ตร.ออกหมายเรียก เจ้าของ "โกดังพลุ" มูโนะ ลั่นหากเบี้ยวนัดเจอหมายจับ

31 กรกฎาคม 2566 ความคืบหน้ากรณี โกดังพลุระเบิด พื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บ บาดเจ็บ 121 ราย มีบ้านเรือนประชาชน เสียหาย 292 หลังคาเรือน โดยทางจังหวัดนราธิวาส ใช้ศูนย์กีฬา อบต.มูโนะ เป็นที่พักอาศัยชั่วคราวผู้ประสบภัย

ขณะเดียวกัน ได้มีการเปิดครัวสนาม เพื่อทำข้าวกล่องแจกจ่าย ให้ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถยึดดอกไม้ไฟ เพิ่มอีกเกือบ 1 ตัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• "กัณวีร์" เสนอแนวทางป้องกันเหตุซ้ำรอย โกดังพลุระเบิดบ้านมูโนะ
• สุดเศร้า! หนุ่มสูญเสียครอบครัว 5 ชีวิต เผย พ่อเคยเตือนโกดังพลุ จนมีปากเสียง
• เหยื่อโกดังพลุระเบิด เล่านาทีพาครอบครัวหนีตาย เผยเศร้า มีชีวิตรอดก็ดีแล้ว

ล่าสุด ในส่วนความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 เดินทางมายัง สภ.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อเป็นประธานในการประชุมร่วม เหตุโกดังเก็บดอกไม้เพลิงระเบิด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยในที่ประชุม เน้นย้ำในทางคดี การให้การรักษาความปลอดภัยสถานที่เกิดเหตุ เพราะเกรงว่า ทรัพย์สินของชาวบ้าน ที่ติดอยู่ในซากปรักหักพัง จะถูกขโมย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องรอให้ส่วนที่เกี่ยวข้อง มาทำการประเมินความเสียหาย 

นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนจาก สภ. ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ของจังหวัดนราธิวาส ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้เดินทางมายัง สภ.มูโนะ เพื่อตั้งโต๊ะทำการสอบสวน ประชาชนผู้ประสบภัย ซึ่งวานที่ผ่านมา (30 ก.ค.) มีการสอบปากคำไป 16 ราย และในวันนี้ (31 ก.ค.) จะมีเพิ่มเติมไม่ต่ำกว่า 50 ราย เพื่อเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน และใช้เป็นข้อมูลสำหรับประเมิน การช่วยเหลือในอีกทางหนึ่ง 

 

ต่อมา พล.ต.ท.นันทเดช ได้เดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ บริเวณโกดังดอกไม้เพลิงระเบิด โดยมี พล.ต.ต.อนุรุธ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้นำชี้จุดเกิดเหตุ และอธิบายถึงความรุนแรงของระเบิดที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะ 2 หลุมใหญ่ คิดรวมเป็นระเบิดหนักประมาณ 3,300 ก.ก. หรือ 3.3 ตัน ทำให้ตลาดมูโนะ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่จุดดังกล่าว ให้ช่างขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่น  ทำการประเมินเพื่อให้การช่วยเหลือ 

นอกจากนี้ ยังได้เดินทางไปดู พ.ต.อ.นิยม สุวรรณคง ผกก.สืบสวนตำรวจภูธร จ.นราธิวาส , ร.อ.สรชาติ ศาลารักษ์ ผบ.ร้อย ทพ.1004 และ ร.ท.อัครพัฒน์ อยู่รอบรียง รอง ผบ.ร้อยป้องกันชายแดนที่ 3 ได้ร่วมกันตรวจยึดดอกไม้เพลิง ซึ่งเป็นชนิดลูกบอล จำนวน 180 กระสอบ และดอกไม้เพลิงชนิดต่าง ๆ อีก 22 ลัง 

น้ำหนักรวมกันประมาณ 900 ก.ก. ที่ถูกเก็บไว้บริเวณชั้น 2 ของอาคารพาณิชย์ 3 ห้อง ไม่มีเลขที่ ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับอาคารพาณิชย์ 4 ห้อง ของ นายสมปอง เจ้าของโกดังเก็บดอกไม้เพลิงที่เกิดระเบิด โดยสองวันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตรวจยึดดอกไม้เพลิง ของ นายสมปอง รวมจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1,900 ก.ก. และได้เคลื่อนย้ายไปเก็บไว้เพื่อตรวจสอบ ที่ค่ายกัลยานิวัฒนา  
 

ส่วนที่ทำการ อบต.มูโนะ นายว่าศักดิ์ เจิมจิระ โยธาธิการและผังเมือง จ.นราธิวาส ได้มอบหมายให้ นายนิพัฒน์ ทองคุป เป็นผู้ควบคุมนายช่าง จากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งจังหวัด จำนวนกว่า 100 คน เข้าประเมินบ้านพักของประชาชน ที่ได้รับความเสียหาย ที่ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้สำรวจไปแล้ว จำนวน 329 หลังคาเรือน


โดยแยกความเสียหายร้อยละ 80 จำนวน 2 หลัง และนอกนั้น ได้รับความเสียหายร้อยละ 20 ว่า การประเมินถูกต้องหรือไม่ และควรที่จะแก้ไขเพิ่มเติมเช่นไร เพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านได้รวดเร็วยิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ นายช่างที่ถูกระดมในการประเมินบ้านพักที่เสียหาย ได้แยกเข้าไปสำรวจบ้านพัก ที่อยู่ในรัศมีการทำลายล้าง ของดอกไม้เพลิง ที่เก็บไว้ในโกดัง หรือ ใกล้จุดศูนย์กลางการระเบิด ซึ่งมีมากว่า 50 หลังคาเรือน

ส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งมองด้วยตาเปล่าเบื้องต้นคาดว่า ได้รับความเสียหายในภาพรวม หลังละประมาณ 5 แสน ถึงหลังละเกือบ 1 ล้านบาท 
 

ส่วนบรรยากาศความประทับใจ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้มีความสูญเสียเกินบรรยายในครั้งนี้ คือการช่วยเหลือจากบุคคลภายนอก ที่ได้นำข้าวของเครื่องใช้ รวมไปถึงอาหารการกิน มาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านผู้ประสบภัย

นอกจากนี้ยังมีภาพอันน่ายกย่อง ที่มีกลุ่มนักเรียนในสังกัดกรมอาชีวะศึกษา รวมไปถึงนักศึกษาวิชาทหาร  ร่วมกันแยกเก็บซากปรักหักพัง ของบ้านเรือนประชาชน ที่มีการประเมินราคาความเสียหายในเบื้องต้น เพื่อเตรียมพร้อมสถานที่ ที่อาจจะมีการก่อสร้างแทนหลังเก่า 

พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 กล่าวว่า สำหรับเจ้าของโกดัง ตำรวจได้ออกหมายเรียกมาพบในวันพรุ่งนี้ (1 ส.ค.) หากไม่มาตามนัดหมาย จะมีการออกหมายจับ ส่วนกรณีดอกไม้เพลิง ที่อยู่ในโกดัง มีการคำนวณโดยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และกองพิสูจน์หลักฐานว่า ความรุนแรงของการระเบิด ตีคราว ๆ เทียบเท่าระเบิดน้ำหนักมากกว่า 1,000 กิโลกรัมขึ้นไป

อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบเรื่องจะต้องใช้เวลา เนื่องจากมีประเด็นที่ต้องตรวจสอบในหลายด้าน ส่วนกรณีเจ้าของโกดัง เคยถูกดำเนินคดี เกี่ยวกับการครอบครอง 5 หรือ 6 ปีที่แล้ว คือ ปี 59 คดีเหล่านี้ ตำรวจสั่งฟ้องไปแล้ว

สำหรับการกักตุนดอกไม้เพลิงจำนวนมากตรงนี้ มีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ 5 กระทรวง เดี๋ยวก็มีการไล่ตรวจสอบทั้ง 5 กระทรวง ระหว่างนี้ ตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานว่า กรณีที่มีการเชื่อมโลหะภายในโกดัง ถือว่าเป็นการประมาทหรือไม่ แต่มีแนวโน้มเป็นความประมาท เพราะในโกดังมีวัตถุไวไฟ