9 ต.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7ต.ค.ที่ผ่านมา "ราชกิจจานุเบกษา" ได้เผยแพร่ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจพิสูจน์การมีสารเสพติดหรือวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในร่างกายของผู้ขับขี่หรือบุคคลที่อาจเป็นผู้ขับขี่ซึ่งอยู่ในภาวะหมดสติหรือได้รับอันตรายแก่กายจนไม่สามารถให้ความยินยอมได้ กรณีที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น พ.ศ. ๒๕๖๕
พร้อมกันนี้ "ราชกิจจาฯ" ยังได้เผยแพร่ ระเบียบสตช.ในการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายฉบับใหม่อีกด้วย
สำหรับฉบับแรก ระบุว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสำหรับพนักงานสอบสวนในการขอให้แพทย์ทำการตรวจพิสูจน์การมีสารเสพติดหรือวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในร่างกายของผู้ขับขี่หรือบุคคลที่อาจเป็นผู้ขับขี่ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๔๓ ทวิ วรรคหนึ่งในกรณีที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น และบุคคลดังกล่าวอยู่ในภาวะหมดสติหรือได้รับอันตรายแก่กายจนไม่อาจให้ความยินยอมในการทดสอบการมีสารอยู่ในร่างกายตามมาตรา ๔๓ ทวิ วรรคสอง ได้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔๓ ทวิ/๑ แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ซึ่งเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๖๕ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
สำหรับระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจพิสูจน์ปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของผู้ขับขี่หรือบุคคลที่อาจเป็นผู้ขับขี่ซึ่งอยู่ในภาวะหมดสติหรือได้รับอันตรายแก่กายจนไม่สามารถให้ความยินยอมได้ กรณีที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น พ.ศ. 2565 จะใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 30 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดดังนี้
คลิกอ่านฉบับเต็ม >>>