
24 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา (ช่องจอม) ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ท่ามกลางสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีความตึงเครียด หลังเกิดข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด ไทยมีการยกระดับมาตรการตอบโต้กัมพูชา ด้วยการสั่งปิดไม่ให้เดินทางเข้า-ออกผ่านด่านพรมแดนประเทศไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างกัมพูชาและไทย ซึ่งแม่ค้าต่างตัดพ้อว่าเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสำรวจ ตลาดช่องจอม หรือตลาดชายแดนไทย -กัมพูชา โดยพบกับพ่อค้าแม่ค้า ทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชา ที่กำลังนั่งเฝ้าร้านอย่างหดหู่ใจ เนื่องจากก่อนที่จะเกิดข้อพิพาท เรื่องปัญหาพื้นที่ทับซ้อน บริเวณตลาดชายแดนไทย-กัมพูชาแห่งนี้ เคยเป็นที่สร้างความทรงจำให้กับเหล่ากลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชา รวมถึงเคยเป็นแหล่งสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวอย่างดี มีนักท่องเที่ยวมาจับจ่ายซื้อของคึกคัก
แต่วันนี้ (24 มิ.ย.2568) กลับดูเงียบเหงากว่าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับพ่อค้า-แม่ค้าชาวกัมพูชา ที่ค้าขายอยู่ภายในตลาดช่องจอม หลังจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
โดย นางสาวเซงลี่ อายุ 35 ปี (แม่ค้าขายเสื้อผ้าชาวกัมพูชา) เล่าว่า ปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย - กัมพูชา ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อการค้าขายระหว่างประเทศ ตนเองมาขายของอยู่ที่นี้ตั้งแต่ อายุ 13 ปี ปัจจุบัน อายุ 35 ปีแล้ว ยังไม่เคยประสบปัญหาแบบนี้มาก่อน เมื่อก่อนเคยขายได้วันละ 3,000-5,000 บาท ตอนนี้เหลือ100-300 บาท จึงอยากฝากไปถึงนักท่องเที่ยว หรือผู้ที่จะมาท่องเที่ยว จับจ่ายซื้อของที่ตลาดช่องจอม ตอนนี้ยังเปิดขายของตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไรอย่างที่เป็นข่าว เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องการเมืองของกัมพูชาเขา วอนนักท่องเที่ยวใครที่จะมาเที่ยว มาจับจ่ายซื้อของตลาดช่องจอม สามารถมาได้ตามปกติ
ขณะที่ นางลิตกะตอย อายุ 51ปี (แม่ค้าขายอาหารป่าชาวกัมพูชา) เล่าว่า ก่อนที่จะมีปัญหาข้อพิพาทดังกล่าว ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ คนมาเดินจับจ่ายซื้อของที่ตลาดช่องจอมแห่งนี้เป็นพันคนต่อวัน ตอนนี้เหลืออยู่ไม่เกิดวันละ 30 คน พ่อค้าแม้ค้าชาวกัมพูชาที่ขายของ ต่างได้รับผลกะทบจากการขายของที่ตลาดกัมพูชาแบบเต็มๆ ของที่ซื้อมาวางขายก็ทยอยเหี่ยวและเสียทิ้งไป จึงอยากวิงวอนไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยว อยากให้กลับมาเที่ยวตลาดช่องจอมเหมือนเดิม และไม่อยากให้มีการสู้รบกันเกิดขึ้น อยากให้ประเทศไทยและประเทศกัมพูชา รักกันเหมือนพี่เหมือนน้องแบบเมื่อก่อน