svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ปภ. สั่งเฝ้าระวังและเร่งช่วยเหลือประชาชน 7 จังหวัดน้ำท่วม

03 กันยายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เฝ้าระวังน้ำท่วมโดยเฉพาะใน 7 จังหวัด ประสานจังหวัดดูแลประชาชนครอบคลุมทุกด้าน พร้อมเร่งระบายน้ำท่วมรวมถึงสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือ

3 กันยายน 2565 สถานการณ์น้ำท่วมใน 7 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร อุบลราชธานี ปราจีนบุรี นครนายก พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และปทุมธานี รวม 33 อำเภอ 160 ตำบล 614 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 24,117 ครัวเรือน แยกเป็น

 

สถานกาณ์ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ยประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเล อันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง 

 

ส่งผลให้ในวันที่ 1 – 3 กันยายน 2565 เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน น่าน ลำปาง พิจิตร สระบุรี สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต และกระบี่ รวม 12 อำเภอ 17 ตำบล 35 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 259 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสีชีวิต สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 8 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 1 จังหวัด ดังนี้ 

  • พิจิตร น้ำในแม่น้ำยมเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่อำเภอสามง่าม รวม 3 ตำบล 9 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 50 ครัวเรือน ระดับน้ำท่วมทรงตัว  

ปภ. เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

ส่วนสถานการณ์ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่พายุโซนร้อน “หมาอ๊อน” (MAON) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก 

 

ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก ลำน้ำสาขามีปริมาณมากในบริเวณลุ่มน้ำป่าสัก ลุ่มน้ำชี ลุ่มน้ำมูล รวมถึงการระบายน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา 1500 – 1800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และน้ำล้นตลิ่ง โดยในช่วงวันที่ 13 ส.ค. – 3 ก.ย. 65 ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี นครนายก พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และปทุมธานี รวม 21 อำเภอ 143 ตำบล 579 หมู่บ้าน ประชานได้รับผลกระทบ 23,858 ครัวเรือน ดังนี้

 

  • 1. อุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ รวม 3 ตำบล 13 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 157 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว 
  • 2. ปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีมหาโพธิ อำเภอประจันตคาม รวม 7 ตำบล 19 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 442 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง 

เร่งช่วยเหลือ ผุ้ประสบอุทกภัย

  • 3. นครนายก น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครนายก อำเภอบ้านนา อำเภอปากพลี และอำเภอองครักษ์ รวม 18 ตำบล 24 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,088 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
  • 4. พระนครศรีอยุธยา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร อำเภอบางปะหัน อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะอิน อำเภอท่าเรือ และอำเภอนครหลวง รวม 92 ตำบล 451 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 16,037 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
  • 5. อ่างทอง น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอป่าโมก รวม 2 ตำบล 9 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 297 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
  • 6. ปทุมธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี อำเภอสามโคก รวม 21 ตำบล 64 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,837 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

ปภ. สั่งเฝ้าระวังและเร่งช่วยเหลือประชาชน 7 จังหวัดน้ำท่วม

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และให้การดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง และจะได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือ 

 

ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง  นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัย ได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER”


 

logoline