ชายชุดดำเข้าชม"พลายเอกชัย"มีพิรุธ เผยกำลังพิสูจน์คชลักษณ์ น้อมเกล้าถวายในหลวง

3 สิงหาคม 2566 เพจเฟซบุ๊ก "ศูนย์อนุรักษ์ช้าง ช้างทองคำ" ได้มีการแชร์ไลฟ์สดจากยูทูปช่อง White elephant (พ่อพลายเอกชัย) พร้อมระบุข้อความว่า..

ด่วน!!นาทีระทึก! !ผู้ร้ายแต่งชุดดำ 5-6 คน บุกคุกคามข่มขู่พ่อพลายเอกชัย และเจ้าของช้าง 

ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปดูยังช่องดังกล่าว พบว่า กำลังมีการไลฟ์สด และพูดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ผ่านไปเพียงแค่ 15 นาที โดยระบุว่ามีกลุ่มชายชุดดำขับรถเข้ามาในบริเวณพื้นที่พักอาศัย จำนวน 2 คัน เป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีดำ 4 ประตู ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีสติ๊กเกอร์ติดที่กระจกด้านหลัง เป็นรูปหมวกแบเล่ย์แดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ขอวทหารพลร่ม อีกคันหนึ่งเป็นรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน ญน XX36 กรุงเทพมหานคร 

ในพื้นที่ดังกล่าว มีการดูแลช้างเผือกอยู่ 1 เชือก ชื่อ "พลายเอกชัย" ปัจจุบันเปิดบ้านพักให้ประชาชนได้เข้าชมบารมีของพ่อพลายเอกชัย ประตูบ้านจึงเปิดอยู่ตบอดเวลา เนื่องจากช้างเผือกเชือกนี้ ทางเจ้าของเคยดำเนินการแจ้งความประสงค์น้อมเกล้าถวายในหลวง รัชกาลที่ 10 เพราะเชื่อว่าเป็นช้างคู่บารมีของพระองค์ ตั้งแต่ปี พ..ศ. 2561

จนล่วงเลยมาจนถึงขณะนี้ ที่ผ่านมาถูกกลุ่มคนบางกลุ่มที่มีอิทธิพล ทั้งข่มขู่ฆ่า ทั้งกลั่นแกล้ง รวมไปถึงแอบวางยาช้างที่ดูแลตายมาแล้วก็มี

ล่าสุดแอดมินช่องระบุว่า หลังรถทั้ง 2 คัน ขับเข้ามาจอดแล้วมีกลุ่มชายชุดดำลงจากรถมาจำนวน 5 คน ทั้งหมดสวมใส่แมสก์และแว่นตาดำ มีชายคนหนึ่งลักษณะสูงใหญ่ เดินเข้ามา สังเกตุที่เอวลักษณะเหมือนมีอะไรเหน็บอยู่ 

ทางแอดมินช่องเล่าว่า ทางเจ้าของได้ปรี่เข้าไปสอบถามว่าพี่พกอะไรเข้ามา พร้อมทั้งชายคนดังกล่าวเลิกชายเสื้อขึ้น พบว่าเป็นซองปืน แต่ไม่มีอาวุธปืนเหน็บอยู่ ซึ่งทางเจ้าของช้างได้ดูจากท่าทางแล้ว คิดว่าคนกลุ่มนี้ไม่ได้มาดีอย่างแน่นอน จึงพยาฉีกตัวเองหลบออกมาจากบริเวณนั้น หลบมาอยู่ด้านหลังพลายเอกชัย พร้อมสั่งลูกน้องให้ปิดประตู และโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และโทรตามผู้ใหญ่บ้านมาที่บ้าน 

ในระหว่างที่แอดมินกำลังเล่าเหตุการณ์ ได้นำภาพเหตุการณ์มาประกอบด้วย โดยภายในกล้องวงจรปิดจะเห็นว่าก่อนที่กลุ่มขายคับกบ่าวจะขึ้นรถไปนั้น ผู้ใหญ่บ้านได้เข้ามาพูดคุยสอบถาม โดยภายในคลิปมีเสียงของเจ้าของช้างพูดคุยโทรศัพท์โดยระบุว่าปลายสายคือ พลอากาศโท ภักดี 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อประสานไปยัง นายธนบดี พรหมสุข เจ้าของช้างเผือก หรือพ่อพลายเอกชัย ประธานศูนย์อนุรักษ์ช้าง ช้างทองคำ เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่ามีความเป็นมาอย่างไร 

นายธนบดี เล่าว่า ตนเองเป็นผู้ที่น้องเกล้าถวาย ช้างพลายเอกชัย ให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามกฎหมายมาตรา 2464 ซึ่งได้ร้อมเกล้าถวายตั้งแต่ปี 2561 และก็มีเรื่องราวมากันอย่างมากมายจนถึงปัจจุบัน

กระทั่งล่าสุดเวลาประมาณ 11.30 น. ตามกล้องวงจรปิด มีรถกระบะ 1 คันมาจอดอยู่ข้างหน้านี้ก่อน เป็นรถกระบะแคป นิสสัน ฟรอนเทียร์ ซึ่งได้ตรวจสอบในกล้องวงจรปิด พบว่า ทะเบียนไม่ชัด มาจอดไม่ถึง 30 วินาที ก็มีรถอีก 2 คัน ขับเข้ามา

คันแรกเป็นรถเก๋ง โตโยต้าวีออส สีดำ และรถกระบะ โตโยต้า รีโว่ สีดำ ล้อแม็กดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับตามหลังมา หลังจากนั้นพอชี้เป้าว่าอยู่ตรงนี้ รถ 2 คันนั้น ขับเลยไป และได้วนกลับมา 

นายธนบดี กล่าวอีกว่า ตนเปิดประตูไว้อยู่แล้ว เพราะพ่อพลายเอกชัย ใครๆก็เข้ามาชม ทั้งพี่น้องประชาชน ก็มาเยี่ยมชมบารมีของท่านทุกวันอยู่แล้ว ตั้งแต่เช้าจนเย็นถึงค่ำเลย ซึ่งปรากฏว่ารถ 2 คันนั้นได้ขับเข้ามา พอเขาลงจากรถมา สิ่งที่ตนเห็น เป็น ชายชุดดำทั้งหมดเลย ลงมาด้วยกัน 5 คน ซึ่งพนักงานก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ยังมีคนอยู่ในรถอีกหลายคน ใน 2 คันนั้น 

ซึ่งชายคนแรก ตามคลิปวีดีโอที่เราได้เผยแพร่ไลฟ์สดไปทางเฟซบุ๊ก ได้มีผู้ชายรูปร่างสูงเดินเข้ามา ซึ่งตนสังเกตเห็นความผิดปกติ ที่บริเวณเอว ตามกล้องวงจรปิดตนได้เดินเข้าไปถามเลยว่า คุณพกอะไรมา เขาก็เปิดให้ดู เป็นซองปืนแต่ไม่มีปืน ทีนี้จะมีชายชุดดำอีก 4 คน ที่ยืนอยู่ด้านหลังใส่เสื้อแจ็คเก็ตคลุม และทุกคนที่มา สวมแมส สวมแว่นตาดำและสวมหมวกทั้งหมดเลย ชุดพร้อม รองเท้าผ้าใบและรองเท้าคอมแบท

ทีนี้พอเขาเข้ามาปุ๊บ ตนเองก็ต้องฉากออกเพราะเราต้องป้องกันตัว เพราะคิดว่าเขาน่าจะมาไม่ดีแล้ว น้องๆผู้หญิงที่เป็นฝ่ายต้อนรับ ก็มาถามนู้นนี่นั่นตามปกติ เพราะตามธรรมเนียมแล้วเวลามาที่นี่ต้องลงชื่อ แต่คนพวกนี้ทำท่าทีเหมือนจะลงชื่อ แต่ก็ไม่ลงชื่อ หรือลงชื่อแต่ก็ไม่รู้ว่าชื่อจริงหรือชื่อปลอม 

ปรกติคนที่มาทุกคนต้องไปไหว้ศาลปู่ย่าปะกำ แต่เขาเหมือนจะไม่รับ คนอื่นก็คือไม่ไป แต่ผู้ชายคนที่พกซองปืน ก็เอาธูปไปปักที่ศาลปะกำเฉยๆแล้วก็เดินออกมาเลย

"แค่จากที่ตนสังเกต เหมือนเขาจะพยายามพุ่งเข้าหาผมตลอดเวลา ซึ่งทุกคนก็พยายามช่วยกันๆ ผมก็เดินอ้อมเข้าไปข้างใน ซึ่งผู้ชายคนตัวสูงใหญ่ก็พยายามเดินอ้อม ทำทีเหมือนจะไปเข้าห้องน้ำ เดินถ่ายรูปรถ และทะเบียนรถทุกคันที่อยู่ในนี้ พอผมยกกล้องถ่าย เขาก็ยกกล้องถ่ายมาทีผม ซึ่งถ้าคนมาด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ มาแบบนี้ทำไม" 

นายธนบดี กล่าวอีกว่า ในเมื่อตรงนี้เคยมีประเด็น ทางศูนย์ช้างทางคำ เคยถูกออกหมายศาล ยึดช้างทุกเชือกด้วย เคยบุกคุกคามบุกมาสถานที่นี้ บุกจะยึดช้าง บุกจะยืนพ่อพลาย ยัดเยียดข้อกล่าวหาให้เราตลอดเวลา ซึ่งเราก็สู้ทางกฎหมายมาโดยตลอด 

ก่อนหน้านี้ทางคณะวุฒิสภา ได้เข้ามาสอบสวนเรื่องนี้ และทำเอกสารที่ทางกฎหมายทั้งหมดไปแล้ว ซึ่งในนั้นมีเรื่องของการทุจริตในเรื่องช้างเชือกนี้ ทั้งหมดเลย และทั้งหมดนี้เราได้ยื่นฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ภาครัฐไม่ดำเนินการใดๆเลย

ทั้งๆที่การเตรียมน้อมเกล้าถวายช้างสำคัญ ก็ออกส่งถึงจังหวัดสระบุรี ตั้งแต่วันที่ 20-23 กันยายน 2565 ว่า ได้มีการเตรียมน้อมเกล้าถวายช้างสำคัญแล้ว และอยู่ในการรอหมอมาตรวจคชลักษณ์ขั้นสุดท้าย แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดเข้ามาดูแลเลย ซึ่งเราดูแลกันมาเองตลอด คำถามคือเจ้าหน้าที่รัฐไปไหน แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่าจะเข้ามาถึงใช้เวลานาน ผู้ใหญ่บ้านมาก่อนแล้ว

หลังจากนั้นในเหตุการณ์ ตนเองได้โทรศัพท์หาท่านเลขราชเลขาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็คือ พลอากาศโท ภักดี แสงชูโต ซึ่งพอตำรวจมา ท่านก็ต่อสายตรงวีดีโอคอลมาเลยและคุยกับทางผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้กำชับเรื่องนี้ ซึ่งทุกคนลองคิดดูว่าเป็นโอกาสขนาดไหน หลังจากที่ทางกลุ่มนี้เห็นตนโทรหาท่านภักดี ปรากฎว่าเขาก็รีบขับรถออกไป และในขณะที่ตำรวจมากลุ่มคนร้ายได้ออกกันไปหมดแล้ว

สิ่งที่เกิดขึ้นมีรูปรถ และรูปพรรณสังขารชัดเจน ว่ารถติดสติกเกอร์ตรงไหนรูปแบบไหน จึงอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการเรื่องนี้ เพราะเราไปลงบันทึกประจำวัน ตำรวจก็บอกว่าเป็นวันหยุดบ้างอะไรบ้าง ไม่ดำเนินการ ก็คือลงบันทึกประจำวันให้ ซึ่งตนก็จะส่งบันทึกประจำวันให้กับนักข่าว ซึ่งเรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่ 

นี่แหละช้างที่มีความสำคัญของประเทศ ช้างเผือกเป็นสมบัติของแผ่นดิน เป็นสมบัติของทุกคนที่ต้องหวงแหนไว้ เราต่อสู้เรื่องนี้มา 6 ปี เราไม่คิดว่าจะเหตุการณ์แบบนี้อีกในวันนี้ และเหตุการณ์ในวันนี้อุกอาจมาก คุกคามและข่มขู่เป็นอย่างยิ่ง ที่นี่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล พวกคุณไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้ 

นายธนบดี กล่าวในตอนท้ายว่า มีความพยายามสั่งให้พวกเราทุกคนไม่ให้ข่าว "พ่อพลายเอกชัย" เราก็ต่อสู้มา ซึ่งเคยมีผู้หลักผู้ใหญ่ติดต่อมาว่า "ช้างเชือกนี้เป็นช้างเผือกแล้วนะ แต่ต้องเปลี่ยนคนถวาย" ซึ่งมันมีเหตุการณ์แบบนี้มาตลอด ตนเองอยากจะเปิดเผยต่อหน้าสาธารณชนให้รับรู้และรับทราบ เพราะมันมีเรื่องนี้อยู่จริง และะเรามีบันทึกต่างๆไว้ ทั้งเสียงทั้งการข่มขู่ โดยเฉพาะการให้พฤติกรรมของปางช้างบางแห่ง ที่มาข่มขู่ฆ่าเจ้าของบ้าน หรือยายแดง เจ้าของบ่อดินหนองจอก ที่ให้ที่พักพิงกับพ่อพลายเอกชัย มีคลิปเสียงคลิปภาพทั้งหมด