svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ทนายเสี่ยโลจิสติกส์ งัดหลักฐานโต้ "สาวหล่อ" หนังคนละม้วน ยัน สมัครใจทุกฝ่าย

11 พฤศจิกายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทนายเสี่ยโลจิสติกส์ งัดหลักฐานโต้ "สาวหล่อ" หนังคนละม้วน อยู่กิน 3 ผัวเมีย แบบเปิดเผย-ยินยอมทุกฝ่าย ยืนยันพร้อมสู้คดีในชั้นศาล ด้าน ผู้การ ปคม. จ่อเรียกให้ปากคำ

จากกรณีทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ พา น.ส.เอ๋ (นามสมมติ) อายุ 32 ปี สาวหล่อผู้เสียหาย ยื่นร้องขอความเป็นธรรมกับ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ถูกคู่สามีภรรยาเจ้าของบริษัทโลจิสติกส์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นนายจ้างบังคับข่มขืน และให้อยู่กินร่วมกันฉันสามีภรรยาพร้อมกันทั้ง 3 คน เพื่อแลกกับการชดใช้หนี้ หากไม่ทำตามจะถูกฟ้องร้องเรียกเงินถึง 10 ล้านบาท นั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 


11 พฤศจิกายน 2565 นายเอกสิทธิ์ ศรีสังข์ ทนายความของสองสามีภรรยา ที่ถูกสาวหล่อเข้าแจ้งความดำเนินคดี ชี้แจงว่า เท่าที่ฟังน้องผู้เสียหายให้สัมภาษณ์ หลายเรื่องสอดคล้องกับเรื่องที่ตนเองได้ยินมา อาจจะมีบางช่วงที่สองฝ่ายยังเล่าไม่ตรงกันอยู่ ซึ่งสุดท้ายสามารถพิสูจน์ความจริงได้จากพยานหลักฐาน แต่ยังไม่อยากนำมาเปิดเผยในชั้นนี้ ให้พิสูจน์กันในชั้นศาล และอย่างคลิปเสียงที่ออกมา เป็นแค่ตัดมาบางช่วงบางตอนไม่ใช่ฉบับเต็ม ทั้งนี้ก็อยากให้ได้ฟังคลิปฉบับเต็ม

ทนายเจ้าสองสามีภรรยา มั่นใจ มีหลักฐาน ยันไม่ได้บังคับ 

เรื่องทั้งหมดเป็นความสัมพันธ์ที่ยืดเยื้อกันมาถึง 6 ปี จนมาตกลงกันอยู่ร่วมกัน 3 ฝ่าย หลังจากนั้นอาจจะมีการไม่ถูกใจ หรือไม่อยากจะปฏิบัติตามก็เป็นอีกเรื่อง แต่ประเด็นที่ไปแจ้งความข้อหาข่มขืนใจและข่มขืนกระทำชำเรา ตนเองเชื่อว่า จากข้อมูลพยานหลักฐานที่มีอยู่ ไม่น่าจะไปถึงขั้นนั้น 
นายเอกสิทธิ์ ศรีสังข์ ทนายความเสี่ยโลจิสติกส์

ทนายเสี่ยโลจิสติกส์ งัดหลักฐานโต้ "สาวหล่อ" หนังคนละม้วน ยัน สมัครใจทุกฝ่าย

ทนายเสี่ยโลจิสติกส์ งัดหลักฐานโต้ "สาวหล่อ" หนังคนละม้วน ยัน สมัครใจทุกฝ่าย

ทนายเสี่ยโลจิสติกส์ งัดหลักฐานโต้ "สาวหล่อ" หนังคนละม้วน ยัน สมัครใจทุกฝ่าย

ส่วนจะมั่นใจในพยานหลักฐานมากน้อยแค่ไหนนั้น มองว่า สุดท้ายศาลจะเป็นคนตัดสิน และตนเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่มีความสัมพันธ์กัน 3 คน ส่วนเรื่องการบังคับหลับนอนหรือไม่ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่อยู่บนเตียงกัน 2-3 คน ตนเองไม่ได้เชื่อใคร แต่จะดูจากพยานหลักฐานทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ และค่อนข้างเชื่อในฝั่งลูกความของตนเองว่า ไม่ได้เป็นการบังคับขู่เข็ญ

ชี้สัญญาควรดูจากหลักฐาน รับ 2 สามีภรรยารักสาวหล่อจริง


กรณีมีรูปที่ปรากฎออกมาว่าไปเที่ยวด้วยกัน และสาวหล่ออ้างว่าเป็นความจำยอมนั้น ทนายเอกสิทธิ์ มองว่า คนเราสามารถที่จะบังคับคนอื่นไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันได้หรือไม่ และตนเองมีข้อมูลเชิงลึกแต่ยังเปิดเผยไม่ได้ ทั้งการเลือกซื้อของขวัญด้วยตนเองหมดไปหลายแสนบาท ซึ่งตนเองมีพยานหลักฐานทั้งหมดแต่ยังไม่ขอเปิดเผย

เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่อยู่บนเตียงกันตนเองไม่ได้เชื่อใคร แต่ผมดูจากพยานหลักฐานทั้งก่อนเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุ และค่อนข้างเชื่อลูกความตนเองว่าไม่ได้เป็นการบังคับขู่เข็ญ ที่ผู้เสียหายอ้างว่าไหลไปตามน้ำ จำยอมนั้น ตนเองมองว่า ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจว่าจะมีน้ำหนักน่าเชื่อถือแค่ไหน แต่ในสายตาตนเองไม่ได้มีน้ำหนักและไม่น่าเชื่อถือ


ทนายเสี่ยโลจิสติกส์ งัดหลักฐานโต้ "สาวหล่อ" หนังคนละม้วน ยัน สมัครใจทุกฝ่าย

ส่วนประเด็นเรื่องของสัญญาที่ผู้เสียหาย ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนทำนั้น ทนายบอกว่า เวลาดูเอกสารหลักฐานอะไรไม่ควรดูจากคำพูดคน แต่ควรดูเนื้อหาในของเอกสาร ข้อ1-4 เป็นเนื้อหาที่ปกป้องคู่กรณีทั้งหมดจะไม่ไปฟ้องร้อง ทรัพย์สินเงินทองที่จะไม่เรียกคืน หรือแม้กระทั่งเรื่อง 10 ล้าน หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญา หากเป็นสัญญาทาสก็คงเขียนเรียกร้องจากเขาฝ่ายเดียว และสัญญาประเภทนี้ไม่ได้ให้นักกฎหมายร่าง ก็บังคับใช้ไม่ได้ 

ทนาย แนะ ควรเจรจาหาทางออก ยัน ไม่ฟ้องกลับ

ทั้งนี้การที่สาวทอมหนีออกมา ถือเป็นโมฆะหรือไม่นั้น ตนเองมองว่า ตามหลักกฎหมายถ้าสัญญาขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีก็ถือว่าเป็นโมฆะ กรณีนี้เนื้อหาในสัญญา 5 ข้อ บางข้อเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น แต่ข้อกฎหมายก็บอกอีกว่า ส่วนไหนที่เป็นโมฆะก็เป็นโมฆะไป ส่วนไหนที่ยังบังคับใข้ได้ก็ยังสามารถบังคับใช้ได้อยู่ 

ที่ผู้เสียหายต้องการฉีกสัญญาและให้มีอิสระ ทนายความมองด้วยว่า ถ้าข้อเสนอ เป็นแบบนี้ก็ยินดี และก็ควรที่จะเจรจาหาทางออกร่วมกันได้น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะข้อเท็จจริงที่ตนเองได้รับคือการลองพยายามที่จะปรับตัวเข้าหากันแล้วแต่มันไม่สามารถปรับได้ น้องเขาก็คงอาจจะอยากเลิก และลูกความตนเองก็อาจจะไปพยายามตามตื๊อทำให้น้องรู้สึกดดัน แต่การไปพยายามตื๊อ ไม่ได้เป็นการไปบังคับขู่เข็ญ  พร้อมยอมรับว่า สองสามีภรรยา รักสาวหล่อ ถ้าไม่รักคงไม่ซื้อทรัพย์สินและเปย์ให้ เวลาดูเอกสารหลักฐานอะไรไม่ควรดูจากคำพูดคน แต่ควรดูเนื้อหาในของเอกสาร ข้อ1-4 เป็นเนื้อหาที่ปกป้องคู่กรณีทั้งหมด และจะไม่ไปฟ้อง


ผบก.ปคม. เตรียมเรียกสองสามีภรรยาให้ปากคำ ชี้ สัญญาบังคับใช้ไม่ได้

ส่วนความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. กล่าวว่า หลังรับเรื่องทาง บก.ปคม. ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนขึ้นมา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เบื้องต้น มีการสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อซักถามรายละเอียดทางคดีไปเมื่อวานที่ผ่านมา แต่เพื่อความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย จึงได้ประสานเชิญตัวสองสามีภรรยา ผู้ถูกกล่าวหา ให้มาเข้าพบพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ก็เพื่อเปิดโอกาสให้ทางฝั่งผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงข้อมูลรายละเอียดในส่วนของตัวเองด้วยเช่นกัน
 

“ส่วนหนังสือสัญญาข้อตกลงที่มีการทำขึ้นมาเพื่อผูกมัดนั้น จากการตรวจสอบรายละเอียดของสัญญาแล้ว พบเป็นสัญญาที่ขัดต่อศีลธรรมอันดี ไม่สามารถบังคับใช้ได้” ผบก.ปคม. กล่าว

ทนายเสี่ยโลจิสติกส์ งัดหลักฐานโต้ "สาวหล่อ" หนังคนละม้วน ยัน สมัครใจทุกฝ่าย

logoline