ชัยภูมิวิกฤต "เอลนีโญ" ทำแหล่งเก็บน้ำทั่วจังหวัดแห้งขอด จนเกิดศึกแย่งน้ำ

10 กรกฎาคม 2566 แม้ในขณะนี้ หลายพื้นที่ของประเทศไทย จะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง บางแห่งฝนได้ตกลงมาอย่างหนักจนเกิดน้้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก แต่ที่ จ.ชัยภูมิ ขณะนี้กำลังจะเกิดปัญหาภัยแล้ง จากผลกระทบจากปรากฏการณ์ "เอลนีโญ" หรือ ฝนน้อยในช่วงฤดูฝนปีนี้ 


นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย ดร.สมบัติ มีลักษณะสม ผู้อำนวยการโครงการชลประทานชัยภูมิ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ติดตามสถานการณ์น้ำ ตามแหล่งเก็บกักน้ำ ที่มีทั้งหมดในพื้นที่ทั้ง จ.ชัยภูมิ ที่มีทั้งหมดกว่า 13 แห่ง ที่ปัจจุบันมีน้ำเหลือน้อยมาก แต่ละแห่งเหลือน้ำที่จะนำมาใช้ ทั้งด้านการประปา อุปโภคบริโภคเป็นหลัก แต่ละแห่งเหลือไม่ถึง 10 - 20 % เท่านั้น ส่วนด้านการเกษตรแทบไม่เพียงพอ 

เบื้องต้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้สั่งการให้นายอำเภอทุกพื้นที่ ทั้ง16 อำเภอ ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งปีนี้อย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ปี 2566 ยาวไปจนถึงปีหน้า 2567 

 

นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า สถานการณ์การเตรียมรับมือภัยแล้งในปีนี้ ที่คาดว่าจะเกิดปรากฏการณ์ "เอลนีโญ" มีฝนตกน้อยมาก ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดทาง จ.ชัยภูมิ ได้ประสานกับทางฝนหลวง ที่มีการเข้ามาช่วยดำเนินการในพื้นที่ เพื่อให้เกิดฝนตกมา เติมน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ที่มีทั้งหมดในพื้นที่ ตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ผ่านมา มีการดำเนินการมาแล้วร่วมกว่า 251 เที่ยวบิน ในการช่วยทำฝนหลวง หรือ ฝนเทียม ในขณะนี้ ที่จะสามารถช่วยบรรเทาภัยแล้ง ที่เกิดจากปรากฏการณ์ "เอลนีโญ" ปีนี้ 

ซึ่งในสถานการณ์น้ำในเขื่อน อ่างเก็บน้ำ ที่มีทั้งหมด 13 แห่ง ในขณะนี้ก็ยังมีน้อยมาก ยังได้ประสานขอฝนเทียมไปที่จาก จ.บุรีรัมย์ และ จ.นครราชสีมา ให้อีกต่อเนื่อง ซึ่งเริ่มมีฝนเริ่มตกลงบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่มาก แค่พอได้บรรเทาพื้นที่การเกษตร ไร่ นา ได้บ้าง ไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อเศรษฐกิจ ภาคการเกษตรที่ จ.ชัยภูมิ ที่ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพนี้เป็นหลัก 

รวมทั้งให้การประปา ที่มีทุกพื้นที่ใน จ.ชัยภูมิ เร่งเตรียมน้ำดิบไว้สำรองทุกพื้นที่ หากเกิดสถานการณ์ภัยแล้ง ยาวไปจนถึงปีหน้าหน้า โดยเฉพาะพื้นที่ตามโรงเรียน โรงพยาบาลทุกพื้นที่ จะต้องมีแหล่งน้ำเพื่อการประปา ไม่ให้ขาดแคลน รวมทั้ง เกิดการแย่งน้ำ ที่เริ่มพบว่ามีในหลายพื้นที่ ที่น้ำที่ส่งไปเพื่อการผลิตประปา ก็จะมีประชาชนเกษตรกรในพื้นที่ ไปติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ดักสูบเข้าพื้นที่การเกษตร

เรื่องนี้ถือว่า ห้ามยาก แต่ก็อยากให้เกิดเข้าใจ ที่ควรจะสูบน้ำไปช่วยพื้นที่การเกษตร พอให้พื้นที่ไม่ให้เกิดเสียหายขาดน้ำ แต่ไม่ควรสูบไปกักเก็บมากเกินไปด้วย อย่างพื้นที่ประปาอำเภอบ้านเขว้า ทางแหล่งเก็บน้ำโปรงขุนเพชร ปล่อยมาไม่น้อยกว่าวันละ 200,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน

แต่มาถูกดักสูบลงพื้นที่การเกษตรหมด น้ำมาไม่ถึงระบบการ ประชาชนก็จะได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่ ตามมาอีกจำนวนมาก ในหลายพื้นที่ จึงอยากขอความร่วมมือประชาชน ในการที่จะดักสูบแย่งน้ำ จากระบบประปาในช่วงนี้ด้วย ซึ่งทางการประปาทุกแหล่ง อาจจะต้องมีการเตรียมพื้นที่สำรองน้ำไว้ หรือมีการต้องใช้รถไปขนน้ำมาผลิตประปา หรือใช้การวางท่อสูบน้ำเพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำประปา มากขึ้นอีกด้วย 

ขณะนี้ต้องเตรียมแผนมาตรการ แก้ปัญหาภัยแล้งในปีนี้ ตามแนวทางทั้งหมดไว้ทุกพื้นที่ ซึ่งในปลายปีนี้ ยาวไปจนถึงปีหน้า ปรากฏการณ์ "เอลนีโญ" ยังไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่า จะมีฝนตกมากน้อยเท่าใดได้ และขอให้ประชาชนทุกพื้นที่ ช่วยกันประหยัดน้ำ ใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ที่จะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด