10 พฤศจิกายน 2566 จากกกรณี "น้องเอ" เด็กหญิงวัย 13 ปี ตกเป็นเหยื่อถูกล่วงละเมิด โดย "น้าเดช" คนขับรถตู้โดยสารไม่ประจำทาง ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาจากทางครอบครัวเด็กหญิง ว่า ขณะที่นั่งรถตู้คันดังกล่าวไปหาพ่อแม่ในช่วงปิดภาคเรียน เมื่อวันที่ 1-2 ต.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างทางถูกมอมยาจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และถูกขืนใจ
ในเวลาต่อมาเรื่องราวถูกเปิดเผยหลังผ่านไปนานร่วมเดือน เมื่อนางแตง (นามสมมติ) อายุ 63 ปี ผู้เป็นย่าเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับหลานสาวหลังจากกลับมาจากกรุงเทพ สอบถามทราบว่าหลานสาวได้ถูก น้าเดช ขืนใจ กระทั่งเป็นเหตุให้เสียสติ แต่ล่าสุด "น้องเอ" ผู้ตกเป็นเหยื่อ ได้ให้การกับสหวิชาชีพว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ตามที่มีการเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเรื่องราวการขืนใจ กลายเป็นเรื่องโอละพ่อ ถูกเปิดเผย ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เตรียมจัดการแถลงข่าวและรายละเอียดทั้งหมดในวันนี้ (10 พ.ย.) เวลา 13.00 น.
พ.ต.อ.คะเชนทร์ ยืนยง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ระบุว่า ทีมสหวิชาชีพ ได้เข้าทำการสอบปากคำเด็ก ที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ขอนแก่น หลังจากที่อาการดีขึ้นตามลำดับ จากการสอบปากคำเบื้องต้น เด็กหญิงได้รับสารภาพว่า เรื่องที่ถูกน้าเดชขืนใจบนรถตู้ ไม่เป็นความจริง ซึ่งรายละเอียดทั้งหมด พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น จะแถลงต่อสื่อมวลชนที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ในวันนี้ เวลา 13.00 น.
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่าน ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายเดช แต่ปรากฏว่า ผู้ที่รับสายคือ น.ส.หนิง (นามสมมติ) ภรรยาของ น้าเดช เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ทางครอบครัวยังไม่ได้รับการประสานงานจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ
เมื่อทราบข่าวว่าเป็นเรื่อง "โอละพ่อ" เด็กหญิงเอ ให้การกับตำรวจว่า กุเรื่องขึ้นมา ทางครอบครัวก็โล่งใจขึ้น เพราะยืนยันมาตลอดว่า สามีไม่ได้ทำอย่างที่ถูกกล่าวหา
ส่วนจะมีการฟ้องกลับคนที่ทำให้ครอบครัวเสียหายหรือไม่นั้น น.ส.หนิง จะมีการปรึกษากันอีกครั้ง หลังจากที่คดีมีความชัดเจนมากขึ้น เพราะข่าวฉาวที่เกิดขึ้นนั้น กระทบกับครอบครัวและธุรกิจรถตู้โดยสารที่ทำมากว่า 10 ปี เป็นอย่างมาก