ผ่าปมเดือด"รถไฟฟ้าสายสีส้ม"กังขาส่วนต่าง 6.8 หมื่นล้านถึงขั้น"ท้าสาบาน"
ระอุเดือดสภา เมื่อ"กมธ.คมนาคม" ออกมาสางปมปัญหา"รถไฟฟ้าสีส้ม"ที่เต็มไปด้วยเงื่อนงำส่วนต่าง 6.8 หมื่นล้าน มีการมองต่างมุมถึงขั้นท้าสาบาน ฉะนั้นจะจบลงแบบไหนและหาทางออกได้ในช่วงอายุขัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่(มีคลิป)
"รายการคมชัดลึก" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นทนทีวี เกาะติดประเด็นร้อน"โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม" ปริศนาส่วนต่าง 6.8 หมื่นล้าน? โดย "วราวิทย์ ฉิมมณี" พิธีกร ล้วงลึกกับ "สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ "โสภณ ซารัมย์" ประธานคณะกรรมาธิการ การคมนาคม และ ส.ส. พรรคภูมิใจไทย
"โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม"หลังจากจากล่าช้ามาเกือบ 2 ปี ได้เปิดประมูลครั้งใหม่เพื่อหาผู้ร่วมลงทุนก่อสร้าง"รถไฟฟ้าสายสีส้ม"ช่วงตะวันตก (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ) และเดินรถตลอดทั้งสาย (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) แต่เกิดปัญหาขึ้นมาอีก เพราะมีการคัดค้านว่ามีความไม่โปรงใส อีกทั้งมองว่า การประมูลครั้งใหม่ รัฐเสียประโยชน์ถึง"6.8 หมื่นล้านบาท"
ประเด็นร้อนนี้กลับมาเดือดใน"คณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร" ระหว่างประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม "โสภณ ซารัมย์" จากพรรคภูมิใจไทย ที่กล่าวฟอกขาวให้กับการประมูลครั้งที่ 2 ของ "โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม"ทำให้กรรมาธิการหลายคนจากพรรคฝ่ายค้านไม่พอใจ
ชำแหละส่วนต่าง 6.8 หมื่นล้าน รถไฟฟ้าสายสีส้ม
"วราวิทย์" พิธีกร เปิดประเด็นว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เป็นเรื่องที่เราต้องปูพื้นฐานกัน โดยเฉพาะประเด็น ส่วนต่าง 6.8 หมื่นล้าน โครงการรถไฟฟ้าสีส้มที่อาจจะนำมาซึ่งความเสียหายมหาศาล เกิดขึ้นได้อย่างไร
"สุรเชษฐ์" กมธ.ก้าวไกล กล่าวว่า 6.8 หมื่นล้านเป็นตัวเลขส่วนต่างจากการประมูล 2 ครั้งโดยมีบริษัทที่เป็นลีดเดอร์ได้มี 2 ราย คือ กลุ่ม บริษัท BTS และ กลุ่มบริษัท BEM ซึ่งเป็นสองเจ้าหลัก แต่พบว่ามีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น มีการเปลี่ยนเกมส์กลางอากาศ จากปี 2563 ยุติการประมูล ต่อมา เมื่อ ปี 2565 มีการประมูลใหม่ กลุ่ม BEM ชนะการประมูล
"วราวิทย์" : แล้วแบบนี้ความผิดปกติ อยู่ตรงไหน
"สุรเชษฐ์กมธ.จาก ก้าวไกล" กล่าวว่า ปกติการประมูลต้องมีการประกาศกฎกติการออกมาก่อน แต่การประมูลครั้งที่ 2เหมือนมีการรู้กัน มีการเปลี่ยนเกณฑ์ประมูลกลางอากาศ ทำให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ซึ่งเป็นเอกชนรายหนึ่งที่ต้องการยื่นประมูลเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม นอกจากนี้ พบว่า การประมูลรอบรอบที่สองมีความไม่โปร่งใส มีการล๊อกสเปกเงื่อนไขการก่อสร้าง ในคุณสมบัติของผู้ร่วมเข้าประมูล ผลงานในเมืองไทย จนทำให้"กลุ่มบีทีเอส" เกิดการคัดค้านและต่อมาเมื่อเปิดซอง พบว่า ผู้ชนะประมูลรอบ 2 รัฐต้องอุดหนุนโครงการ ถึงประมาณ 7.8 หมื่นล้านบาท
"สุรเชษฐ์กมธ.จาก ก้าวไกล" กล่าวต่อไปว่า ขณะที่ "กลุ่ม BTS" เปิดซองราคาการประมูลรอบแรก ที่ขอสนับสนุนโครงการเพียง จำนวน 9,665 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนต่างกันมากถึง 6.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล เพราะหากการประมูลครั้งแรกถูกต้องโปร่งใส รัฐจะไม่เสียประโยชน์ ต้องมาอุดหนุนเพิ่มขึ้นทั้งที่ลักษณะของกลุ่มที่เข้ามาประมูลมีเพียงแค่ สองกลุ่มครึ่งเท่านั้น นอกจากนี้ บริษัทที่ชนะการประมูลจะต้องดำเนินงานก่อสร้าง ยังดำเนินการเดินรถในพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในพื้นที่ฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก
"ก้าวไกล"ค้านลงนามสัญญารถไฟฟ้าสายสีส้ม
"วราวิทย์" ถามว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนไหน กับการวัดใจ คณะรัฐมนตรี
"สุรเชษฐ์ กมธ.จาก ก้าวไกล" กล่าวว่า เรื่องที่ผ่านโดยคณะกรรมการคัดเลือกเป็นผู้ตัดสินใจ จะเคาะให้กับกลุ่ม BEM ที่รัฐต้องอุดหนุน 6.8 หมื่นล้านบาท จากนั้นก็ส่งต่อไปตามกระบวนการให้อัยการพิจารณา เข้าสู่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เสนอเข้าสู่คณะรัฐมนตรี ซึ่ง"พรรคก้าวไกล"มองว่า ไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดและจะเป็นเรื่องของค่าโง่อีกโครงการ จึงพยายามขอให้นำกลับมาคุยกัน โดยได้ทำหนังสือไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อให้ศึกษาให้รอบคอบ เคยมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ปี 2564 ว่าเป็นโครงการ 3 ป. "ปั้นตัวเลข ปั่นโครงการ มาเพื่อปันผลประโยชน์" หากปล่อยให้มีการผ่านไปได้ ประชาชนจะเสียหายมาก โดยเฉพาะเงินส่วนต่าง 6.8 หมื่นล้านบาท เป็นเงินภาษีของประชาชน จะถูกนำไปหาผลประโยชน์
กมธ.คมนาคม ฟอกขาว รถไฟฟ้าสายสีส้ม ?
"วราวิทย์" ถามว่า เกิดอะไรขึ้นใน กมธ.การคมนาคม
"สุรเชษฐ์ กมธ.จาก ก้าวไกล" : การประชุมกมธ.การคมนาคม ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังการประชุม ประธานกรรมาธิการการคมนาคม "โสภณ ซารัมย์" ออกมาแถลงข่าว เหมือนการฟอกขาวการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มรอบสอง เพราะใช้คำว่า มีมติของ กมธ.คมนาคม หลังจากที่ที่รับฟังคำชี้แจงของ ตัวแทน BTS และ BEM มาชี้แจงปัญหา และเห็นว่าส่วนต่าง 6.8 หมื่นล้านบาท ไม่มีอยู่จริง ทั้งที่ในการประชุมกมธ.มีการขอเอกสารข้อมูลเพิ่มเติม และยังไม่มีมติใดๆซึ่งเป็นการพูดไปเองของ "โสภณ" ประธานกมธ.คมนาคม ทำให้ กมธ.คมนาคมหลายคน ไม่สบายใจว่า สิ่งที่ประธาน กมธ.คมนาคม พูดเป็นแค่ความเห็นส่วนตัวเท่านั้น เพราะต้องมีความเป็นกลาง เป็นเรื่องที่รับไม่ได้
"โสภณ" ท้าสาบานไม่รับงาน ดันรถไฟฟ้าสายสีส้ม
"วราวิทย์" จึงกลับมาถาม "โสภณ ซารัมย์" ประธานกรรมาธิการการคมนาคม เกิดอะไรขึ้น ฟอกขาวหรือไม่
"โสภณ ซารัมย์" กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม เป็นการ
หยิยยกของ กมธ.ท่านหนึ่งเข้ามาในที่ประชุมจึงมี การเชิญ สองบริษัทที่เป็นคู่ขัดแย้งในการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม กลุ่ม BTS มาชี้แจง ว่ามีเรื่องใดที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม และกลุ่ม BEM มีสองเรื่องไม่ได้เป็นการปิดกั้นการเข้าร่วมประมูล ส่วนเรื่องราคา มีการชี้แจงว่า ไม่ควรเปรียบเทียบการประมูลรอบแรกที่ยุติไป กับการประมูลรอบสอง เพราะเป็นเรื่องที่ยังไม่จบ ซึ่งมี กมธ.ขอเอกสาร จึงมอบหมายให้ฝ่ายเลขา ดำเนินการเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งลงไปแถลงข่าว ว่าเรื่อง"รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ไม่ได้มีการล๊อกสเปกให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มีการยกคำพิพากษาของศาลปกครอง เพราะไม่ได้ปิดกั้น
ส่วนเรื่องราคาส่วนต่าง 6.8 หมื่นล้าน ราคายังไม่เป็นที่สิ้นสุดซึ่งทั้งสองบริษัทกำลังเป็นคู่กรณีที่ศาลให้รอเวลา อย่าด่วนสรุป "ผมพูดแค่นี้ ไม่ได้พูดว่า"มีมติ"แค่อธิบายความการประชุมเท่านั้นและไม่มีหน้าที่แก้ต่างให้กับบริษัทที่ร่วมประมูล"
"วราวิทย์" ถามว่า พรรคภูมิใจไทย ดูแลกระทรวงคมนาคม และเป็นคนดูแลกมธ.คมนาคมด้วย จะถูกมองเป็นการฟอกขาวหรือไม่
"โสภณ" บอกว่า ตอบว่า ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตอบแบบแนววิทยาศาสตร์ คงจะไม่มีใครเชื่อโดยสุจริตใจ คงเหลือแค่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไปสาบานกันไป
ชมคลิป >>>>