svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

"ปลุกม็อบ" เสี่ยงวิกฤตการเมือง แนะ"กก. -พท." มัดให้แน่น ยึดกลไกรัฐสภา

16 กรกฎาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ยึดมั่น MOU 8 พรรคประชาธิปไตย ไม่จัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ไม่จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ใช้กลไกรัฐสภาหาทางออก เลี่ยงการชุมนุมก่อความเสี่ยงวิกฤติการเมือง ติดตามในเจาะประเด็น โดย "รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ"

รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ กรรมการวิทยาลัยนานาชาติ ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักนายกรัฐมนตรี  แสดงความเห็นต่อสถานการณ์ทางการเมืองว่า พรรคการเมือง 8 พรรคประชาธิปไตยควรยึดมั่นต่อเจตนารมณ์ของประชาชน

โดยเฉพาะ พรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อไทย ต้องรักษาความเป็นเอกภาพและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการพยายามอย่างเต็มที่ในการจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้

การจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วจะทำให้ประชาชนเสียงข้างมากผิดหวังและทำให้ ขบวนการประชาธิปไตยทั้งขบวนอ่อนแอลง และพรรคการเมืองต่างๆต้องยืนยันไม่สนับสนุนจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยซึ่งผิดหลักการประชาธิปไตยและไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่

เมื่อวันที่ 16 ก.ค.66 กลุ่มผู้ชุมนุม"คาร์ม็อบ" เคลื่อนขบวนไปกองบัญชาการกองทัพไทย เรียกร้องให้ผบ.เหล่าทัพลาออกจากส.ว.

การแสวงหาทางออกจากข้อจำกัดของรัฐธรรมนูญปี 2560 ต้องพยายามทำผ่านกลไกรัฐสภา หลีกเลี่ยงการชุมนุมทางการเมืองใดๆอันอาจนำไปสู่ความเสี่ยงวิกฤตการณ์ทางการเมืองหรือสร้างเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหารยึดอำนาจของประชาชนด้วยวิธีการต่างๆ

หากพรรคก้าวไกลในฐานะแกนนำทำเต็มที่แล้วเพื่อจัดตั้งรัฐบาลและเลือกนายกรัฐมนตรีแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ควรสลับให้ "พรรคเพื่อไทย" เป็นแกนนำ เพื่อรักษาเจตนารมณ์ของประชาชน

บรรยากาศ ความร่วมมือของ 8 พรรคร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล

การลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา สมาชิกวุฒิสภาส่วนใหญ่ได้ทำลายเจตจำนงของประชาชน ตามประชาธิปไตยไปอย่างสิ้นเชิง และทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ สร้างปัญหาต่อเศรษฐกิจและเกิดความล่าช้าในการแก้ไขปัญหาของประชาชน

โดยใช้ข้ออ้างเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 สร้างความแตกแยกในสังคม ประเด็นดังกล่าวถูกนำมาเป็นประเด็นหลักในการสร้างเงื่อนไขทางการเมืองและทำให้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเสื่อมเสีย

การกล่าวหาว่าจะมีการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ก็เป็นการใช้กลเกมทางการเมืองที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติและทำให้เกิดความขัดแย้งเผชิญหน้าในสังคมและอันอาจนำมาสู่ความรุนแรงได้

ความจริงแล้ว วุฒิสมาชิกที่มีวุฒิภาวะและเห็นแก่ประโยชน์สาธารณะ (โดยเฉพาะ 13 ท่านที่ลงคะแนนตามพรรคการเมืองเสียงข้างมาก) จะไม่ใช้วิธีการแบบนี้ในการต่อสู้ความเห็นต่างในประเด็นมาตรา 112 ความเห็นต่างทางการเมือง ความเห็นต่างในประเด็นมาตรา 112 สามารถหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งรุนแรง เพราะเราต่างเป็นเพื่อนร่วมชาติ เป็นคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น

ท่านสมาชิกวุฒิสภาต้องตระหนักว่า การกระทำที่ไม่ยอมรับฉันทามติของประชาชนจะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆติดตามมาอีกมากมายต่อประเทศและประชาชน ระบบการเมืองอันบิดเบี้ยวภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2560 แนวทางเดียวที่วุฒิสมาชิกจะสร้างความชอบธรรมให้เกิดขึ้นกับรัฐบาลใหม่ ก็คือ การลงคะแนนเสียงที่สอดคล้องกับเสียงของสภาผู้แทนราษฎร ไม่ใช่การออกเสียงสวนทาง งดออกเสียงหรือขาดประชุม
 
นอกจากนี้ เพื่อให้รัฐบาลใหม่สามารถบริหารงานโดยไม่ต้องเผชิญนิติสงครามและการใช้อำนาจอย่างไม่ชอบธรรมผ่านองค์กรภายใต้รัฐธรรมนูญตลอดเวลา

\"ปลุกม็อบ\" เสี่ยงวิกฤตการเมือง แนะ\"กก. -พท.\" มัดให้แน่น ยึดกลไกรัฐสภา

จึงเสนอให้รัฐสภาออกคำสั่งทางกฎหมาย ให้การดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กกต. ปปช. และกรรมการในองค์กรอิสระ ที่ดำรงตำแหน่งอยู่และมาจากระบบการคัดเลือกของ คสช. พ้นจากตำแหน่ง และให้มีกระบวนการสรรหาและคัดเลือกใหม่ ที่มีที่มาจากระบบการคัดเลือกที่ยึดโยงกับอำนาจของประชาชน การสรรหาใหม่ทั้งหมดเพื่อให้ได้กระบวนการที่เชื่อมโยงกับประชาชนมากขึ้น ป้องกันการใช้นิติสงครามสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลใหม่
 

logoline