ปกครองลุยจับ 2 ผับใหญ่ กลางเมืองกระทู้ ปล่อยเด็กใช้บริการ-เปิดยันหว่าง

1 มิถุนายน 2566 เมื่อเวลา 03.30 น. นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมด้วย พนักงานฝ่ายปกครองส่วนกลาง และกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ บุกเข้าจับกุมสถานบริการชื่อดัง 2 แห่ง กลางเมืองกะทู้ ประกอบด้วย "ราตรี คลับ" และ "มหานครภูเก็ต" ตั้งอยู่ริมถนนตรงแยกกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

สืบเนื่องจากกรมการปกครองได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ว่า สถานบริการดังกล่าว เปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยเปิดขายเหล้า ขายเบียร์และเล่นดนตรี มีนักเที่ยวหลายร้อยคนดื่มกินกันถึงเวลาเช้า ส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้านที่อยู่บริเวณโดยรอบ

จึงได้ส่งสายลับแผงตัวเข้าไปหาพยานหลักฐาน พบว่าสถานบันเทิงทั้ง 2 แห่ง มีนักเที่ยวเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนดทุกคืน โดย "ราตรี คลับ" เปิดให้บริการถึงตี 4 ส่วน "มหานครภูเก็ต" เปิดให้บริการถึง 6 โมงเช้า

เมื่อนักเที่ยวรู้ว่าถูกเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อม ภายในผับเกิดโกลาหลเล็กน้อย หลายคนพยายามจะหลบหนีทางบันไดหนีไฟหลังร้าน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังปิดประตูทางเข้าออกไว้ทุกด้าน พร้อมทั้งสั่งให้เปิดไฟแสงสว่าง ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ ใช้เวลากว่า 15 นาที จึงควบคุมสถานการณ์ไว้ได้

จากการตรวจสอบสถานบริการทั้ง 2 แห่ง พบว่า ไม่มีใบอนุญาต และยังตั้งอยู่นอกโซนนิ่ง พบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการจำนวน 10 คน พนักงานฝ่ายปกครอง จึงได้จับกุมตัวเจ้าของร้านและร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดี

แจ้งข้อหา "ร้านมหานครภูเก็ต" เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย, ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์, จำหน่ายสุราแก่เด็ก และยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร ส่วนร้าน "ราตรี คลับ" แจ้งข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย 

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ เปิดเผยว่า กรมการปกครอง ได้ดำเนินการกวดขัน จับกุม ปราบปราม สถานบริการที่ผิดกฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่องมาโดยตลอด จึงขอฝากถึงผู้ประกอบการสถานบริการทั่วประเทศว่า ขอให้ท่านมีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ และหลังจากนี้พนักงานฝ่ายปกครองจะเสนอเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มีคำสั่งปิดสถานที่แห่งนี้ ตามคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558