ปิดตำนาน "ไตรภาค" ทวงคืน หาดเลพัง หาดลายัน ความยาว 2 กิโลเมตร พื้นที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นับเป็นหาดทรายที่ยาวที่สุดในเกาะภูเก็ต หลังจากพื้นที่พิพาท 178 ไร่ มีเอกชนอ้างสิทธิครอบครอง ผ่านกระบวนการต่อสู้ทางศาล กระทั่งศาลฎีกา มีคำพิพากษาถึงที่สุดตั้งแต่ปี 2560 ให้จังหวัดภูเก็ต ชนะคดี และเข้ารื้อถอน ครั้งที่ 1 ปี 2561 ครั้งที่ 2 ปี 2564 และครั้งสุดท้าย 30 ก.ย.2565
ปมพิพาทที่ดินหาดเลพัง หาดลายัน ย้อนกลับไปเมื่อปี 2558 ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์หาดเลพัง เข้าร้องเรียนต่อดีเอสไอ กรณีร้านอาหาร และโรงแรมหรู ยึดชายหาดสาธารณะไปเป็นสมบัติส่วนตัว ดีเอสไอ รับเรื่องไว้เป็นเลขสืบสวน
เป็นคดีต่อเนื่องกับกรณีมีผู้นำสค.1 บินมาออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ตั้งหน่วยพิทักษ์ป่าลายัน ของอุทยานแห่งชาติสิรินาถ โดย ธวัชชัย อนุกูล เจ้าพนักงานที่ดินภูเก็ตในขณะนั้น เป็นผู้ออกอกสารสิทธิ์ และเป็นผู้สร้างตำนานออก “สค.1 บิน” ปี 2541-2544 มูลค่านับหมื่นล้านบาท
ดีเอสไอ รับคดีออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ตั้งหน่วยพิทักษ์ป่าลายัน เป็นคดีพิเศษที่ 4/2560 และส่งสำนวนให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. พิจารณาตามอำนาจหน้าที่ ต่อมา สำนักงาน ป.ป.ช. ส่งสำนวนกลับคืนให้ DSI ดำเนินการต่อ ส่วนกรณีบุกรุกหาดเลพัง-ลายัน 178 ไร่ ดีเอสไอ รับเป็นเลขสืบสวน และรับเป็นคดีพิเศษที่ 23/2562
พื้นที่ 178 ไร่ผ่านกระบวนการตรวจพิสูจน์จากดีเอสไอ ด้วยการอ่านแปรภาพถ่ายทางอากาศ ตั้แต่ปี 2510 พบว่าหาดเลพัง หาดลายัน เป็นพื้นที่งอกออกไปในทะเล อันเกิดจากการทับถมของตะกอนทะเล ที่แห่งนี้จึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
ปฏิบัติการ การทวงคืนพื้นที่ 178 ไร่ บริเวณชายหาดเลพัง ลายัน ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้เป็นตามคำพิพากษาของศาลฎีกา ที่ตัดสินว่าที่ดินบริเวณนี้เป็นที่สาธารณประโยชน์ สำหรับประชาชาชนใช้ร่วมกัน
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ณรงค์ วุ่นซิ่ว มอบหมายให้จังหวัดภูเก็ต เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต เจ้าพนักงานที่ดินอำเภอถลาง และองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล รับผิดชอบการรื้อถอน โดยสนธิกำลังจาก ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษภาค พื้นที่ 8 ดีเอสไอ ตำรวจสภ.เชิงทะเล กองทัพเรือภาค 3 กอ.รมน. กว่า 300 นาย
การบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มข้นต่อผู้กระทำความผิด เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนส่วนรวม โดยเฉพาะการบุกรุกยึดถือครอบครองหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ และที่ดินของรัฐ บริเวณหาดเลพัง หาดลายัน
ส่วนของความพยายามบังคับคดี กับผู้บุกรุก รวมปฏิบัติการรื้อถอนเมื่อวันที่ 30 กันยายน นับได้ว่า เป็น "ไตรภาค" การทวงคืนพื้นที่หาดเลพัง หาดลายัน
คดีนี้เป็นคดีแพ่งของศาลจังหวัดภูเก็ต หมายเลขแดงที่ 885-890/2552 โจทก์ 6 คน ประกอบด้วย อรพรรณ พลอยเพชร โดยอัจฉรา ยุงก์ ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน ที่ 1 / พิทักษ์ บุญพจนสุนทร ที่ 2 / บริษัท พังงารีสอร์ท จำกัด ที่ 3 / สดใส องค์ศรีตระกูล ที่ 4 / สวัสดิ์ ทองไพยุทธ ที่ 5 / ธงชัย บุศราพันธ์ ที่ 6
ส่วนจำเลย ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต ที่ 1 / ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ที่ 2 / นายอำเภอถลาง ที่ 3 / องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล ที่ 4 / กรมที่ดิน ที่ 5 / หัวหน้าสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ที่ 6 / เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ส่วนแยกถลาง ที่ 7
คดีนี้สู้คดีกัน 3 ศาล โดย ศาลฎีกา พิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชนะคดี ดังนั้น จังหวัดภูเก็ต จำเลยที่ 1 และในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ได้มอบอำนาจให้ นายกอบจ.เชิงทะเล นายอำเภอถลาง เจ้าพนักงานที่ดินอำเภอเมือง และเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอถลาง รวม 4 คน เป็นผู้รับมอบอำนาจและต้องดำเนินการร่วมกัน
การขับไล่รื้อถอน ภาคแรก เกิดขึ้นเมื่อปี 2561 จังหวัดภูเก็ต ขอศาลออกหมายบังคับคดี และนำเจ้าพนักงานบังคับคดี ออกไปปิดประกาศขับไล่รื้อถอน เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 แจ้งให้ผู้ที่อ้างว่าไม่ใช่บริวารร้องแสดงอำนาจพิเศษภายใน 15 วัน เมื่อครบกำหนดในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 มีผู้ร้องแสดงอำนาจพิเศษ 5 ราย ได้แก่ เจริญ เสงี่ยมศักดิ์ศรี ที่ 1 / ภาวิดา ไตรปั่น ที่ 2 / ประดิษฐ์ อุดม ที่ 3 / กนกพล สมรักษ์ ที่ 4 / ปรีชา ถาวร ที่ 5 คดีนี้สู้คดีกันอีก 3 ศาล ซึ่งศาลฎีกา ตัดสินว่า ผู้ร้องแสดงอำนาจพิเศษทั้ง 5 ราย ไม่มีสิทธิบนที่ดิน
การขับไล่รื้อถอน ภาคที่สอง ปี 2564 จังหวัดภูเก็ต ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในที่ดิน 178 ไร่ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2564 แต่ดำเนินการได้เพียงบางส่วน และมีผู้ขัดขวางการรื้อถอน โดยอ้างว่าได้ฟ้องจังหวัดภูเก็ต เป็นคดีต่อศาลจังหวัดภูเก็ต
ขณะเดียวกัน ได้มีผู้เข้ามาถืดครองในที่ดินพิพาท 178 ไร่ จำนวนมากขึ้น ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามคำพิพากษาที่คู่ความได้ต่อสู้ตามกระบวนการศาลจนครบถ้วนแล้ว การขับไล่รื้อถอน ภาคภาคที่สาม หรือ "ไตรภาค" จึงเริ่มดำเนินการเมื่อวันนี้ 30 ก.ย.2565 โดยเป็นการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานกว่า 20 หน่วย โดยปฎิบัติการรื้อถอนเป็นไปด้วยดี ไม่มีผู้คัดค้าน
ปัจจุบัน หาดเลพัง หาดลายัน กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่าวชาติ ตราบใดที่มีผลประโยชน์ล่อตาล่อใจ ย่อมมีผู้พยายามหาวิธีการที่จะเข้ามายึดถือครอบครองที่ดิน 178 ไร่ นี้ให้ได้
ดีเอสไอ ในฐานะหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และเป็นเจ้าของคดีพิเศษที่ 23/2562 ดังนั้น นับจากวันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป ถ้ามีผู้ใดแอบอ้างเอกสารสิทธิ์หรือเจตนาครอบครองที่ดินแปลงนี้ ผู้พบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวน เพื่อให้เป็นไปตามสโลแกน "DSI เข้าถึงง่ายได้ความยุติธรรม"
ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ณรงค์ วุ่นซิ่ว กล่าวว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ช่วยให้พื้นที่หาดลายัน และหาดเลพัง พื้นที่ 178 ไร่ ได้กลับมาเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินให้ชาวภูเก็ต นักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติได้ใช้ร่วมกัน
เพื่อไม่ให้เกิดข้อพิพาทขึ้นอีก จังหวัดภูเก็ต จะเร่งดำเนินการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เพื่อให้ประชาชน ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันในพื้นที่ 178 ไร่
อย่างเช่นชาวบ้านบางเทา ตำบลเชิงทะเล ได้ใช้ประโยชน์เก็บผักที่ขึ้นเองตามธรรมชาติในพื้นที่ 178 ไร่ โดยไม่ต้องกังวลจะมีคนมาขับไล่