่ 4 ส่วนที่เป็นตัวกำหนด ได้แก่
1. ผู้รับบริการ
2. สถานพยาบาลที่ส่งต่อ
3. สถานพยาบาลที่รับส่งต่อ
4. สปสช.และโดยทั่วไปในแต่ละส่วนจะใช้เกณฑ์ทั้งหมด 5 มิติ ได้แก่
การที่จะลดความแปรปรวนของระบบได้คือ โรงพยาบาลต้องร่วมมือกันตั้งแต่ต้น โดยสร้างเครือข่ายในการแบ่งปันและสนับสนุน 3 สิ่ง ดังนี้
1. บุคลากร
2. ทรัพยากร
3. ความรับผิดชอบ
จะทำให้การออกแบบเดินหน้าต่อไปได้ รวมถึงทำมาตรฐานคลินิกที่มาร่วมเป็นเครือข่าย เพื่อให้เกิดความไหลลื่นในการส่งต่อ ตลอดจนเชื่อมฐานข้อมูลแต่ละหน่วยบริการ
สิทธิประโยชน์บัตรทองที่เข้าถึงได้
สามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการประจำตามสิทธิ เพียงยื่นบัตรประชาชน
เพื่อป้องกันการเสียชีวิตหรืออาการรุนแรงขึ้น แบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ
ให้เข้ารับบริการกับหน่วยบริการของรัฐหรือเอกชน ที่เข้าร่วมโครงการที่อยู่ใกล้ที่สุด โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง กรณีเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ไม่เข้าร่วม ให้ติดต่อ สายด่วน สปสช. 1330 เพื่อแนะนำข้อมูลหรือประสานหาเตียงรองรับ
1. หากประสบอุบัติเหตุทั่วไป ให้ปฏิบัติเหมือนกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน
2. กรณีประสบอุบัติเหตุจากรถ ต้องใช้สิทธิตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถหมดก่อน ส่วนเกินจึงจะใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้