svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

สุพรรณฯ ลุยแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ตั้งเป้าโรงงานน้ำตาลรับซื้ออ้อยเผาเป็นศูนย์

15 มกราคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผู้ว่าฯ สุพรรณฯ ลุยแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ประสานทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมกำลังพล-อุปกรณ์ เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง พร้อมขอความร่วมมือเจ้าของโรงงานน้ำตาลไม่รับซื้ออ้อยเผา

15 มกราคม 2567 ที่บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์แก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยมีนายปฏินวิช ละอองแก้ว หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ และมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกิจกรรม

สุพรรณฯ ลุยแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ตั้งเป้าโรงงานน้ำตาลรับซื้ออ้อยเผาเป็นศูนย์
นายปฏินวิช กล่าวว่า ช่วงฤดูหนาวถึงฤดูแล้งของทุกปี ประเทศไทยจะเกิดสถานการณ์ฝุ่นละอองเกินเกณฑ์มาตรฐานในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ซึ่งมีสาเหตุทั้งจากโดยธรรมชาติ และกิจกรรมของมนุษย์ ประกอบกับสภาพทางอุตุนิยมวิทยา รวมทั้ง สภาพภูมิประเทศในบางพื้นที่ที่มีสภาพเอื้อต่อการเกิดสถานการณ์  โดยเฉพาะในช่วงที่ลมสงบ ส่งผลให้ระดับเพดานการลอยตัว และการกระจายตัวของฝุ่นละอองอยู่ในระดับต่ำ การไหลเวียนและถ่ายเทของอากาศไม่ดี จึงทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นละอองในบรรยากาศมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสุขภาพอนามัยของประชาชน 

เพื่อให้การเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ระหว่างปี 2566-2567 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ (PM 2.5) ปี 2567 และกลไกการบริการจัดการที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติกำหนด การจัดกิจกรรมรณรงค์ในครั้งนี้ จึงถือเป็นการปฏิบัติเพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ตามแผนเผชิญเหตุจังหวัดสุพรรณบุรีอย่างเคร่งครัด 

โดยการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับผิดชอบจัดทำข้อมูลพื้นที่เฝ้าระวัง การเกิดจุดสะสมความร้อนสะสม Hotspot ในระดับตำบล หมู่บ้าน เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการวางแผนการปฏิบัติการของจังหวัดสุพรรณบุรีเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์จุดความร้อนสะสมในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ตลอดจนการเตรียมความพร้อมด้านกำลังพล อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักรกล เพื่อสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ได้ทันท่วงที 

จากการติดตามข้อมูลสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบว่า ปัจจุบันเกิดจุดความร้อน Hotspot ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) อยู่ในระดับ 20-45 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี และปานกลาง ประชาชนสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ 
สุพรรณฯ ลุยแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ตั้งเป้าโรงงานน้ำตาลรับซื้ออ้อยเผาเป็นศูนย์
ด้าน นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีในรอบปีที่ผ่านมา ประสบกับปัญหาทั้งโดยภัยธรรมชาติและการกระทำของมนุษย์ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อม ทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ เครื่องจักรกลของทุกหน่วยงาน ทั้งฝ่ายพลเรือน หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) โดยร่วมกันป้องกันและลดการเกิดมลพิษ จากแหล่งกำเนิดต่างๆ เช่น ยานพาหนะ การก่อสร้าง ภาคอุตสาหกรรม ภาคครัวเรือน ภาคเกษตร 

และพื้นที่ที่มีการเผา หรือก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) การสร้างการรับรู้ให้ประชาชนเข้าใจถึงสถานการณ์ และผลกระทบจากของประชาชนสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM 2.5) พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครอง กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรลูกบ้านที่ยังทำการเกษตรแบบเดิมๆ ขอให้ปรับเปลี่ยนวิธีการทำ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่เกษตรตำบล เกษตรอำเภอ ลงพื้นที่ไปให้ความรู้และวิธีการทำนาแบบใหม่ที่ไม่ต้องเผาฟาง 

นอกจากนี้ ได้ประสานขอความร่วมมือจากโรงงานน้ำตาลในพื้นที่สุพรรณบุรี ทั้ง 3 แห่ง ให้รับซื้ออ้อยที่ถูกเผาให้เป็นศูนย์ คือไม่รับซื้ออ้อยเผา และรับซื้ออ้อยตัดสด ที่ราคาสูงขึ้น แต่ขณะนี้พบว่า ยังมีการรับซื้ออ้อยเผาอยู่ประมาณ 30 % ซึ่งคงต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา 
สุพรรณฯ ลุยแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ตั้งเป้าโรงงานน้ำตาลรับซื้ออ้อยเผาเป็นศูนย์
สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งจังหวัดสุพรรณบุรี ได้นำเครื่องตรวจวัดควันดำมาตรวจวัดรถของหน่วยงานที่เข้าร่วมกิจกรรมด้วย เช่น รถแขวงทางหลวง รถศูนย์ ปภ. และรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

logoline