
3 สิงหาคม 2566 จากกรณี โกดังพลุระเบิด พื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บ บาดเจ็บ 121 ราย มีบ้านเรือนประชาชน เสียหายจำนวนมาก โดยทางจังหวัดนราธิวาส ใช้ศูนย์กีฬา อบต.มูโนะ เป็นที่พักอาศัยชั่วคราวผู้ประสบภัยชั่วคราว
ในขณะเดียวกัน มีการออกมาเปิดเผยความบกพร่องในการตรวจสอบ และเปิดโปงส่วย "บ้านมูโนะ" ออกมาอย่างต่อเนื่อง ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. พล.ต.เฉลิมพร เขียวขำ ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารที่หน่วยในสังกัดที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ของจังหวัดนราธิวาส จัดกำลังพร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ ได้เดินทางมาตลาดมูโนะ ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นจุดที่โกดังดอกไม้ไฟระเบิด ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก แถมบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหาย 682 ครัวเรือน
ตั้งแต่ในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ทหารได้กระจายกำลังกันซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชน ที่ผ่านการตรวจสอบและประเมินความเสียหายแล้ว โดยเน้นการซ่อมแซมหลังคาที่ได้รับจากภาครัฐและเอกชนบริจาดเพื่อสามารถให้เจ้าของบ้านและสมาชิกในครอบครัว สามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้ชั่วคราว ในการป้องกันทรัพย์ได้รับความเสียหายจากสภาวะฝนที่ตกลงมา
รวมทั้งการเก็บกวาดซากปรักหักพังของบ้านแต่ละหลัง ขึ้นรถบรรทุกของ สนง.หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส นำไปทิ้ง เพื่อตรวจสอบด้านการฟื้นฟูของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้แล้วในช่วงเช้ายังมีบรรยากาศเจ้าของบ้านแต่ละหลัง ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุโกดังดอกไม้ไฟระเบิด ได้นำสมาชิกในครอบครัวเข้าไปเก็บทรัพย์ที่มีค่า รวมทั้งเครื่องใช้ต่างๆ ที่ยังหลงเหลือโดยมีซากปรักหักพังของบ้านเรือนทับถม อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า ทองรูปพรรณรวมทั้งของมีค่าต่างๆ ที่สามารถนำไปใช้ได้
ในส่วนของเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มส่วนใหญ่จะเสียหายอยู่ในกองเพลิง และเสียหายจากสภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามยังมีชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบจากโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด แต่ไม่เข้าไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ณ สนามกีฬา อบต.มูโนะ ด้วยการใช้เต็นท์ผ้าใบผูกทั้ง 4 มุม แล้วนำไปผูกโยงกับเสาบ้าน เพื่อใช้ทำเป็นหลังคาชั่วคราว
จากการพูดคุยทราบว่า พอใจที่จะอยู่กับซากปรักหักพังมากกว่าศูนย์พักพิง เนื่องจากกินได้นอนหลับ ไม่ต้องห่วงว่าข้าวของมีค่าจะสูญหาย เพราะหากทางราชการการช่วยเหลือ ซ่อมแซมเสร็จ ก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย ไม่ต้องไปซื้อหาข้าวของกลับมาใช้ในการใหม่ทั้งหมด เนื่องจากทราบว่าบางหลังคาเรือนของมีค่าสูญหายเพราะถูกขโมย
นอกจากนี้ในระหว่างเดินบันทึกภาพบรรยากาศต่างๆอยู่นั้น ได้พบเห็นนายสมจิต อาแวเต๊ะ อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 25/3 ซึ่งอยู่ห่างจากจุศูนย์กลางของโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด เพียง 70 เมตร ได้มีการนำแผ่นป้ายข้อความภาษาไทย เขียนว่า รับบริจาค และมีกล่องกระดาษวางอยู่ 1 กล่อง ไว้ที่บริเวณหน้าบ้านพักที่อยู่ในสภาพปรักหักพังทั้งหลัง โดยภายในกล่องมีธนบัตรหรือเงินสดจำนวนหนึ่งวางอยู่
เมื่อสอบถามทราบว่า เป็นการตั้งเพื่อรับบริจาดให้กับส่วนตัว เนื่องจากต้องมีเงินใช้จ่ายจิปาถะเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย รวม 5 ชีวิต แถมบ้านพังเสียหายทั้งหลัง ในช่วงนี้ต้องอพยพลูกเมียไปอาศัยอยู่ชั่วคราวที่บ้านของบิดาในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง โดยในแต่ละวันก็มีผู้บริจาดเพื่อสมควรเพื่อนำไปใช้ประทังชีวิต
ในส่วนของการสำรวจประเมินความเสียหายบ้านพักของประชาชนรอบนอก ของเจ้าหน้าที่กองช่างจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวนกว่า 100 คน ยังไม่รวมถึงจุดที่ได้รับความเสียหายจากโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด ซึ่งได้สำรวจไปแล้ว จำนวน 682 หลัง มีมูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 500 ล้านบาท และมีรถยนต์เสียหาย 39 คัน รถ จยย. 25 คัน รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ 1 คัน