ทบ.ส่งหน่วยแพทย์ตรวจคัดกรอง-อบรมป้องกันมาลาเรีย ชายแดนไทย-เมียนมา

1 กรกฎาคม 2566 กองทัพบก นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ที่ฐานปฏิบัติการต้นแม่น้ำสุริยะ (กองร้อยทหารราบที่ 1412) ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และฐานปฏิบัติการบ้านเปิ่งเคลิ่ง (กองร้อยทหารราบที่ 432) อ.อุ้มผาง จ.ตาก ในความรับผิดชอบของหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร กองทัพภาคที่ 3 ดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ห่างไกล โดยมีกรมแพทย์ทหารบก นำโดย พลตรี เกษม ภิญโญชนม์ รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก ซึ่งรักษาราชการแทนเจ้ากรมแพทย์ทหารบก และเจ้าหน้าที่ด้านระบาดวิทยาและเวชกรรมป้องกัน สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร เข้าปฏิบัติการทางการแพทย์ เพื่อตรวจเลือด คัดกรองเชื้อมาลาเรีย (เจาะเลือดแล้วนำไปตรวจแล็บ และการตรวจด้วยชุดตรวจในเบื้องต้น) ดำเนินมาตรการเฝ้าระวังโรค พร้อมส่งเสริมสุขาภิบาลในฐานปฏิบัติการทั้ง 2 แห่ง เนื่องจากฐานปฏิบัติการทั้ง 2 ฐาน ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าเขา เสี่ยงต่อการเกิดโรคมาลาเรียและโรคติดต่อที่มาจากแมลงต่างๆ 

รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก กล่าวว่า กองกำลังป้องกันชายแดนมีภารกิจเฝ้าตรวจ ลาดตระเวน ป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย ซึ่งต้องปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมง ทางผู้บัญชาการทหารบก จึงมีความห่วงใยในภาวะสุขภาพของกำลังพล โดยมอบหมายให้กรมแพทย์ทหารบก เข้ามาวางแผนอำนวยการเรื่องเวชกรรมป้องกัน การรักษาพยาบาล การส่งกลับ อำนวยการในเรื่องสุขภาพต่างๆ โดยฐานปฏิบัติการต้นแม่น้ำสุริยะ เดิมเป็นความรับผิดชอบของกองกำลังสุรสีห์ กองทัพภาคที่ 1 ปัจจุบันปรับมาให้กองกำลังนเรศวร กองทัพภาคที่ 3 ดูแลแทน ทางกรมแพทย์ทหารบกได้เข้ามาประเมินพื้นที่เกี่ยวกับเส้นทางการส่งกำลังบำรุงและการส่งกลับสายแพทย์ให้มีความเหมาะสม

อีกทั้งชายแดนด้านตะวันตกเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคมาลาเรีย (จ.ตาก ฝั่งตะวัน และ จ.ตราด ฝั่งตะวันออก ถือเป็นพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ-ติดเชื้อสูง-ดื้อต่อยาได้) จึงต้องวางแผนตั้งแต่เริ่มส่งกำลังพลเข้าพื้นที่ การป้องกันเพื่อลดการได้รับเชื้อมาลาเรีย เนื่องจากกำลังพลเป็นคนนอกพื้นที่ที่ผลัดเปลี่ยนเวรกันมา ภูมิต้านทานจึงไม่เท่ากับคนในพื้นที่ โดยได้มีการตรวจหาเชื้อ ให้ความรู้ในการป้องกันโรค สาธิตการชุบมุ้ง และตรวจสุขาภิบาลฐาน เพื่อให้กำลังพลมีสุขภาพที่แข็งแรง

ส่วนสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ในขณะนี้ ยังคงมีการสู้รบในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่ง พันเอก ณรงค์ชัย เจริญชัย รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร บอกว่า เจ้าหน้าที่ยังต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ ปัจจุบันยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งช่วงหน้าฝนการสู้รบจะน้อยลง ทั้งนี้ ผู้บังคับหน่วยทหารทั้ง 2 ประเทศมีการพบปะพูดคุยในทุกเหตุการณ์ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด แต่หากมีสะเก็ดหรืออาวุธล้ำเข้ามาเขตไทย ทหารไทยจะสื่อสารไปอีกครั้ง และถ้าพิจารณาแล้วว่าจะเป็นอันตรายต่อฝ่ายไทย ก็จะยิงกระสุนควันเตือนไปก่อน ตามขั้นตอนของกฎการปะทะ นอกจากนี้ตามชายแดนยังเคยตรวจพบระเบิดทำเอง คล้ายๆ ที่ใช้ในชายแดนภาคใต้ด้วย สำหรับการดูแลผู้หนีภัยจากความไม่สงบชาวเมียนมา ทางกองกำลังนเรศวรได้เตรียมความพร้อมร่วมกับส่วนราชการจังหวัด เพื่อรองรับสถานการณ์ ประสานผู้นำชุมชนจัดพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว และให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของชุมชนชายแดน

สำหรับฐานปฏิบัติการต้นแม่น้ำสุริยะ ภารกิจหลักคือ การเฝ้าตรวจพื้นที่ เป็นฐานขนาดเล็กอยู่ต้นแม่น้ำสุริยะ รอยต่อ จ.กาญจนบุรี กับ จ.ตาก เดินทางเข้าถึงได้ยากลำบาก จำกัดด้วยเส้นทางและสภาพภูมิประเทศภูมิอากาศ ส่งกำลังบำรุงด้วยอากาศยานเป็นหลัก ฐานแห่งนี้ใช้พลังน้ำจากแม่น้ำสุริยะในการผลิตไฟฟ้าร่วมกับโซล่าเซลล์ เป็นพื้นที่เสี่ยงมาลาเรีย เนื่องจากเป็นพื้นป่าสมบูรณ์ 

ส่วนฐานปฏิบัติการเปิ่งเคลิ่ง ภารกิจหลักคือ เฝ้าตรวจชายแดน ป้องกันการลักลอบสิ่งผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติ ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน เพราะอยู่ในเชตชุมชนที่มีชาวกะเหรี่ยงอาศัยมากถึง 80% ฐานนี้ตั้งอยู่ทิศตะวันตกมีพรมแดนติดกับรัฐกะเหรี่ยง ระยะทาง 197 กิโลเมตร มีเทือกเขาดาวน่า กั้นเขตแดน