อบต.สาริกา ผุดไอเดียนำขยะอันตรายแลกไข่ไก่ ลดปริมาณขยะ ในพื้นที่

 

3 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ องค์การบริการส่วนตำบลสาริกา จ.นครนายก ก่อนพบ นายชุมพลภัทร์ เลาหะพานิช นายกองค์การบริการส่วนตำบลสาริกา น.ส.ศิริรัตน์ กำพุด หัวหน้าสำนักปลัดฯ องค์การบริการส่วนตำบลสาริกา พร้อมเจ้าหน้าที่ตั้งโต๊ะ รับแลกขยะอันตรายจากชาวบ้านในชุมชนองค์การบริการส่วนตำบลสาริกา นำขยะอันตรายที่ระบุไว้มาแลกไข่ไก่ โดยขยะสามารถนำมาแลกได้ จะเป็น ถ่ายไฟฉาย หลอดไฟ ไฟตกแต่ง ไฟประดับ แบตเตอรี่โทรศัพท์เก่า ตลับหมึก กระป๋องสเปย์ โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวได้นำขยะมาแลกไข่ไก่ที่หน้า อบต.ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยเปิดให้บริการทุกวันศุกร์ตั้งแต่เวลา 09.30-12.00 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566- 30 กันยายน 2567 

 

 

นายชุมพลภัทร์ เลาหะพานิช นายกองค์การบริการส่วนตำบลสาริกา บอกว่า โครงนี้เป็นโครงการนำขยะอันตรายแลกไข่ไก่ เป็นโครงการที่มีอยู่เดิมก่อนโดยมีน.ส.ศิริรัตน์ กำพุด หัวหน้าสำนักปลัดฯเป็นคิดโครงการตอนตนเข้ารับตำแหน่งนายกองค์การบริการส่วนตำบลสาริกา ตนเห็นว่าดีจึงให้มีการทำโครงการนี้ต่อเพื่อเป็นการช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ตำบลสาลิกา อีกทั้งเป็นการนำขยะไปทำลายได้อย่างถูกวิธี ขณะที่ตำบลสาลิกาเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว ทำให้มีปริมาณขยะที่ค่อนข้างเยอะ นางสาวศิริรัตน์ กำพุด หัวหน้าสำนักปลัดฯจึงได้มีโครงการผ้าป่าขยะ โดยให้ชาวบ้านในพื้นที่นำขยะพลาสติก ขยะที่สามารถนำมารีไซเคิลขายเป็นเงินได้ให้นำมาบริจาคที่องค์การบริการส่วนตำบลสาริกา จากนั้นจะนำขยะไปขาย เมื่อได้เงินมาก็นำมาเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชนในตำบลสาลิกา 

 

"ทั้งนี้ตนอยากให้ทุกคนในพื้นที่ตำบลสาริกาช่วยกันดูและคัดแยกขยะ เพื่อเป็นการลดปริมาณขยะ เนื่องจากปัจจุบันองค์การบริการส่วนตำบลสาริกา ต้องสนับสนุนเงินทุนในการจัดเก็บขยะกว่า 2 ล้านบาท ในแต่ละปี หากช่วยกันทำให้ปริมาณขยะลดลงก็จะเหลืองเงินไปลงทุนในโครงการสร้างพื้นฐานซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อคนตำบลสาริกาต่อไป" นายชุมพลภัทร์ เผยต่อ

 

 

ด้านนางอำไพ หัสสา อายุ 66 ปี ชาวบ้าน ที่ทราบข่าวและนำขยะมาแลกไข่ บอกว่า วันนี้ตนนำหลอดไฟ กับถ่านไฟฉายมาแลกไข่ ได้ถึง 11 ฟอง รู้สึกว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก ที่ได้นำขยะมาแลกไข่ ดีกว่านำขยะพวกนี้ไปทิ้งอีกทั้งอาจจะเป็นอันตรายต่อคนทั่วไปหรือพนักงานเก็บขยะที่อาจจับหลอดไฟที่แตกทำให้เป็นบาดแผลฉกรรจ์ได้ เมือ่นำขยะมาแลกไข่เราก็ได้อาหาร ที่มีสารอาหารที่ดีต่อต่อร่างกาย อยากให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึงคนในชุมชน รวมถึงผู้เฒ่าผู้แก่ที่เข้าไม่ถึงสื่อสังคมออนไลน์ก็อยากให้มีการบอกต่อให้ทราบ