ตร.คุมตัว 2 ผัวเมีย เจ้าของ "โกดังพลุมูโนะ" ฝากขัง เล็งแจ้งข้อหาเพิ่ม

7 สิงหาคม 2566 ความคืบหน้า เหตุโศกนาฏกรรม "โกดังพลุระเบิด" ในพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส  สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนของประชาน รวมทั้งมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเจ้าของคือ นายสมปอง หรือ เสี่ยไหว และ น.ส.ปิยุนุช หรือเจ๊หลิน สองสามีภรรยา ซึ่งเข้ามอบตัวในเวลาต่อมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• เปิดภาพผ่าน 10 วัน"โศกนาฎกรรมมูโนะ" วอนเร่งซ่อมบ้าน ถูกโกดังพลุระเบิด
• แกะรอย "คาร์บอมบ์สุไหงโก-ลก" ฤาโยงเหตุระเบิดโกดังเก็บพลุ (ชมคลิป)
• ตร.แยกสอบเครียด 2 สามี-ภรรยา เจ้าของโกดังพลุมูโนะ 

โดยภายหลังการมอบตัว ตำรวจแยกสอบเครียด "เสี่ยไหว-เจ๊หลิน" 2 สามี-ภรรยา เจ้าของโกดังพลุมูโนะ ภาพรวมยอมรับบางข้อกล่าวหา และมีการปฏิเสธไม่รู้เห็นในบางข้อกล่าวหา 

 

ล่าสุด เมื่อช่วงก่อนเที่ยงของวันนี้ (7 ส.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง พร้อมคณะ เดินทางมาติดตามความคืบหน้า การให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ของชาวตลาดมูโนะ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมเดินทางไปดูสถานที่เกิดเหตุ และเยี่ยมปลอบขวัญชาวบ้าน 

พล.อ.ประวิตร เข้าฟังบรรยายสรุปของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ด้านการช่วยเหลือ ด้านการซ่อมแซม รวมทั้งการเยียวยาสภาพจิตใจ โดยภาพรวมการช่วยเหลือ อยู่ในระหว่างการประเมินความเสียหาย ของบ้านพัก การตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว รวมทั้งจัดอาหารครัวสนามเลี้ยงชาวบ้าน 3 มื้อ ซึ่งได้ดูแลชาวบ้านอย่างใกล้ชิด
 

พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางไปดูสถานที่เกิดเหตุ ดูสภาพความเสียหาย ดูเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร ซ่อมแซมบ้านพักให้กับชาวบ้าน โดยเฉพาะอย่างที่บริเวณจุดเกิดเหตุ พล.อ.ประวิตร ให้ความสนใจในเรื่องของที่ตั้งโกดัง ที่สร้างอยู่ในชุมชน จนเกิดระเบิดขึ้น แล้วสร้างความเสียหาย ซึ่งได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และส่วนที่เกี่ยวข้อง นำไปเป็นบทเรียน และให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ไม่ให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

จากนั้น ได้เดินทางไปยังโรงเรียนบ้านมูโนะ เพื่อพบประชานที่ได้รับผลกระทบ และได้แสดงความเสียใจ พร้อมบอกกับชาวบ้านว่า ได้สั่งการให้ดูแลเต็มที่ พร้อมขอขอบคุณ ภาคเอกชนทุกส่วน ที่ช่วยบริจาดอาหาร น้ำดื่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินบริจาดที่มีมากถึง 23 ล้านบาท ที่สามารถนำไปสมทบ ให้กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ใช้สำหรับช่วยชาวบ้าน ในการนี้ ทางธนาคารออมสิน ได้ช่วยบริจาดเงิน 2 ล้านบาท และธนาคารอิสลาม จำนวน 1.5 แสนบาท

 

ส่วนความคืบหน้าทางคดี "เสี่ยไหว-เจ๊หลิน" 2 สามี-ภรรยา เจ้าของโกดังพลุมูโนะ หลังถูกควบคุมตัว แยกสอบสวนอย่างเคร่งเครียด ที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เป็นเวลา 2 วัน ภาพรวม 2 สามีภรรยา ให้การเป็นประโยชน์ รับสารภาพในบางข้อกล่าวหา และปฏิเสธในบางข้อกล่าวหา มีทนายความของ 2 สามีภรรยาอยู่เคียงข้างการสอบปากคำอย่างใกล้ชิด 

เจ้าหน้าที่ได้ส่ง 2 สามีภรรยา ขออำนาจศาลฝากขังในเวลา 11.00 น.ของวันนี้ (7 ส.ค.) ซึ่งการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ เจ้าหน้าที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ทั้งการสอบสวนปากคำของผู้เสียงหาย การพิสูจน์หลักฐานต่าง ๆ ที่เก็บรวบรวมในที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะการรอผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ และทางพนักงานสอบสวน ได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชน
 

บิ๊กโจ๊ก เตรียมเรียกสอบ 3 บิ๊ก ขรก.ในพื้นที่ 

แหล่งข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เตรียมเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าว เพื่อสอบสวนปากคำด้วยตนเอง จำนวน 3 คน ประกอบด้วย

1.นายอนิรุทร บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงโก-ลก จากการสอบถามเบื้องต้น ยังไม่มีผู้ใดติดต่อมาให้รับทราบ แต่หากเรียกสอบก็ยินดีให้ความร่วมมือ ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องของการเก็บส่วย ไม่มีความสนิทสนมกับ 2 สามีภรรยาเจ้าของโกดัง ในเมื่อตนตกอยู่ในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบ และถูกมองว่า อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะได้เดินทางไปแสดงความบริสุทธิ์ใจ

2.ด.ด.รุสลาม อาแว นายก อบต.มูโนะ กล่าวว่า เรื่องที่อาจจะถูกเรียกตัวขึ้นไปสอบสวนนั้น ตนยังไม่ได้รับทราบ แต่ตนได้ถูกเรียกตัวไปสอบ ส่วนระดับจังหวัด และระดับอำเภอ แล้วทั้ง 2 ครั้ง และการขออนุญาตเรื่องการก่อสร้างโกดังดังกล่าว มีการขออนุญาตขนาด 450 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็นโกดังธรรมดาทั่วไป ที่ 2 สามีภรรยาไว้เก็บอุปกรณ์การเกษตร ที่จำหน่ายที่ร้านของเขา แต่อาจจะมาแอบลักลอบ นำดอกไม้เพลิงชนิดต่าง ๆ มาเก็บไว้

3.นายโดม ถนอมบูรณ์ อุตสาหกรรมจังหวัดนราธิวาส จากการประสานสอบถามเรื่องดังกล่าว ทราบว่า ยังไม่ทราบหรือเห็นเอกสารในเรื่องนี้ จึงไม่สามารถที่จะให้รายละเอียดได้


ตร.เตรียมแจ้งข้อหา - ออกหมายจับเพิ่ม 

พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภาค 9  กล่าวว่า 2 สามีภรรยา อยู่ระหว่างการสอบสวนปากคำ และขยายผลเพิ่มเติม มีความเข้มข้น และมีรายละเอียดในการสอบสวนอยู่พอสมควร ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้มากนัก เพราะจะส่งผลกับหลักฐานทางคดี

เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพบางส่วน ปฏิเสธบางส่วน ซึ่งในวันนี้จะมีการฝากขัง คดีนี้ไม่น่าจะนาน เพราะมีการระดมพนักงานสอบสวนทุกส่วนมาดูคดีนี้ สำหรับเรื่องการขออนุญาต การขนส่ง การเก็บรักษา ถ้าไม่อยู่ในระบบที่กฎหมายกำหนด ก็จะมีความผิด 

จากการสอบสวนเบื้องต้นนั้น อาจจะมีการออกหมายจับ ผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม หลังจากที่มีการสอบสวน รวมถึงผู้ต้องหาเองจ ากเดิมที่มีอยู่ 4 ข้อหา อาจจะมีเพิ่มเติมอีก ซึ่งการรับโทษก็จะแยกเป็นคดี ๆ แต่ในเบื้องต้นทั้ง 2 มีทั้งรับบางข้อหา และปฏิเสธบางข้อกล่าวหา 
 

พฤติกรรมของทั้ง 2 คน โดยรวมมีความตึงเครียด วิตก กังวล ซึ่งเจ้าหน้าได้ติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม เพื่อเฝ้าระวังการคิดสั้น หรือทำร้ายตัวเอง  

ขณะที่การสืบสวนสอบสวน ด้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กระทำการเกินหน้าที่ หรือรับสินบน ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยแยกความผิดเป็น 2 ส่วน ทั้งการปกครองและวินัย ให้เวลาสอบสวน 1 สัปดาห์ หรืออาจจะขยายผลต่อ เพื่อให้ผลการสอบสวนครอบคลุมในทุกด้าน แต่ทั้งนี้ ยืนยันว่า หากเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มีการปล่อยผ่านอย่างแน่นอน