svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

เปิดใจมือตบ "เก่ง เมธัส" เชื่อวางแผนให้เป็นข่าว เพื่อเบี้ยวจ่ายหนี้ 4.2 ล้าน

หนุ่มทวงหนี้พนัน มือตบ "เก่ง เมธัส" กับลูกน้อง เปิดใจโดนแจ้งความ เผย ไปเจรจาทวงหนี้ แต่ถูกโยกโย้นานกว่า 5 ชั่วโมง ไม่ยอมจ่ายก้อนแรก 7.5 แสน และคู่กรณียังทำท่าควักปืนจากกระเป๋า จึงบันดาลโทสะ ตบหน้าไป 1 ครั้ง

จากกรณีลูกน้องคนติดตามของ นายเมธัส สวนศรี หรือ "เก่ง เมธัส" เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกรวย ว่า ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กักขังหน่วยเหนี่ยวทำร้ายร่างกาย ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านอำเภอบางกรวย และถูกอาวุธปืนตบเข้าที่บริเวณใบหน้า จนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมานั้น

5 กรกฎาคม 2566 เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายประเสริฐ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นคนที่เดินทางไปทวงหนี้เก่ง เมธัส เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตนได้รับมอบหมายจากนายจ้างให้เดินทางไปทวงหนี้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านบางกรวย โดยเดินทางไปพวกอีก 2 คน ตอนแรกไม่ทราบว่า ลูกหนี้ที่ตนได้รับมอบหมายให้ไปติดตามทวงเงิน คือ เก่ง เมธัส อดีตดารานักแสดง จนกระทั่งตนกับลูกน้องเดินทางไปถึงร้านอาหารตามที่นัดหมายไว้

เปิดใจมือตบ "เก่ง เมธัส" เชื่อวางแผนให้เป็นข่าว เพื่อเบี้ยวจ่ายหนี้ 4.2 ล้าน

มีการเจรจาทวงหนี้จากยอด จำนวน 4.2 ล้านบาท ที่ เก่ง เมธัส ใช้เครดิตเล่นเสียไว้ ตกลงจ่ายก้อนแรกเป็นเงิน 7.5 แสนบาท แต่หลังจากนั่งพูดคุยกันไปนานกว่า 5 ชั่วโมง เก่ง เมธัส โยกโย้อ้างไปเรื่อย ไม่นำเงินมาจ่ายตามที่นัดหมายไว้ พร้อมกับอ้างว่าจะต้องกลับไปเอาเงินจำนวนดังกล่าวด้วยตนเองมาให้ แต่ตนไม่โง่เพราะรู้ว่าหากให้เก่ง เมธัส ออกไป เอาเงินตามที่อ้าง นายเก่ง จะหลบหนีไปโดยไม่นำมาจ่ายหนี้ให้ ซึ่งจะทำให้ตนถูกเจ้านายตำหนิต่อว่า ด้วยความโมโหตนจึงบันดาลโทสะตบหน้า เก่ง เมธัสไป 1 ครั้ง 

ทำให้ลูกน้องเก่ง เมธัส ที่ยืนคุมเชิงล้วงกระเป๋าสะพายจะหยิบอาวุธปืนออกมา ลูกน้องของตนที่ยืนประกบอยู่จึงได้คว้าลูกสนุ๊กจากโต๊ะพูลฟาดไปที่ใบหน้าของลูกน้องนายเก่ง จนเป็นแผลแตก ไม่ได้ใช้อาวุธปืนตบตามที่ถูกกล่าวอ้าง เพราะวันนั้นตนกับลูกน้องไปมือเปล่าล้วน ซึ่งหลังจากลูกน้องนายเก่ง ถูกตบจนล้มลงไปนอนกับพื้นแล้ว ลูกน้องของตนจึงเตะซ้ำเพื่อแยกเอาปืนออกมากระเป๋าสะพาย แล้วนำปืนกระบอกดังกล่าวถอดสไลด์กระสุนออกจากแม็กกาซีนแล้วยึดไว้ 

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ระหว่างที่เกิดเรื่อง มีคนในร้านซึ่งเห็นเหตุการณ์เดินเข้ามาห้ามปราม ต่อมาตนจึงทราบว่าคนที่เข้ามาห้ามนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 1 ตนจึงได้ยกมือขอโทษไป และตนกับลูกน้องก็ไม่ได้มีการกักขังหน่วงเหนี่ยวใครทั้งนั้น เพราะประตูร้านก็เปิดอยู่ ไม่ได้ถูกล็อก ร้านอาหารที่นายเก่ง นัดหมายเจรจาเรื่องหนี้สินก็เป็นคนเลือกเอง และหากพวกตนจะกักขังหน่วงเหนี่ยวจริง คงต้องยึดโทรศัพท์มือถือนายเก่ง กับคนที่มาด้วยทั้งหมดแล้ว แต่พวกตนก็ไม่ได้ยึดไว้ นายเก่ง กับภรรยา ยังสามารถเดินเข้าออกในร้านนอกร้านโทรปรึกษาคนอื่น ๆ และเอาโทรศัพท์มาถ่ายพวกตนไว้อยู่เลย

เปิดใจมือตบ "เก่ง เมธัส" เชื่อวางแผนให้เป็นข่าว เพื่อเบี้ยวจ่ายหนี้ 4.2 ล้าน

ถามว่าตนกับลูกน้องไปกักขังนายเก่งเมธัส อย่างไ และถ้าลูกน้องนายเก่ง ไม่ทำท่าควักอาวุธปืนออกมาก็คงไม่ถูกลูกน้องตนสวนกลับ จนกระทั่งมาทราบข่าวว่า ลูกน้องนายเก่ง ไปแจ้งความที่ สภ.บางกรวย กล่าวว่าตนกับลูกน้องอีก 2 คน ไปร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเงินจำนวน 3.4 แสนบาท จากกระเป๋าสะพายของลูกน้องนายเก่ง ทั้ง ๆ ที่กระเป๋าสะพายใบดังกล่าวมีเพียงอาวุธปืนกระบอกเดียว ที่ลูกน้องนายเก่ง จะควักออกมา ไม่มีเงินแม่แต่บาทเดียวตามที่กล่าวอ้าง พยานในร้านก็มี

เรื่องนี้ตนมองว่ามีความพยายามสร้างเรื่องเท็จเพื่อกล่าวหาตนกับพวก และตำรวจที่เข้ามาห้าม ให้เชื่อมโยงกันเพื่อที่จะให้ตกเป็นข่าวใหญ่โต กลายเป็นประเด็นขึ้นมา เพื่อหวังให้เรื่องไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนเว็บนายจ้างตนจะถูกสั่งปิดไป ส่วนนายเก่ง ก็เบี้ยวหนี้สินที่ติดค้างเอาไว้กับนายจ้างของตน เข้าทำนองว่า ได้เอาเสียไม่จ่าย

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า เรื่องราวที่ลูกน้องนายเก่ง ไปให้สัมภาษณ์กับสื่อและแจ้งความไว้ที่โรงพักเป็นเรื่องเท็จทั้งหมด ตนกับลูกน้องพร้อมเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อต่อสู้คดี ตนกับพวกยอมรับข้อหาทำร้ายร่างกายนายเก่ง กับลูกน้อง ส่วนข้อหาอื่น ๆ ขอให้การปฎิเสธและเตรียมแจ้งความกลับคู่กรณี รวมถึงสื่อที่นำข้อมูลไม่เป็นความจริงไปลงจนเกิดความเสียหาย

เปิดใจมือตบ "เก่ง เมธัส" เชื่อวางแผนให้เป็นข่าว เพื่อเบี้ยวจ่ายหนี้ 4.2 ล้าน