เตือนชาวบ้านภูกระดึง ระวัง "ช้างป่า" พบดุร้ายสูง พร้อมทำร้ายคนเมื่อเจอ

25 สิงหาคม 2566 เป็นที่ขึ้นชื่อ เลื่องลือในเรื่องของความดุร้าย สำหรับ "ช้างป่าภูกระดึง" ที่ถึงขั้นขนาดคนในพื้นที่ ไม่มีใครแทบอย่างเอ่ยปากคำว่า "ช้าง" ออกมา

นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอภูกระดึง เผยว่า สถานการณ์ช้างป่า ในพื้นที่อำเภอภูกระดึงขณะนี้ ได้มีช้างป่า รุกเข้ามาในพื้นที่เขตในชุมชน โดยช้างได้ข้ามถนน 201 เลย - ชุมแพ ข้ามจากเขต ต.ภูกระดึง ข้ามฝั่งไปอยู่ทาง ต.ผานกเค้า  6 ตัว

แยกออกเป็น 2 โขลง โขลงแรกอยู่ด้วยกัน 2 ตัว เป็นช้างตัวเมียทั้งคู่ โดยได้อาศัยอยู่ใกล้หมู่บ้านศรีรักษา และมุ่งตรงไปทางภูผ่าม่าน จ.ขอนแก่น ตอนกลางคืนจะวกกลับมาหากินที่ในหมู่บ้านศรีรักษา  

 

นายภูริวัจน์ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้า ได้รับรายงานอยู่ใกล้หมู่บ้านศรีรักษา ในช่วงบริเวณสวนครั่ง อยู่ตรงกันข้ามกับโรงโม่ ของเอกชนรายหนึ่ง ทางอำเภอจึงได้ออกประกาศแจ้งเตือน ให้กับชาวบ้านที่เข้าไปหาของป่า เช่นหน่อไม้ เห็ด ห้ามเข้าไปในบริเวณดังกล่าว โดยทางเจ้าหน้าที่ ที่ติดตามพฤติกรรมของช้าง พบว่าช้าง 2 ตัว มีอาการเครียด หากเจออาจทำร้ายกับผู้พบเห็นได้
 

ส่วนอีกโขลงมีทั้งหมด 4 ตัว เป็นช้างตัวผู้ทั้งหมด อาศัยอยู่บริเวณหมู่บ้านกล่องข้าว ได้รับรายงานเข้ามาหากินที่หมู่บ้านห้วยส้มใต้ ต.ผานกเค้า มีชาวบ้านมาร้องเรียนที่ว่าการอำเภอว่า ช้างได้เข้าไปกินกล้วยหมดสวน และเดินไปเคาะประตูบ้าน ที่ส่วนใหญ่อยู่ในสวนยางพารา ทำให้ชาวบ้านต่างหวาดผวา ช้างได้ใช้งวงล้มต้นกล้วย ข้าวโพด ต้นไม้ ทั้งถอนต้นอ้อยเป็นไร่ ๆ และพืชผลที่ปลูกไว้ เสียหายเป็นวงกว้าง ทำให้ชาวบ้านต่างตกใจกลัว และหวาดผวาทั้งกันหมู่บ้าน
 
 

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้พยายามประคอง ผลักดันและให้ช้างทั้ง 6 ตัว กลับมาข้ามถนนให้ได้ เพื่อให้เข้าไปอยู่ใน ป่าภูค้อ-ภูกระแต แต่ในเรื่องการผลัก เจ้าหน้าที่ต้องพยายามสร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน ให้เข้าใจในเรื่องของการผลักดันช้าง

เนื่องจากมีผลกระทบกับชาวบ้าน ในพื้นที่ช้างถูกผลักดันผ่าน ที่อาจสร้างความเสียหายกับพืชไร่ ในทางผ่านของช้าง ก่อนที่จะเข้าป่า โดยชาวบ้านทั้ง 2 ฝั่ง เริ่มมีการกระทบกระทั่งกัน ในเรื่องการผลักดันช้าง ผ่านเขตชุมชนตนเอง

คาดว่า อีกประมาณ 2 เดือนข้างหน้า ที่จะเข้าสู่ฤดูการผสมพันธุ์ของช้าง ช้างป่าทั้ง 4 ตัว ที่เป็นตัวผู้ทั้งหมด อาจเดินทางกลับเข้าสู่ป่าห้วยหินลับ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อีกรอบ เพื่อกลับไปผสมพันธุ์ตามสัญชาตญาณของสัตว์ป่า