กำลังเป็นกระแสอยู่ในโลกออนไลน์อยู่ตอนนี้กับ "Jagat" แอปพลิเคชันจากอินโดนีเซีย ที่ให้ผู้ใช้เปิดโลเกชั่นเพื่อตามเก็บเหรียญที่สามารถแลกเป็นเงินจริงๆ ได้ โดยกระบวนการคล้ายเกมโปเกม่อน แต่ที่ต่างไปคือ มีเหรียญ "Jagat" จริงๆ ที่ซ่อนไว้ตามแมพส์ที่โชว์ให้เห็น ทำให้วัยรุ่นไทยหลายคนออกล่าหาเหรียญดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
23 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจเฟซบุ๊ก "Pattaya Water Space" แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในเมืองพัทยา โพสต์ข้อความ ระบุว่า
เนื่องด้วยในขณะนี้มีการเกิดกระแสตามล่าเหรียญแลกเงิน จากแอปพลิเคชัน(Application) ชื่อว่า Jagat โดย บริษัท พัทยาวอเตอร์สเปซ เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ทางทีมงานของแอปนี้เอาเหรียญมาแอบวางไว้ โดยที่ทาง บริษัท พัทยาวอเตอร์สเปซ ไม่รับทราบ และขอแจ้งว่าทาง บริษัทฯ ไม่มีผลประโยชน์ และส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ ทั้งสิ้น กับทาง แอปพลิเคชัน (Application) ชื่อว่า Jagat นี้
โดย 2 - 3 วันที่ผ่านมามีบุคคลภายนอกพยายามที่จะเข้ามาหาเหรียญในบริษัทฯ และมีบางคนที่เข้ามาหาเหรียญได้ทำการงัดแงะ ทำให้เกิดทรัพย์สินเสียหาย ทางบริษัท ขอแจ้งว่าเราไม่ใช่สถานที่สาธารณะ บริษัท พัทยาวอเตอร์สเปซ จำกัด เป็นสถานที่ส่วนบุคคล ที่เปิดให้บริการนักท่องเที่ยว และมีเจ้าหน้าที่ รปภ. ดูแลสถานที่ตลอด 24 ชั่วโมง จึงมีสิทธิ์ที่จะไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามากระทำการใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย ก่อกวน หรือสร้างความเสียหายทั้งด้านชื่อเสียง และทรัพย์สินของของบริษัทฯ ได้
นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นภาพความเสียหายจากการรื้อและงัดจนอุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหาย
โดย กระแสนิยมล่าเหรียญสะเทือนเมืองพัทยา ในช่วงที่ผ่านมา แอปฯ "jagat" กลายเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา และคนทำงาน
โดยผู้ใช้งานต้องเดินทางไปตามพิกัดที่แอปพลิเคชันระบุไว้เพื่อตามหาเหรียญนำมาแลกรับรางวัลต่างๆ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในภารกิจดังกล่าวเริ่มสร้างผลกระทบต่อชุมชนและพื้นที่สาธารณะในหลายเมืองท่องเที่ยว
ล่าสุดในเมืองพัทยา พบว่ามีผู้ใช้งานแอปพลิเคชันจำนวนมาก เดินทางไปล่าเหรียญตามจุดต่างๆในเมือง โดยบางเหรียญถูกซ่อนอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวที่เปิดให้บริการตามเวลาที่กำหนด ส่งผลให้นักล่าเหรียญบางส่วนบุกรุกเข้าไปยังสถานที่เหล่านั้นในเวลาที่ไม่ได้รับอนุญาต สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบการนอกจากนี้ ยังมีเหรียญที่ซุกซ่อนอยู่ตามชายหาดพัทยา ทำให้นักท่องเที่ยวบางส่วนเกิดความสับสนและไม่เข้าใจถึงกิจกรรมดังกล่าว จนเกิดความวุ่นวายในบางจุด ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมือง
ขณะนี้ชาวบ้านและผู้ประกอบการในพื้นที่ต่างเรียกร้องให้ผู้ใช้งานแอปพลิเคชันมีความรับผิดชอบ และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณามาตรการควบคุมเพื่อป้องกันไม่ให้กิจกรรมดังกล่าวก่อความเดือดร้อนมากขึ้น