อีกบทความทางวิชาการที่น่าสนใจมากๆ ล่าสุดทางด้าน “หมอดื้อ” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หรือ “หมอธีระวัฒน์” ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับอาการโรค "ฝีดาษลิง"
โดยระบุว่า "ทำโรคฝีดาษลิงให้เป็นเรื่องง่าย หมอดื้อ" 10/8/65
1- ยอมรับว่าเป็นโรคติดต่อที่เกี่ยวข้องกับเพศสัมพันธ์
2-ไม่ได้จำกัดอยู่ที่กลุ่มรักเพศเดียวกันหรือรักสองเพศ เป็นได้ระหว่างชายกับหญิงธรรมดาก็ได้
3-คนที่มีความเสี่ยงหรือที่อาจจะเป็น จะอึดอัดที่จะบอกความจริงเกี่ยวกับพฤติกรรม (เพราะอาจไปเถลไถลที่อื่น)
4-ความผิดปกติที่เกิดขึ้นอาจมีเพียงแผลตุ่ม แต่ยังสบายดี หรือกลับกันคือรู้สึกไม่สบายแต่ยังไม่มีแผลตุ่ม
5-ทันทีที่เกิดความผิดปกติดังข้อ 4 เชื้อสามารถแพร่ได้ทางละอองฝอยน้ำลาย สิ่งคัดหลั่งจากแผลตุ่ม และ”อาจเป็นไปได้” จากน้ำอสุจิ ช่องคลอดและทวารหนัก
6- การสืบสวน สอบสวน ที่หมอต้องแจ้งทางการก่อน สอบ ชื่อที่อยู่ครอบครัว รสนิยมทางเพศ ถ่ายรูปตุ่มส่งให้ทางการไปดูก่อนว่า เหมือนหรือไม่ (ซึ่งไม่มีทางบอกได้)
ก่อนที่จะลงมือทำการสืบสวนและตรวจ จะหลุดโอกาสที่จะรู้เร็ว ป้องกันเร็ว รักษาเร็ว ระงับการระบาด
7-ช่องทางที่ให้คำปรึกษาในประเทศไทยมีอยู่แพร่หลาย คลินิกเอชไอวี คลีนิคเพศสัมพันธ์คลินิกทั่วไปทางเวชกรรม สงสัยส่งตรวจ
8-ง่ายนิดเดียว แยงจมูกและลำคอแบบโควิด ใส่หลอด UTM VTM แม้กระทั่งเก็บน้ำลายสด รู้ภายใน 24 ชั่วโมง
9- มีการตรวจพีซีอาร์ ทั่วไปแล้ว รวมทั้งศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่คณะแพทยศาสตร์จุฬา ซึ่งทำการตรวจได้มาเกือบ 10 ปีแล้ว เพราะอยู่ในตระกูลฝีดาษซึ่งเป็นโรคที่ต้องจับตา
10- ถ้าได้ผลบวก บอกคนติดทันที คนที่ติดไปแล้วต้องบอกคนที่สัมผัสมีสัมพันธ์ด้วย และคนที่อยู่อาศัยใกล้ชิดเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มที่นอน พร้อมกันนั้นบอกประสานทางการให้การช่วยเหลือ
ฝีดาษลิงไม่ใช่เรื่องยากเกินไป
ไม่ใช่คิดแต่วัคซีนหรือยารักษาต้องทำให้เป็นเรื่องปกติเข้าถึงได้รักษาความลับ เร่งกระบวนการให้เร็วสุด