4 สิงหาคม 2566 เกิดความวุ่นวายขึ้นที่แหลมบาลีฮาย เมื่อ เมืองพัทยา ใช้อำนาจในการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ โดยนายสุริยา แก้วเขียว ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายคริส เชิดสุริยา หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคาร และกำลังเจ้าหน้าที่รวมทั้งอุปกรณ์เข้าเตรียมการในการร้อถอนอาคารโครงสร้างเหล็ก 1 ชั้น ขนาด 21.85x3.300 เมตร จำนวน 1 หลัง
ทั้งนี้ อาคารดังกล่าวมีการใช้ประกอบกิจการเป็นร้านอาหาร บริเวณถนนอ้อมแหลม ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่ได้ทำการก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ด้วยเมืองพัทยา ได้ออกคำสั่งตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ให้ระงับ ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคารตามมาตรา 40 (2) แบบ ค.3 ค.4 และ ค.5 ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 โดยให้ยื่นคำขออนุญาตก่อสร้างดัดแปลงอาคารภายใน 45 วัน นับแต่วันได้รับคำสั่ง
กระทั่งครบกำหนดเวลาจึงให้ทำการรื้อถอนอาคารตามมาตรา 42 วรรค 1 แบบ ค.6 ลงวันที่ 22 กันายน 2565 ภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับคำสั่ง ซึ่งถือว่าเลยกำหนดเวลาแล้ว จึงอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร เมืองพัทยาจึงจะเข้าดำเนินการรื้อถอนอาคารดังกล่าว หลังปิดประกาศนี้ไปแล้วไม่น้อยกว่า 15 วัน โดยเจ้าของอาคารจะต้องเป็นผู้ชดใช้ค่าเสียหายในการรื้อถอนเป็นจำนวนเงิน 168,900 บาท
อย่างไรก็ตาม จากการนำกำลังลงพื้นที่เพื่อบังคับใช้กฎหมาย ทางเจ้าของอาคารได้ปฏิเสธที่จะให้เมืองพัทยาทำการรื้อถอนอาคารดังกล่าว โดยยินยอมให้เมืองพัทยาดำเนินการตามขั้นตอนโดยการแจ้งความดำเนิน คดีฐานขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ซึ่งจะต้องมีการยื่นเรื่องต่อศาลในการขอออกหมายควบคุมตัว
ขณะที่เจ้าของอาคาร จะแจ้งความดำเนินคดีกับเมืองพัทยาเช่นกัน ในส่วนที่นำกำลังเข้ามาบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดตามกฎหมายอาญา
ทั้ง 2 กรณีจะมีการฟ้องร้องว่าความกันในส่วนของชั้นศาลยุติธรรม เพื่อขอความชอบธรรมของทั้งสองฝ่ายต่อไป