อัปเดตความคืบหน้า จันทรุปราคาเต็มดวง จันทรุปราคาเต็มดวงสีอิฐเต็มดวง ราหูอมจันทร์ โดยทางด้านเพจดังดาราศาสตร์ เฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ โพสต์ข้อความโดยระบุว่า ..
สนใจชมสด >> คลิกที่นี่
3 เหตุผลที่คุณต้องรอชม จันทรุปราคาเต็มดวงเหนือฟากฟ้าเมืองไทย ในคืนวันที่ 8 พ.ย. 2565 มีดังต่อไปนี้
1. ตรงกับวันลอยกระทง
นานทีมีหนที่ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงจะเกิดขึ้นตรงกับวันเพ็ญเดือนสิบสองพอดี หมายความว่า คนไทยทั้งประเทศจะได้ฉลองวันลอยกระทงไปพร้อมกับดวงจันทร์เต็มดวงสีแดงอิฐ ชมด้วยตาเปล่าได้ทั่วประเทศ นับเป็นโอกาสที่พิเศษมากเลยทีเดียว และพิเศษสุดกับพวกเราชาว NARIT ที่จัดกิจกรรมลอยกระทงชมจันทร์สีแดงอิฐแบบเฉพาะกิจ แต่งชุดไทยเก๋ๆ มาชมจันทรุปราคาด้วยกันที่หอดูดาว พบกันได้ที่จุดสังเกตการณ์หลัก 4 แห่ง เชียงใหม่ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา และสงขลา
2. เห็นดวงจันทร์เต็มดวงเป็นสีแดงอิฐตั้งแต่โผล่พ้นจากขอบฟ้า
จันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้ ดวงจันทร์จะขึ้นจากขอบฟ้าขณะอยู่ในช่วงคราสเต็มดวงพอดี หรือก็คือดวงจันทร์อยู่ในเงามืดของโลกทั้งดวง ทำให้เราจะเห็นดวงจันทร์เป็นสีแดงอิฐตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ (ช่วงเวลาเกิดคราสเต็มดวงที่สังเกตได้ในไทย ประมาณ 17.44 - 18.41 น. รวมระยะเวลา 57 นาที) จากนั้นดวงจันทร์จะเคลื่อนออกจากเงามืดเข้าสู่เงามัวของโลก เกิดเป็นปรากฏการณ์จันทรุปราคาบางส่วน จะมองเห็นดวงจันทร์เว้าแหว่งบางส่วน และเมื่อดวงจันทร์เข้าสู่เงามัวของโลกทั้งดวง จะเกิดเป็นปรากฏการณ์จันทรุปราคาเงามัว มองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงมีความสว่างลดลงเล็กน้อย ก่อนสิ้นสุดปรากฏการณ์ในเวลา 20.56 น. เมื่อดวงจันทร์โคจรออกจากเงาของโลกหมดทั้งดวง
3. ชมได้อีกที 3 ปีข้างหน้า
หลังจากนี้จะไม่มีปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงเกิดขึ้นในประเทศไทยไปอีก 3 ปี จะได้ชมดวงจันทร์สีแดงอิฐทั้งดวงแบบนี้อีกทีคือวันที่ 8 กันยายน 2568
นอกจากนี้ สื่อดังต่างประเทศต่างพร้อมใจรายงานข่าว ปรากฎการณ์จันทรุปราคา จันทรุปราคาเต็มดวง โดยระบุเนื้อหาที่น่าสนใจว่า บรรดาผู้คนในหลายภูมิภาค ทั้งในอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และพื้นที่ส่วนใหญ่ในทวีปเอเชีย ประเทศไทยและโซนแปซิฟิก จะมีโอกาสได้ชมปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง หรือ "ราหูอมจันทร์" ในค่ำคืนวันลอยกระทง 8 พ.ย. 2565
ย้ำกันดังๆ ไว้ว่าหากใครพลาดปีนี้ คงจะต้องร้องเพลงรอๆๆๆ ไปอีก 3 ปี คือ 2568 กันทีเดียว
ในขณะที่ทวีปแอฟริกา ตะวันออกกลาง และยุโรป จะไม่ได้เห็นปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้ และจะต้องรอไปจนถึงปี 2025
การเกิดจันทรุปราคาในคืนวันที่ 8 พ.ย. ถือเป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี 2565 และครั้งนี้จะเกิดราหูอมจันทร์นาน 85 นาที อีกทั้ง ดวงจันทร์ในปรากฏการณ์นี้ ได้ชื่อว่า ‘พระจันทร์สีเลือด’ หรือ Blood Moon เนื่องจากเงาของโลกจะบดบังแสงอาทิตย์ไปเกือบทั้งหมด แต่ก็ยังมีแสงอาทิตย์บางส่วนส่องผ่านชั้นบรรยากาศโลกมาเฉพาะแสงช่วงคลื่นสีแดง ทำให้เราเห็นดวงจันทร์เป็นสีส้ม หรือสีแดงนั่นเอง ซึ่งปรากฏการณ์นี้คล้ายกับตอนที่คนบนโลกเห็นดวงอาทิตย์เป็นสีส้มหรือสีแดง ตอนพระอาทิตย์ขึ้น หรือพระอาทิตย์ตก
ตามข้อมูลจาก องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) ระบุว่า
ในการเกิด ปรากฎการณ์จันทรุปราคาในคืนนี้ (8 พ.ย. 2565) ดวงจันทร์จะอยู่ห่างจากโลกของเรา เป็นระยะทาง 242,740 ไมล์ หรือประมาณ 390,553 กิโลเมตร นอกจากนั้น การเกิดจันทรุปราคาในครั้งนี้ ยังเกิดปรากฏการณ์ดวงจันทร์บังดาวยูเรนัส ในเวลาเดียวกันด้วย
ขอขอบคุณ: เพจเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ พร้อมถ่ายทอดสด "จันทรุปราคาเต็มดวง" ในคืนวันลอยกระทง 2565 ชมได้ทางเพจเฟซบุ๊ก คลิกเลยที่นี่ ชมสดจันทรุปราคา
โดย เรียงลำดับการเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง มีดังนี้
เวลา 17:44-18:41 น. จันทรุปราคาเต็มดวง
เวลา 18:41-19:49 น. จันทรุปราคาบางส่วน
เวลา 19:49-20:56 น. จันทรุปราคาเงามัว
เวลา 20:56 น. สิ้นสุดปรากฏการณ์ ชมด้วยตาเปล่าได้ทั่วประเทศไทย
ปรากฏการณ์จันทรุปราคา เป็นปรากฏการณ์ที่ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์โคจรมาอยู่ในแนวระนาบเดียวกัน โดยมีโลกอยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ เกิดขึ้นเฉพาะในวันดวงจันทร์เต็มดวง หรือ ช่วงข้างขึ้น 14-15 ค่ำ ขณะที่ดวงจันทร์โคจรผ่านเข้าไปในเงามืดของโลกที่ทอดไปในอวกาศ ผู้สังเกตบนโลกจะมองเห็นดวงจันทร์เว้าแหว่งไปเรื่อย ๆ จนดวงจันทร์เข้าไปอยู่ในเงามืดทั้งดวง และเริ่มมองเห็นดวงจันทร์เว้าแหว่งอีกครั้งหนึ่งเมื่อดวงจันทร์เคลื่อนที่ออกจากเงามืดของโลก คนไทยสมัยโบราณเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “ราหูอมจันทร์"
เงาของโลกที่ทอดไปในอวกาศแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ “เงามัว (Penumbra Shadow)” เป็นเงาส่วนนอกสุด เมื่อดวงจันทร์เข้ามาอยู่ในเงาส่วนนี้จะมีความสว่างลดลงเล็กน้อย และ “เงามืด (Umbra Shadow)” เป็นเงาที่มืดสนิท เมื่อดวงจันทร์เข้ามาอยู่ในเงาส่วนนี้จะทำให้เกิดส่วนมืดเว้าแหว่ง จึงแบ่งประเภทของปรากฏการณ์จันทรุปราคาได้ดังนี้
1. จันทรุปราคาเต็มดวง (Total Lunar Eclipse)
เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์ทั้งดวงเคลื่อนที่เข้าไปอยู่ในเงามืดของโลก จะมองเห็นดวงจันทร์เป็นสีส้มหรือสีแดงอิฐ เนื่องจากแสงขาวจากดวงอาทิตย์จะถูกหักเหเมื่อผ่านชั้นบรรยากาศโลก สีแดงและสีส้มเบี่ยงทิศทางเข้าหากลางเงามืด จึงมองเห็นดวงจันทร์เป็นสีแดงระหว่างเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง
2. จันทรุปราคาบางส่วน (Partial Lunar Eclipse) เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์เคลื่อนที่ผ่านเงามืดของโลกเพียงบางส่วน โดยจะมองเห็นดวงจันทร์มีลักษณะเว้าแหว่ง
3. จันทรุปราคาเงามัว (Penumbral Lunar Eclipse) เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์เคลื่อนที่ผ่านเข้าไปเงามัวของโลก โดยไม่ผ่านเงามืด เรายังคงมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวง แต่ความสว่างลดน้อยลง สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างยาก
โดยสามารถชมการถ่ายทอดสดผ่านเพจเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ได้ตามลิงก์ข้างล่างนี้
ถ่ายทอดสด จันทรุปราคาเต็มดวงสีอิฐ คลิก >> ชมสดที่นี่
ขอขอบคุณที่มา เพจ NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ
อัปเดตจันทรุปราคา !!
วันนี้ชมจันทรุปราคาเต็มดวงกัน
16:09 น. 🌒 เริ่มเกิดจันทรุปราคาบางส่วน
17:16 น. 🔴 เริ่มเกิดจันทรุปราคาเต็มดวง
17:59 น. 🔴 ดวงจันทร์เข้าไปในเงาลึกที่สุด
18:41 น. 🔴 สิ้นสุดจันทรุปราคาเต็มดวง
19:49 น. 🌘 สิ้นสุดจันทรุปราคาบางส่วน