svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ทั่วไทย

เปิดโมเดล "สวนฆราวาส" จากป่าดงมะไฟสู่กาแฟ GI ปลูกกาแฟกลางป่าเบญจพรรณ

เปิดโมเดล "สวนฆราวาส" บ้านดงมะไฟ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ต้นแบบปลูกกาแฟ GI แทรกป่าเบญจพรรณ 14 ไร่ ต้นทุนเกือบศูนย์ ให้ผลผลิตคุณภาพสูง คาเฟอีนต่ำ เจ้าของเผยเก็บเมล็ดเหมือน "เข้าป่าหาเห็ด" สร้างรายได้กว่าสองแสนบาทต่อปีโดยไม่ต้องทำลายป่า

10 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านดงมะไฟ หมู่ที่ 8 บ้านดงมะไฟ ต.มะเกลือใหม่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา เส้นทางขึ้นสู่วัดป่าภูผาสูง วัดท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งที่นี่เป็นชุมชนที่ทำการเกษตรผสมผสาน ปลูกพืชเศรษฐกิจหลายชนิด โดยเฉพาะเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้า ที่ใหญ่ที่สุดของ จ.นครราชสีมา เป็นที่รู้จักในชื่อ “กาแฟดงมะไฟ” กาแฟ GI ขึ้นชื่อของจังหวัด พบว่าช่วงนี้กาแฟกำลังออกลูกเป็นจำนวนมาก เกษตรกรหลายคนต่างพากันเก็บเมล็ดกาแฟ เพื่อนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น เมล็ดกาแฟคั่ว เมล็ดกาแฟบด หรือทำกาแฟสดขายกันอย่างคึกคัก 

เปิดโมเดล "สวนฆราวาส" จากป่าดงมะไฟสู่กาแฟ GI ปลูกกาแฟกลางป่าเบญจพรรณ

ขณะเดียวกัน มีสวนกาแฟแห่งหนึ่งในหมู่บ้านดงมะไฟ ที่มีวิธีการปลูกกาแฟแปลก แตกต่างจากไร่กาแฟทั่วไป คือที่ "สวนฆราวาส" ของนายอนิรุทธ์ ดุจจานุทัศน์ เกษตรกรผู้หลงใหลในป่าเขา และยังรักในการปลูกกาแฟ โดยภายในสวนฆราวาส ซึ่งมีพื้นที่กว่า 14 ไร่ มีต้นไม้ป่าเบญจพรรณขนาดใหญ่นานาชนิด เช่น ต้นสัก ต้นพะยูง ต้นยางนา ต้นประดู่ ต้นตะเคียน ต้นเต็ง ต้นรัง ขึ้นปกคลุมอย่างร่มรื่น แต่ตามโขดหิน และพื้นด้านล่าง กลับพบว่ามีต้นกาแฟจำนวนมากขึ้นแทรกอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่อย่างกลมกลืน คนงานดูแลสวนที่นี่ต้องเดินไปค้นหาต้นกาแฟในป่า เพื่อเก็บผลกาแฟ ลักษณะคล้ายเดินป่าหาเก็บเห็ด เป็นที่แปลกตา ต่างจากไร่กาแฟทั่วไปที่ปลูกต้นกาแฟเป็นทิวแถว เก็บง่าย ไม่ยุ่งยาก

เปิดโมเดล "สวนฆราวาส" จากป่าดงมะไฟสู่กาแฟ GI ปลูกกาแฟกลางป่าเบญจพรรณ

โดย "สวนฆราวาส" แห่งนี้ มีต้นกาแฟที่กำลังออกลูกอยู่กว่า 1,000 ต้น ในแต่ละปีสามารถเก็บเมล็ดกาแฟได้กว่า 500 กิโลกรัม และมีต้นกล้ากาแฟขนาดเล็ก ที่เกิดจากเมล็ดกาแฟที่ร่วงหล่นตามธรรมชาติ ขึ้นกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณอีกไม่ต่ำกว่า 5,000 ต้น ซึ่งแต่ละปีสามารถเก็บเมล็ดกาแฟ ทำผลิตภัณฑ์ขายได้ไม่น้อยกว่า 2 แสนบาท และยังเพาะต้นกล้าขาย สร้างรายได้ให้กับสวนได้ตลอดทั้งปี 

เปิดโมเดล "สวนฆราวาส" จากป่าดงมะไฟสู่กาแฟ GI ปลูกกาแฟกลางป่าเบญจพรรณ

นายอนิรุทธ์ ดุจจานุทัศน์ เจ้าของสวนฆราวาส บ้านดงมะไฟ หมู่ที่ 8 บ้านดงมะไฟ ต.มะเกลือใหม่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา กล่าวถึงแนวคิดการปลูกกาแฟในสวนป่าเบญจพรรณว่า ตนศึกษาธรรมชาติของกาแฟมานาน พบว่ากาแฟไม่ใช่พืชเชิงเดี่ยว แต่เป็นพืชที่เจริญเติบโตแทรกอยู่กับพันธุ์ไม้อื่นในป่า จึงเลือกปลูกกาแฟแทรกในป่าเบญจพรรณที่มีต้นไม้ใหญ่หลากชนิดให้ร่มเงา ทำหน้าที่เป็นพืชพี่เลี้ยงช่วยรักษาความชุ่มชื้นและสร้างสมดุลของระบบนิเวศ การปลูกกาแฟแบบนี้มีต้นทุนต่ำเกือบเป็นศูนย์ เพราะอาศัยระบบธรรมชาติช่วยเลี้ยงต้นกาแฟ มีเพียงค่าแรงในการเก็บเกี่ยวเท่านั้น 

นายอนิรุทธ์ ดุจจานุทัศน์ เจ้าของสวนฆราวาส บ้านดงมะไฟ

และนอกจากจะลดต้นทุนแล้ว กาแฟที่ปลูกในป่าเช่นนี้ยังให้คุณภาพดี มีคาเฟอีนต่ำกว่า 3% ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้กาแฟดงมะไฟได้รับการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา อีกทั้งการปลูกแบบผสมผสานยังไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม แต่กลับช่วยรักษาป่าเดิมไว้ และสร้างรายได้จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนอีกด้วย 

เปิดโมเดล "สวนฆราวาส" จากป่าดงมะไฟสู่กาแฟ GI ปลูกกาแฟกลางป่าเบญจพรรณ

นายอนิรุทธ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมล็ดกาแฟที่ร่วงหล่นจากต้นสามารถงอกขึ้นมาเป็นต้นใหม่ได้เองตามธรรมชาติ ทำให้มีต้นกล้ากาแฟเกิดขึ้นเองจำนวนมาก สามารถนำไปเพาะขยายพันธุ์และจำหน่ายได้อีกทางหนึ่ง ผลผลิตกาแฟส่วนใหญ่จะถูกนำไปคั่วและบดเพื่อจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์หลัก ส่วนเมล็ดที่ไม่ได้มาตรฐานจะนำไปเผาเป็นถ่านชาโคลใช้ทำยาสีฟันและสบู่ สะท้อนแนวคิด “ไม่เสียของ” ในการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ปัจจุบันกาแฟดงมะไฟที่ผลิตด้วยวิธีนี้ได้รับความนิยมในตลาด และตนมีแผนที่จะร่วมมือกับเกษตรกรอีก 9 สวนในพื้นที่ เพื่อรวมกลุ่มสร้างตลาดกาแฟดงมะไฟให้แข็งแรง และผลักดันแนวทางการปลูกกาแฟในป่าให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง เพื่อให้คนในชุมชนมีรายได้โดยไม่ต้องตัดไม้ทำลายป่า

เปิดโมเดล "สวนฆราวาส" จากป่าดงมะไฟสู่กาแฟ GI ปลูกกาแฟกลางป่าเบญจพรรณ