svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

"ก้าวไกล" ร้าวลึกภายใน ทางแยกสีส้มที่ยากประสาน"ศึกเลือกตั้ง66"

12 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ปรากฎการณ์ เลือดไหลออกจาก"พรรคก้าวไกล" อาจกลายเป็นภาพปกติเหมือนพรรคการเมืองอื่นๆ ที่ต่างต้องดิ้นหาทางเลือกที่ดีกว่าใน"สนามเลือกตั้ง66" หากแต่ ภายในยังมีความร้าวลึกกว่านั้น และยากปรับจูน ติดตามเจาะประเด็น โดย "เมฆาในวายุ"

การลาออกจาก"พรรคก้าวไกล"ของ"คริส โปตระนันท์" อดีตผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ปัจจุบันคือพรรคก้าวไกล ซึ่งตอนนี้ลาออกเพื่อไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ ออกมาระบุว่า ในพรรคก้าวไกลมี "โปลิตบูโร"  และล่าสุด "ทศพร  ทองศิริ" ส.ส.กทม. เขตราษฎร์บูรณะ-ทุ่งครุ พรรคก้าวไกล ที่ยังไม่ลาออกจาก ส.ส.พรรคก้าวไกลแต่ประกาศว่าจะไปร่วมงานกับ"พรรครวมไทยสร้างชาติ"พร้อมกับ "วินท์ สุธีรชัย"  อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล-อดีตแกนนำพรรครวมไทยยูไนเต็ด 


"ผมกับคริส ไม่ต่างกัน เพียงแต่เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ตั้งแต่ยุคแรกๆ แต่การเข้าใจบริบทปัญหาภายใน เราเข้าใจกันดีอยู่แล้วเพียงแต่ว่าอยู่ที่จะพูดหรือไม่พูด เราก็พูดแต่ความจริง เพียงแต่ว่าจะพูดได้มากแค่ไหนเท่านั้นเอง" ทศพร กล่าว 

โดยเหตุผลหนึ่งที่พบคือ แนวคิดเรื่องสถาบันฯ ไม่สามารถเดินไปด้วยกันได้ และ"ทศพร" เป็น 1 ใน 9 ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่ไม่ร่วมลงชื่อกับพรรคตอนที่พรรคเสนอญัตติให้แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แปลว่าปัญหาภายในเรื่องสถาบันนั้น หลายคนของพรรคสีส้มเวอร์ชั่นสองไม่เอาด้วยกับจุดยืนของพรรค

 

"วินท์ สุธีรชัย" ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรครวมไทยสร้างชาติ และเป็นอดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมทีมงานก้าวไกลที่จะย้ายมาด้วย

 

บวกกับปัญหาในพรรคที่มีการเล่นพรรคเล่นพวก ไม่ดูแล ส.ส.และสมาชิกพรรคในการทำงานในพื้นที่เท่าที่ควร และหากมองไปยังแนวทางของ"คณะก้าวหน้า" ที่เป็นปีกสีส้มปีกหนึ่งของพรรคก้าวไกลที่ส่งนักการเมืองลงแข่งขันสนามท้องถิ่น(อบจ./เทศบาล/อบต.) เมื่อไปตรวจสอบให้ลึกพบว่าคนการเมืองเหล่านั้นมีการไขก๊อกไม่ไปต่อกับปีกสีส้มนี้แล้ว และอดีตผู้สมัครส.ส.พรรคอนาคตใหม่ในคราวที่แล้วหลายคนไม่ร่วมงานกับพรรคก้าวไกล โดยหันไปสวมเสื้อพรรคอื่นๆแทน

 

ผนวกกับการประกาศไม่สังฆกรรมกับพรรคก้าวไกลของ"ปิยบุตร แสงกนกกุล" อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ทั้งๆที่ "ปิยบุตร" นับเป็นคีย์แมนหลักของชาวสีส้ม

ปรากฏการณ์เหล่านี้ สะท้อนอะไรบ้าง

 

"หากไล่ไทม์ไลน์"พรรคสีส้ม"ทั้งสองเวอร์ชั่นคือ"พรรคอนาคตใหม่"และ"พรรคก้าวไกล"นับเป็นพรรคที่มีสีสรรแบบสุดขั้วพรรคหนึ่ง เพราะตอนตั้งพรรค จุดยืนของพรรคนี้คือต้านการสืบทอดอำนาจ ปฏิรูปกองทัพ หนุนคนรุ่นใหม่ แก้รัฐธรรมนูญ แต่จริงๆแล้วหลายคนอ่านออกว่าฐานความคิดของแกนนำพรรค คือ ปฏิรูปสถาบันและหนุนม็อบสามนิ้วมาโดยตลอดและในปรากฏการณ์การเมืองวันวาน-วันนี้  พบว่า ส.ส.พรรคสีส้มทั้งสองเวอร์ชั่น ได้บังเกิดเหตุ ส.ส.ไหลออกไปขั้วตรงข้ามมากมาย เช่น พรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา และบางคนยังไปพรรคเพื่อไทยด้วย"

\"ก้าวไกล\" ร้าวลึกภายใน ทางแยกสีส้มที่ยากประสาน\"ศึกเลือกตั้ง66\"

ผลเลือกตั้งส.ส.24 มี.ค.2562 พบว่า "พรรคอนาคตใหม่" ได้ ส.ส.เขต 30 เสียง ส.ส.บัญชีรายชื่อ 57 เสียง รวม ส.ส. 87 เสียง  นับเป็นพรรคอันดับสามของสภาผู้แทนฯ และเมื่อโดนคำสั่ง"ยุบพรรค" ส่งผลให้กรรมการบริหารพรรคที่เป็นส.ส.พรรคอนาคตใหม่ 15 คน ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลาสิบปีประกอบด้วย 

 

ธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตไทยที่ถูกยุบ เป็นหัวหน้าคณะก้าวหน้า

 

1. ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (พ้นสภาพ ส.ส.)  2. ปิยบุตร แสงกนกกุล  3. กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ 4. ชำนาญ จันทร์เรือง  5. พล.ท.พงศกร รอดชมภู  6. รณวิต หล่อเลิศสุนทร (ไม่ได้เป็น ส.ส.) 7. พรรณิการ์ วานิช 8. ไกลก้อง ไวทยการ  9. นิติพัฒน์ แต้มไพโรจน์ (ไม่ได้เป็น ส.ส.) 10. สุนทร บุญยอด (ไม่ได้เป็น ส.ส.) 11. เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์  12. สุรชัย ศรีสารคาม  13. เจนวิทย์ ไกรสินธุ์  14. ชัน ภักดีศรี (ไม่ได้เป็น ส.ส.)  15. จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ

 

เมื่อปี 2562 เป็นปีที่"งูเห่าสีส้ม"อดีตพรรคอนาคตใหม่เกิดขึ้นครั้งแรก ประกอบด้วย น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี, พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี, น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ และจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี 

4 รายข้างต้น ลงมติสวนทางกับพรรคในหลายครั้ง พรรคจึงมีมติขับพ้นพรรค โดยย้ายไปพรรคฝั่งรัฐบาล  ในปีกของพรรคสีน้ำเงินเป็นส่วนใหญ่

 

ท่ามกลางข้อครหาต่างๆนานา เช่น กินกล้วย,รับเงินเดือน,เบิกค่าใช้จ่ายทำงานในพื้นที่กับพรรคใหม่ได้ เป็นต้น

 

ปัญหา"งูเห่าสีส้ม" ยังเกิดขึ้นอีก เมื่อปี 2563 ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในปีเดียวกันนั้นเกิดปรากฏการณ์ "10 ส.ส.พรรคสีส้มเวอร์ชั่นสอง"โหวตไว้วางใจให้ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรวม 6 คน ได้แก่ กฤติเดช สันติวชิระกุล ส.ส.แพร่, กิตติชัย  เรืองสวัสดิ ส.ส. ฉะเชิงเทรา, ฐิตินันท์  แสงนาค ส.ส.ขอนแก่น , ร.ต.ต.มณฑล  โพธิ์คาย ส.ส.กทม., วิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ , โชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ส.ส.กทม., สมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร, สำลี รักสุทธี ส.ส.บัญชีรายชื่อ, อนาวิล รัตนสถาพร ส.ส.ปทุมธานี และเอกการ  ซื่อทรงธรรม ส.ส.แพร่  ต่อมา ส.ส.เหล่านี้ย้ายไปพรรคฝั่งรัฐบาลเช่นกัน ส่วนใหญ่ไปอยู่ "พรรคภูมิใจไทย"


       แฟ้มภาพ "คริส โปตระนันท์" อดีตผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่

 

ต่อมา "วินท์ สุธีรชัย" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ค ประกาศลาออก ยุติจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แล้วไปตั้งพรรครวมไทยยูไนเต็ด โดยส่งผู้สมัคร ส.ก.กทม.ในการเลือกตั้งคราวที่แล้วแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ และไม่นานนัก พบว่า "วินท์"มาร่วมงานกับ"พรรครวมไทยสร้างชาติ"

 

ล่าสุด การอารยะขัดขืนมติพรรคของส.ส.พรรคก้าวไกล พบว่า ส.ส.พรรคก้าวไกล 4 คน ประกอบด้วย "คารม พลพร กลาง" ส.ส.บัญชีรายชื่อ ,เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย, ขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี และ พีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย ลงมติเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท

 

เมื่อเข้าห้วงเวลา 180 วัน ในการย้ายพรรค โดยไม่มีการเลือกตั้งซ่อมส.ส. พบว่า  พรรคก้าวไกล 5 คน ได้แก่ 1. ขวัญเลิศ พานิชมาท อดีต ส.ส.ชลบุรี 2. เอกภพ เพียรพิเศษ อดีต ส.ส.เชียงราย 3. พีรเดช คําสมุทร อดีต ส.ส.เชียงราย 4. เกษมสันต์ มีทิพย์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ 5. คารม พลพรกลาง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไปเปิดตัวกับพรรคสีน้ำเงิน

 

พรรคเพื่อไทย รับสมาชิกใหม่จากขั้วฝ่ายค้าน  คือ จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ หรือ “ทนายบิลลี่” อดีต ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล 


สมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล  ยอมรับว่า หลังการยุบสภา จะเข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคชาติไทยพัฒนา และลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.กทม.กับพรรคนี้ หลังจากที่พรรคก้าวไกล มีมติส่ง ปิยรัฐ จงเทพ ( โตโต้ หัวหน้าการ์ดวีโว่) เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. โดยรับรู้กันในวงในว่าแกนนำพรรคสีส้มเวอร์ชั่นสองที่หลายคนในพรรคนี้รู้ว่าเป็นแกนนำคนสำคัญผลักดันแกนนำม็อบสามนิ้วให้ลงส.ส.กทม.

 

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์  ขยับขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล หลังธนาธร หลุดจากการถูกตัดสิทธิทางการเมือง

 

แปลว่า สภาพภายใน"พรรคสีส้มเวอร์ชั่นสอง" น่าจะวุ่นวายและส่อเค้าแพแตกได้อีกครั้ง เพราะพบความจริงชั้นต้นที่ถอดรหัสได้คือ

 

1. สุดขั้วเกินเหตุ (ปฏิรูปสถาบัน-หนุนม็อบสามนิ้ว) จนหลายพรรคไม่อยากแตะมือด้วย และสุ่มเสี่ยงจนน่ากังวล 

 

2.การบริหารจัดการภายใน เล่นพรรคเล่นพวก และไม่เป็นประชาธิปไตยโดยแท้

 

3.ไม่ยอมรับการทำงานของคนการเมืองในพื้นที่ ว่าต้องใช้ปัจจัยใดบ้างขับเคลื่อนการทำงาน เพราะแกนนำพรรคเชื่อมั่นกระแสในสังคมออนไลน์ล้วนๆว่าคะแนนนิยมติดลมบนจนระเริงไปแบบไม่หวั่นใดๆ

 

เล่นการเมืองแบบนี้น่ากลัวยิ่ง!!!

 

\"ก้าวไกล\" ร้าวลึกภายใน ทางแยกสีส้มที่ยากประสาน\"ศึกเลือกตั้ง66\"

logoline