ไล่ล่า พ.ต.ท. หลังถูกออกหมายจับยิงทหารยศสิบเอก ดับคารีสอร์ท

จากกรณี ส.อ.เสรี มณีโชติ อายุ 36 ปี ทหารสังกัดกองสนับสนุนและขยายพันธุ์สัตว์ สำนักงานทหารพัฒนา ภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (กปร.)  อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ถูกยิงเสียชีวิตที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง บริเวณถนนนาดี-ปักธงชัย พื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังเพิ่งถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 3 งวดวันที่ 16 ส.ค.2567  และได้โอนเงินรางวัลส่วนหนึ่งไปให้มารดา จากนั้นได้ขับรถเบนซ์เข้ามาพักที่รีสอร์ตแห่งนี้ ช่วงเวลา 02.00 น. กระทั่งรุ่งเช้า หลังจาก ส.อ.เสรี ตื่นนอนและเดินออกจากห้องพักมาที่รถเบนซ์ ได้มีคนร้ายเข้ามาพูดคุยด้วย ก่อนที่ทั้งสองจะมีปากเสียง และชกต่อยกัน โดยคนร้ายได้ใช้ปืนพกยิงใส่ผู้ตาย 2 นัด ก่อนขึ้นรถกระบะขับหลบหนีไป และมีการถอดกล้องวงจรปิด เพื่อทำลายหลักฐาน

ทั้งนี้ จากการรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจชุดสืบสวน ทั้งการสอบปากคำภรรยาเจ้าของรีสอร์ท ลุงผู้ดูแลรีสอร์ท รวมถึงค้นบ้านเจอเสื้อเปื้อนคราบเลือด บริเวณคอเสื้อคล้ายถูกดึงขาด จนนำไปสู่การขอศาลออกหมายจับเจ้าของรีสอร์ท ซึ่งเป็นตำรวจ ยศ พ.ต.ท. อายุ 44 ปี ตำแหน่ง รอง ผกก.กลุ่มงานฝึกอบรมทางเทคโนโลยี กองบังคับการสนับสนุนทางเทคโนโลยี (บก.สสท.) มีภรรยา ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับทหารสิบเอกเสรี(ผู้ตาย) และเป็นคนดูแลรีสอร์ทที่เกิดเหตุ เบื้องต้น ตำรวจตั้งปมชู้สาว

 

วันที่ 19 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ ( 18 ส.ค.67) เวลา 12.20 น. พนักงานสอบสวนได้นำรถยนต์เอนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ของเจ้าของรีสอร์ท พร้อมรถเบนซ์ รุ่น C180 สีบรอนซ์ ของผู้ตาย มาเก็บรักษาไว้ที่หน้า สภ.กบินทร์บุรี เพื่อตรวจสอบ ขณะที่ พ.ต.อ.ศิวัชณัฏฐ์ คุ้มทรัพย์ ผกก.สภ.กบินทร์บุรี เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (18ส.ค.67) พนักงานสอบสวนได้ขอหมายจับกุมจากศาล จ.ปราจีนบุรี เพื่อดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.สมบัติ (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี เจ้าของรีสอร์ท ผู้ต้องหา ในข้อกล่าวหา "ใช้อาวุธปืนพกฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา" ขณะนี้ ฝ่ายสืบสวนได้เร่งติดตามตัว เพื่อนำผู้ต้องหามาดำเนินคดี แต่จนถึงขณะนี้ ผู้ต้องหายังคงหลบหนี ไม่มีการติดต่อเพื่อมอบตัวแต่อย่างใด 

ส่วนการประสานติดต่อกับทางผู้บังคับบัญชาของผู้ต้องหานั้น ยังไม่ได้ประสานงาน ขณะที่ กล้องวงจรปิดที่การ์ดหน่วยความจำถูกถอดออกไป และบางส่วนหายไป ยังติดตามไม่พบ 

ด้านพี่ชายของ ส.อ.เสรี (ผู้เสียชีวิต) เปิดเผยว่า น้องชายตนเอง กับ พ.ต.ท.สมบัติ นั้น รู้จักกันดีเป็นพรรคพวกกัน ส่วนทางภรรยาของ พ.ต.ท.สมบัติ กับ สิบเอกเสรี ก็เป็นเพื่อนเรียนหนังสือมาด้วยกันมา ก่อนเกิดเหตุที่จะมีการยิงกัน น่าจะทะเลาะกันระหว่างน้องชายกับคนยิง ซึ่งอาจเป็นการไปต่อว่าต่อขาน แต่ไม่ทราบว่าจะหนักหนาขนาดไหน อาจต่อยกัน แต่เมื่อมีปืน ปืนอาจจะลั่น ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ อีกทั้งน้องชายกับคนยิงนั้นไม่เคยมีเรื่องใด ๆ กันมาก่อน แต่น้องชายเคยมีเรื่องทะเลาะกับคนดูแล - เฝ้ารีสอร์ทมาก่อน

นอกจากนี้ ญาติของ ส.อ.เสรี ยังระบุว่า ส.อ.เสรี ทำงานอยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อกลับมาบ้านในละแวกย่านรีสอร์ทที่เกิดเหตุ มักจะไปพักที่รีสอร์ทดังกล่าว ซึ่งมีเพื่อนสาว และเป็นภรรยาของพ.ต.ท.สมบัติ คอยดูแลตลอดที่ห้องพักห้องประจำจนทางญาติเคยเตือน และก่อนที่จะเกิดเหตุ ส.อ.เสรี เพิ่งถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 3 จำนวน 2ใบ โดยหลังจากขึ้นเงินได้โอนเงินส่วนหนึ่งให้กับมารดา อายุ 67 ปี จากนั้นซื้อรถเก๋งมือ2 และได้ขับรถเบนซ์ดังกล่าวเดินทางมาเข้าพักที่รีสอร์ตแห่งนี้ ช่วงเวลา 02.00 น. รุ่งเช้าหลังจาก ส.อ.เสรีตื่นนอนเดินออกจากห้องพักมาที่รถเบนซ์ มีชายคนก่อเหตุเข้ามาพูดคุยด้วย ทั้งสองมีปากเสียงและเข้าชกต่อยกัน คนร้ายใช้ปืนพกยิงใส่ผู้ตาย 2 นัด ก่อนขึ้นรถกระบะขับหลบหนีไป คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากปมชู้สาว ส่วนประเด็นอื่น ๆ ตำรวจยังไม่ตัดทิ้ง 

สำหรับร่าง ส.อ.เสรี ตั้งบำเพ็ญกุศล ที่ศาลาธรรมสังเวชวัดโคกอุดม ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยมีกำหนดพิธีสวดบำเพ็ญกุศลศพ ระหว่างวันที่18-20 ส.ค.67 กำหนดฌาปนกิจศพวันที่ 21 ส.ค. นี้ 

จากการสอบถามนายชัยฤทธิ์ อุดมเทวกุล อายุ 36 ปี สมาชิกเทศบาลเมืองหนองกี่ และเพื่อนๆ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตมีนิสัยดีเป็นเด็กเรียนดี ตนกับผู้เสียชีวิตเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ช่วงประถมเรียนอยู่ด้วยกันที่โรงเรียนรักษาทรัพย์กบินทร์บุรี ช่วงมัธยมเรียนที่เตรียมอุดมน้อมเกล้ากบินทร์บุรี ปริญญาตรีเขาก็ได้เข้าประจำการที่กรมทหาร เวลาเขากลับมาเขาก็จะมาหากลุ่มเพื่อนๆ ตนได้คุยกับผู้เสียชีวิตล่าสุดวันที่ 14 ส.ค.2567 ส่วนเพื่อนคนอื่นๆตนไม่รู้ ผู้เสียชีวิตเขาจะเปลี่ยนเฟสบุ๊กบ่อย ส่วนมากเขาจะประจำการอยู่แต่ในหน่วยของเขา ส่วนปัญหาอื่นๆ ตนก็ไม่เห็นว่ามีอะไร เพราะเขาไม่เคยเล่าปัญหาอะไรให้ฟัง ส่วนมากถ้าเขามา เขาจะโทรหา แต่รอบนี้ไม่เห็นเขาโทรหา มาทราบอีกทีก็เป็นข่าวแล้ว ช่วงหลังๆเขาไม่ค่อยได้กลับบ้าน เพราะงานเขาเยอะ ส่วนเรื่องที่พัก ตนก็ไม่ทราบว่าเขาพักที่ไหนเวลากลับมาบ้าน ในส่วนคดีก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาดำเนินการตามกฎหมาย