
14 สิงหาคม 2566 กรณีพ่อแม้ๆทำร้ายลูกวัย 14 ปี ข่มขู่ให้แม่เด็กมาหา ต่อมาแม่ได้ขอความช่วยเหลือกับ "กัน จอมพลัง" กระทั่งเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 13 สิงหาคม 2566 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนร่วมกับสายตรวจของ สภ.บางแก้ว ได้เข้าช่วยเหลือ เด็กชายเขียว (นามสมมติ) อายุ 14 ปี และเด็กหญิง แมว (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ ได้ที่บ้านพักในชุมชนแห่งหนึ่ง พื้นที่ ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
พร้อมกับคุมตัว นายรัตพงษ์ เกษรไพบูลย์ อายุ 39 ปี บิดาแท้ ๆ ของเด็กทั้งสองคน มายัง สภ.บางแก้ว เพื่อสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมาย
ก่อนหน้านี้ มารดาของเด็กทั้งสองคน แจ้ง นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ว่า ขอความช่วยเหลือลูกชาย จากการถูกบิดาแท้ ๆ เตะ และ ทุบตี พร้อมทั้งถ่ายคลิปวีดีโอส่งไปให้ทางแม่ของเด็กเพื่อบังคับให้กลับบ้าน โดยเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือเด็กทั้งสองได้อย่างปลอดภัย ขณะที่บิดาแท้ ๆ ต้องเชิญตัวแยกสอบปากคำทันที
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ เด็กชายเขียว ซึ่งเป็นเด็กที่ปรากฏอยู่ในคลิป เด็กชายเขียว ได้โชว์บาดแผลคล้ายถูกฟาดตีด้วยของแข็ง ที่ ศีรษะ โหนกแก้มขวา แขน และสีข้างด้านซ้าย โดย เด็กชายเขียว บอกว่า รอยดังกล่าวเกิดจากการที่ถูกบิดาแท้ ๆ ใช้ไม้กวาดตีตามร่างกายหลายครั้ง ส่วนที่โหนกแก้มขวาเกิดจากถูกพ่อต่อย เพื่อถ่ายคลิปส่งไปให้แม่
เด็กชายเขียว ยังบอกอีกว่า ยอมรับว่าหนูเจ็บปวดมาก จากการถูกตี หนูพยามห้ามบอกพ่อแล้ว แต่พ่อก็ไม่ฟัง และตีตนเองอีกหลายครั้ง ส่วนคลิปที่ถ่าย เพราะถูกพ่อบังคับให้เอาโทรศัพท์ไปตั้งถ่ายไว้เพื่อส่งให้แม่ ตอนนั้นหนูพยามบอกพ่อว่าพอแล้ว หนูเจ็บ แต่พ่อก็ไม่ฟัง
เมื่อถามว่าพ่อเมาไหม น้องเขียวบอกว่าพ่อเมา และเคยตีมาบ้าง ในสิ่งทีตนเองผิด แต่ก็ไม่รุนแรงขนาดนี้ ตอนนี้กลัวพ่อมาก และอยากไปอยู่กับแม่
เด็กหญิงแมว น้องสาวของ เด็กชายเขียว ที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนที่พ่อตีพี่ชาย บอกว่า เห็นพ่อตีพี่ชายถึง 13 ครั้ง แต่ไม่กล้าห้าม เพราะกลัวจะถูกตี ตนเองยังถูกพ่อบังคับถ่ายคลิปส่งไปให้แม่ด้วยเลย ตอนนี้หนูกลัวพ่อมาก อยากไปอยู่กับแม่
ด้าน เพื่อนพ่อที่อยู่ข้างบ้าน บอกว่า เหตุการณ์ที่ตีลูกเกิดขึ้นช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา หลังจากที่ได้ยินเสียงเด็กร้อง จึงไปดู พอไปถึงเขาหยุดตีแล้ว พอสอบถามเจ้าตัวเขาบอกว่าเขาเครียด ตนเองจึงโทรแจ้งตำรวจ ส่วนนิสัยใจคอของผู้ก่อเหตุนั้น ปกติแล้วไม่ค่อยดื่มเหล้า และเป็นคนรักลูกรักเมีย
ส่วน นายรัตพงษ์ เกษรไพบูลย์ อายุ 39 ปี พ่อของเด็กทั้ง 2 คน เจ้าตัวยังคงอยู่ในอาการฉุนเฉียวหัวร้อน และไม่ยอมให้ช่างภาพเข้าใกล้แต่อย่างใด แถมยังขู่ฟ้องเรียกเงินจากนักข่าวที่ออกข่าวช่องละ 50,000 บาท
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายรัตพงษ์ เล่าให้ฟังว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด มันไม่ใช่อย่างที่เห็นในคลิป แต่มันมาจากการจัดฉากเล่นละครตบตาเมียของตัวเอง เลือดที่เห็นในคลิป ก็มาจากสีผสมอาหาร ที่ตนเองเอามาผสมเทถูตามตัวลูกชายและลูกสาว ส่วนที่เห็นว่าเตะลูกชายนั้น มันเป็นมุมกล้อง ตนเองเตะแบบถาก ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะเตะให้เจ็บ ทำลงไปเพราะจะจัดฉากถ่ายคลิป
ส่วนแผลที่เห็นตรงเอวลูก นายรัตนพงษ์ อ้างว่า ลูกชายถูกสุนัขในบ้านกัด ไม่ใช่บาดแผลจากไม้กวาด แต่ยอมรับว่าใช้ไม้กวาดตีลูกจริง ตีแบบถาก ๆ ไม่ใช่ตีเต็มแรง ยืนยันที่ทำไปเพราะสร้างภาพ ส่วนที่ต้องทำเพราะภรรยาไประยองไม่กลับบ้าน ไลน์ไปอ่านแต่ไม่ตอบ จนทำให้ตนเองเกิดความเครียด คิดว่าภรรยาไปหาชายอื่น
พ.ต.ท. ณรรฐพงษ์ มัคเจริญ รองผกก.ป. สภ.บางแก้ว ชี้แจงจากกรณีดังกล่าว ว่า ช่วงตอนเกิดเหตุ ทางสถานีตำรวจได้รับการประสานจากมารดาของเด็กว่ามีการทำร้ายร่างกายบุตร จึงให้สายตรวจนำกำลังไปตรวจสอบ พอสายตรวจไปถึงก็พบว่าเหตุการณ์ปกติและเด็กนั่งอยู่กับพ่อในบ้าน ตำรวจพยามเข้าไปตรวจสอบ แต่ถูกพ่อข่มขู่ตำรวจว่าจะแจ้งข้อหาบุกรุก และออกแนวหัวร้อนโวยวาย สายตรวจจึงถามเด็กแต่ตอนนั้นเด็กไม่มีท่าทีเหมือนถูกทำร้ายร่างกาย สายตรวจจึงกลับออกมาและประสานกลับไปที่มารดาอีกครั้ง จนกระทั่งช่วงบ่ายจึงนำกำลังไปช่วยเหลือเด็กออกด้วยการออกกลอุบายให้เด็กออกมารอนอกบ้าน
ต่อมา นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้เดินทางมาพร้อมกับ นางสาวจิดาภา อายุ 44 ปี มารดาของเด็กทั้ง 2 คน เข้าไปเยี่ยมพูดคุยและให้กำลังใจกับเด็กทั้ง 2 คน แม่และเด็กทั้ง 2 คน ได้เข้าสวมกอดกัน ก่อนที่ นางสาวจิดาภา จะเดินไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิดกับ นายรัตพงษ์
พ.ต.ท.ณรรฐพงษ์ มัคเจริญ รองผกก.ป. สภ.บางแก้ว กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุตอนนี้อยู่กับพนักงานสอบสวน กำลังสอบปากคำอยู่ เบื้องต้นยังคงให้การวกไปวกมา ซึ่งก็อ้างว่าหมากันน้องบ้างอะไรบ้าง แต่ตรงนี้ไม่ใช่ปัญหา เพราะยังไงเดี๋ยวทางพนักงานสอบสวนจะส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ว่าบาดแผลเกิดจากอะไร
ส่วนทางคดี ก็จะเชิญตัวแม่เด็กไปร้องทุกข์กับทางพนักงานสวนเพื่อเข้ากระบวนการทางกฎหมาย ก็อาจจะมีการขอหมายขังต่อไป ตามกระบวนการกฎหมาย ในส่วนที่มีการนำมีดมาทำร้ายเด็ก มันเป็นลักษณะที่เหมือนเป็นการขู่ให้การภรรยากลับมาที่บ้าน แต่ไม่ได้บาดจริง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เดี๋ยวจะต้องส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจให้ระเอียดอีกที แล้วจะแจ้งข้อหาตามบาดแผล และกระบวนการตามกฎหมาย
ส่วนน้ำสีแดงที่เห็นในคลิปเบื้องต้นทราบว่าเป็นสีผสมอาหารทำให้ดูแบบเป็นเลือดเพื่อที่จะให้ภรรยาเขารีบกลับมาบ้าน และเขาได้สั่งให้ลูกเขาตั้งกล้อง แล้วมีการทำร้ายจริง ซึ่งความจริงการทำร้ายเป็นสิ่งที่ไม่สมควรเลย แต่เป็นลักษณะอยากให้ภรรยากลับบ้าน ใส่ส่วนที่มีการใช้มีดจะแทงลูก ก็ต้องไปดูตามพฤติการณ์ ตามเจตนา ของกฎหมายอีกทีนึง ตรงนี้เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน ที่ต้องไปตรวจสอบอีกทีนึง ถึงเขาจะอ้างว่าเป็นการแสดงละคร ตนว่าก็ต้องมองที่เจตนาด้วยว่าเขาได้กระทำจริงหรือเปล่า ในดูเหมือนยังไม่รุนแรงถึงขนาดแทง หรือพยายามฆ่าอะไรขนาดนั้น เจตนาเขาคือเป็นการแบบขู่เพื่อให้ภรรยากลับมา แต่ที่เราเป็นแน่ชัดคือทำร้ายร่างกาย ซึ่งกลับเด็กไม่สมควร อันนี้เราต้องแจ้งขอกล่าวหาแน่นอน ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน และผลตรวจพยานหลักฐาน ที่รวบรวมอยู่
เบื้องต้นก็จะแจ้งข้อกล่าวหา ป.อาญา มาตรา 295 ทำร้ายอันตรายแก่กายและจิตใจ และน่าจะมี พรบ.คุ้มครองเด็ก ตรงนี้เดี๋ยวต้องปรึกษากับทาง รักษาการแทนผู้กำกับ และพนักงานสอบสวนอีกที ว่าจะเข้าค่ายข้อหาอะไรเพิ่มเติม ถ้าเป็นไปตามกระบวนการตอนนี้ คือเราไม่ได้เห็นความผิดซึ่งหน้าในขณะนั้น เราก็เลยบันทึกจับกุมไม่ได้ แต่เบื้องต้นแล้วเราสามารถที่จะขอหมายขังที่ศาลได้ เป็นกระบวนการทางกฎหมาย ตอนนี้เดี๋ยวถ้าแจ้งข้อหา สอบปากคำ แล้ว อาจจะต้องปล่อยกลับ แล้ววันอังคารต้องนัดมาอีกรอบ เพื่อไปขอหมายจับที่ศาล
ส่วนเรื่องความปลอดภัยของ แม่ และ เด็กทั้ง 2 คน ทางด้านของ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะพาเข้าสู่กระบวนการของบ้านพักเด็ก ด้านเจ้าหน้าที่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ทาง พม. ก็จะจัดหาที่ปลอดภัย ให้กับทางครอบครัวเด็ก ซึ่งเราก็จะไม่บอกว่าจะไปที่ไหน เพื่อความปลอดภัย เบื้องต้นก็จะต้องพาน้องไปทำการตรวจร่างกาย และรักษาบาดแผลก่อน ในเรื่องของสภาพจิตใจของน้อง และหลังจากนั้นก็จะมีเรื่องการเตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินการเข้าสู่เรื่องคดีความ
เบื้องต้นหลังจากได้พูดคุยกับเด็ก ก็พบว่าเด็กยังมีความหวาดกลัวในเรื่องที่จะเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และจากการสอบถามคุณแม่ ก็จะมี นอกจากแผลที่เกิดจากร่างกายแล้วก็จะมีแผลภายในที่เกิดจากการกระทำซ้ำมาก่อนหน้านี้ด้วย ที่จะต้องเข้าไปดูแลด้วย
นางสาวจิดาภา มารดาของเด็กทั้ง 2 คน เล่าว่า ในวันเกิดเหตุตนไปทำงานที่ต่างจังหวัด เขาคิดว่าตนไม่ได้ไปทำงานแต่ไปเที่ยว พอตนเห็นคลิปลูกแล้วตนก็โทรกลับมาหาเขา เขาก็บอกให้ตนรีบกลับ ถ้าตนไม่กลับก็จะทำยิ่งกว่าเดิม ตนเห็นลูกโดนทำร้ายก็เลยแจ้งตำรวจ ลูกส่งคลิปมาบอกว่าถ้าตนไม่กลับเขาก็จะเตะน้องอีก หลังจากตนก็จะเลิกกับเขาแล้วเอาลูกไปอยู่ด้วย ส่วนเรื่องของคดีก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ที่เขาทำกับลูกเรา นี้ขนาดเป็นลูกเขาเอง
กัน จอมพลัง กล่าวว่า จริง ๆ มันไม่มีครอบครัวไหนเขารักกันด้วยหมัดเท้าเข่าศอก อันนี้เราต้องการให้ใครสักคนกลับมารักเรา เราลองคิดถึงความเป็นจริง เราใช้กำลังไปทำร้ายคนที่เขารัก หรือแม้กระทั้งทำร้ายตัวเขาเอง เขาจะกลับมารักษาเหมือนที่เราต้องการไหมลองใช้สติคิด ให้เอาเหตุและผลมาคุยกัน มันไม่มีทางเลย ครอบครัวเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงมากที่สุดคือความรู้สึก สภาพจิตใจ ชนะคนในครอบครัวไปก็เท่ากับแพ้ วันนี้คุณอยากให้แฟนคุณกลับมาเดี๋ยวนี้ ๆ โดยการที่คุณไปทำร้ายลูก บังคับ ถ้าไม่กลับมาลูกจะโดนหนักกว่าเดิม สุดท้ายคุณแพ้ทั้งหมด คุณทำร้ายลูก ทำร้ายครอบครัว ครอบครัวมันก็จะพัง ไม่ได้เป็นเพราะเขาหรือเพราะใครที่กลับบ้านช้า เพราะคุณเองที่ทำร้ายความรู้สึกของทุกคน
สำหรับใครที่ประสบปัญหานี้อยู่ แล้วก็ไม่กล้าพูด ก็ออกลุกขึ้นมาสู้แบบคุณแม่เนี่ยถูกต้องแล้ว วันนี้คุณแม่ไม่ได้ปกป้องตัวคุณแม่เอง คุณแม่ลุกขึ้นมาปกป้องลูก น้องนี้โดนมาหลายครั้งแล้วก่อนหน้านี้ ความอดทนของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน บางคนอาจจะถามว่าทำไมแม่ถึงทนมาได้นาน จุดของครอบครัวแต่ละคนมันไม่เท่ากันจริง แต่วันนี้เขาลุกขึ้นมาสู้แล้ว ทุกคนดูเป็นตัวอย่างไว้ พอถึงจุด ๆ นึงท่านไม่ไหวท่านออกมาสู้ออกมาพูด ไม่ต้องทน ถ้าเขารักท่านจริงเขาจะไม่ทำร้ายท่าน