
19 กรกฎาคม 2566 ที่ จ.อ่างทอง ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.ซี (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี ว่า ได้ถูกสามี ที่เป็นทหารยศสิบโท สังกัดค่ายแห่งหนึ่ง ในจังหวัดปราจีนบุรี พาพวกเข้าบุกทำร้ายร่างกายที่บ้านพัก ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง ในช่วงกลางดึก
โดยกล้องวงจรปิดของบ้าน สามารถจับภาพเหตุการณ์ ขณะที่สามีพากลุ่มคน บุกเข้ามาในบ้านของ น.ส.ซี ก่อนที่จะเกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง และมีการทำร้ายร่างกาย นางจัน (นามสมมุติ) อายุ 58 ปี แม่ของ น.ส.ซี ด้วยการช่วยกันจับ และชกต่อยที่บริเวณใบหน้าอย่างรุนแรง รวมถึงคลิปภาพ ขณะที่มีการตะโกนข่มขู่ว่า จะฆ่าปาดคอ และเผาบ้าน เหตุเกิดช่วงกลางดึกวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น หลังจากที่ น.ส.ซี และมารดา รวมถึงเพื่อน ๆ เดินทางกลับจากการไปหาสามีที่ค่ายทหาร และพบกับหญิงสาวคนหนึ่ง อาศัยอยู่ภายในห้องพักกับสามี ก่อนที่สามีของ น.ส.ซี จะวิ่งเข้าทำร้าย น.ส.ซี ด้วยการตบเข้าที่ใบหน้า จนทำให้ น.ส.ซี เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองปราจีน และแจ้งเรื่องราวที่เกิดขึ้น กับผู้บังคับบัญชาของสามี เพื่อให้ดำเนินการตามวินัย
นอกจากนี้ หลังก่อเหตุ สิบโทซึ่งเป็นสามีของ น.ส.ซี ยังได้นำแอลกอฮอล์ ราดใส่ฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิด จนได้รับความเสียหาย เพื่อไม่ให้มีหลักฐาน แต่หลังจากพยายามกู้ข้อมูล จึงได้ภาพนิ่งมา ทำให้ น.ส.ซี นำหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองอ่างทอง อีกครั้ง แต่ผ่านมากว่า 20 วันแล้ว คดีไม่มีความคืบหน้า ทางครอบครัวเกรงว่า จะเกิดอันตราย จึงเข้าร้องเรียนกับสื่อมวชน
น.ส.ซี กล่าวว่า ตนอยู่กินกับสามีมากว่า 10 ปีแล้ว มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน แต่ในระยะหลัง เห็นพฤติกรรมของสามีผิดสังเกต จึงพยายามติดตามดูพฤติกรรม กระทั่งเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตนพร้อมเพื่อนและมารดา เดินทางไปที่ห้องพักของสามี ในค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.ปราจีนบุรี และพบรถเก๋ง ซึ่งไม่ใช่ของสามีจอดอยู่ เมื่อลองเคาะประตู ก็พบกับหญิงสาวคนหนึ่ง อาศัยอยู่ในห้องพักของสามี
เมื่อตนสอบถามไปว่า เข้ามาอยู่ได้อย่างไร หญิงสาวคนดังกล่าว ได้เรียกสามีที่นอนอยู่ด้านในออกมา ซึ่งเมื่อออกมาถึง ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง วิ่งเข้าทำร้ายตนทันที โดยเพื่อนตนได้ถ่ายคลิป ขณะถูกทำร้ายร่างกายเอาไว้
หลังจากเหตุการณ์สงบ ตนได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองปราจีน และกลับมาแจ้งผู้บังคับบัญชาของสามี ให้รับทราบอีกครั้ง ซึ่งทางผู้บังคับบัญชา ก็ได้เรียกสามีเข้าไปพูดคุย ระหว่างนั้น ตนจึงได้เดินทางกลับบ้านที่ จ.อ่างทอง จนมาถึงบ้าน ก็สอบถามไปยังทางผู้บังคับบัญชาว่า สามีของตนอยู่ที่ค่ายหรือไม่ เพราะไม่กล้าเข้าไปที่บ้าน เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย แต่ทางโน้นยืนยันว่า ยังอยู่ที่ค่าย
กระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. วันเดียวกัน สามีพร้อมญาติอีก 3 คน ได้เดินทางเข้ามาที่บ้าน ด่าทอแม่ของตน และทุบรั้ว ใช้มีดฟันต้นไม้หน้าบ้าน ก่อนที่หนึ่งในญาติ จะลงมือทำร้ายร่างกายแม่ของตน ด้วยการชกไปที่ใบหน้า จนได้รับบาดเจ็บ
ขณะนั้นตนไม่อยู่บ้าน และเมื่อกลับมาถึง จึงรีบนำแม่ไปรักษาอาการ ที่โรงพยาบาลอ่างทอง เพื่อตรวจร่างกาย และเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองอ่างทอง เพื่อให้ดำเนินคดีกับสามีและญาติ ในข้อหาทำร้ายร่างกาย
อย่างไรก็ตาม คดีผ่านมาแล้วกว่า 20 วัน แต่ยังไม่มีความคืบหน้า จึงเกรงว่า ตนและแม่ รวมถึงน้องสาว จะไม่ปลอดภัย เพราะแม่ยังถูกทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บ แต่ตำรวจยังไม่สามารถดำเนินคดี กับผู้กระทำผิดได้ อีกทั้งสามีและญาติของสามี ยังข่มขู่ด้วยว่า จะฆ่าปาดคอ และเผาบ้าน ทำให้ตนและครอบครัว เกิดความหวาดกลัว จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ เร่งดำเนินคดีให้เร็วที่สุด