ไฟไหมย่านบางบ่อ นักเรียน 11 ปีรอดปาฏิหาริย์ ร่ำไห้หนังสือ ชุดนักเรียนวอด

เมื่อเวลา 00.05 น. วันที่ 12 มิถุนายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองด่าน สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้บ้านพักคนงาน ภายในลานจอดรถของบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง ตำบลบางเพรียง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รถดับเพลิง อบต.บางเพรียง และใกล้เคียง จำนวน 5 คัน เดินทางเข้าระงับเหตุ ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านพักคนงาน เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำนานประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ 

จากการตรวจสอบพบว่า มีบ้านพักคนงาน 3 หลัง โดยได้รับความเสียหายทั้งหลัง จำนวน 2 หลัง และอีก 1 หลังได้รับความเสียหายเล็กน้อย ใกล้กันยังพบรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน ถูกไฟไหม้ทั้งคัน และรถกระบะ จำนวน 2 คัน ได้รับความเสียหาย ห่างออกไปไม่ไกล เด็กชาย อุ๋นติ๋น อายุ 11 ปี ยืนร้องไห้เสียใจ ที่ต้องสูญเสียแมวที่เลี้ยงไว้ เสียทั้งบ้าน เสียทั้งรถ แม้กระทั้งสมุดหนังาอที่ใช้ในการเรียน เพราะถูกไฟเผาไหม้จนหมด 

จากการสอบถาม เด็กชายอุ๋นติ๋ม เล่าว่า พ่อกับแม่ออกไปทำงานขับรถส่งของ ตนนอนอยู่บ้านกับแมว กระทั่งตื่นขึ้นมากินน้ำ ได้กลิ่นเหม็นไหม้ และเห็นควันลอยออกมา ตอนแรกตนก็คิดอาจมีคนด้านนอกบ้านเผาสิ่งของ แต่เมื่อหันไปดูพบว่ามีเปลวไฟลุกไหม้เต็มบ้าน ด้วยความตกใจ จึงตะโกนเรียกให้พี่ข้างบ้านช่วยเหลือ จนกระทั่งสามารถเอาชีวิตรอดออกมาจากตัวบ้านได้อย่างปลอดภัย

แต่สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุด คือแมวที่เลี้ยงไว้ ไม่รู้ว่าอยู่ไหน และตนก็ไม่รู้ว่า พรุ่งนี้จะไปเรียนได้อย่างไง เพราะสมุด หนังสือเรียน ชุดนักเรียน ถูกไฟเผาไหม้ไปหมด 

นายแก่นจันทร์ เป้าป่าเถื่อน อายุ 28 ปี พี่ข้างห้องที่เข้าไปช่วย เด็กชายอุ๋นติ๋ม เล่าว่า ตนอยู่บ้านหลังที่ 4 ขณะเกิดเหตุ กำลังนอนอยู่ได้ยินเสียงน้องเรียก ทำให้ต้องลุกขึ้นจากที่่นอน และรีบออกไปดู ซึ่งภาพที่เห็นก็คือ ไฟกำลังไหม้บ้านของน้องอยู่ ตนจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยน้องออกมาจากบ้าน

ขณะที่ เจ้าของบ้านข้างเคียง ที่ถูกถูกไฟไหม้บ้านเช่นกัน เล่าทั้งน้ำตาว่า ขณะเกิดเหตุ ตนกำลังนอนพักผ่อนอยู่กับแฟนภายในบ้าน ขณะนั้นตนนอนอยู่ ได้ยินเสียงเด็กร้องขอความช่วยเหลือ จึงลุกขึ้นมาดู และก็เห็นไฟกำลังลุกลามมาที่บ้านของตน ตนกับแฟนจึงรีบออกมาจากบ้าน โดยไม่ได้หยิบสิ่งของอะไรออกมาเลย 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตาม จะประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป