พายุพัดถล่มโรงเรียนที่อุทัยฯ หอบหลังคาปลิว โชคดีไร้เจ็บ

24 พฤษภาคม 2566 เมื่อเวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวไดรับแจ้งว่าเกิดพายุพัดถล่มที่โรงเรียนวัดทุ่งพึ่ง หมูที่ 5 ตำบลทุ่งพึ่ง อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี มีอาคารเรียนได้รับความเสียหาย จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบครูและนักเรียนจำนวนหนึ่งยังอยู่อาการตกใจ และผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านเข้าตรวจสอบความเสียหาย และช่วยกันขนย้ายคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์การเรียนไปไว้ในที่ปลอดภัย และช่วยเก็บหลังคาเมทัลชีสที่ถูกแรงลมพายุหอบเอาหลังปลิวไปทั้งหลังในส่วนที่พอเก็บได้ 

นายพนา ทนะแสง ผู้อำนวยการโรงเรียน วัดทุ่งพึ่ง เปิดเผยว่า ขณะก่อนเกิดเหตุพายุพัดถล่มหอบเอาหลังคาอาคารเรียนไปทั้งหลังนั้น ได้ปล่อยนักเรียนของโรงเรียนที่มีกว่า 50 คน โดยมีผู้ปกครองมารับไปเกือบหมดแล้ว แต่ยังมีนักเรียนจำนวนหนึ่งที่ผู้ปกครองยังไม่มารับและติดฝนอยู่ที่โรงเรียน โดยมีฝนลงมาแล้วก็ลมพายุมาเป็นช่วงๆเป็นระยะๆไม่เชิงแรง และมีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีพายุถล่มลงมาอย่างรุนแรงในเวลาประมาณ 15.55 น.ซึ่งด้านหลังจะโล่งกว่าด้านอื่น และอาคารนั้นเรายกสูงขึ้นด้วยพอมีเสียงกระแทก เด็กๆก็ตื่นตกใจกลัว 

ส่วนความเสียหายก็มีวัสดุก่อสร้างและที่อยู่ภายในโรงเรียน เช่น คอมพิวเตอร์และตัวอาคารหลังคาเปิดทั้งหมด จากนั้นหลังคาก็ปลิวแล้วก็มีฝนตกลงมาทำให้คอมพิวเตอร์เปียกทั้งหมดในห้อง และยังมีทีวีและกระดานดำตกลงมา ซึ่งอาคารนี้สร้างมาตั้งแต่ปี 2507 หรือเกือบ 60 ปี แต่โรงเรียนนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 2465 มีอายุ 101 ปี 

ผู้อำนวยการโรงเรียน ยังบอกอีกว่า นับเป็นความโชคดีปล่อยเด็กและมีผู้ปกครองมารับเด็กเกือบหมด มีบางส่วนเท่านั้นที่ผู้ปกครองยังไม่มารับ ไม่มีเด็กอยู่ในอาคารเรียนที่ถูกแรงลมพายุพัดพังถล่ม หรืออยู่ตามสนามของโรงเรียน จึงไม่มีใครได้รับอันตราย และหากนักเรียนกลับยังนึกไม่ออกเลยว่าจะเกิดเหตุร้ายเหมือนโรงเรียนในจังหวัดพิจิตรที่ถูกพายุพัดถล่มจนมีเด็กนักเรียน ผู้ปกครองเสียชีวิตกันหลายคน 

สำหรับอาคารหลังนี้ใช้เรียนมาตลอด และได้งบประมาณซ่อมแซมปรับปรุง และเปลี่ยนเสาเปลี่ยนหลังคาซ่อมแซมในส่วนที่เสียหายไปตามกาลเวลา ให้ดูมีความแข็งแรงและยกพื้นสูงขึ้น และตัดต้นไม้ออกก็เลยตัดต้นไม้ด้านหลังออกไป ทำให้ดูโล่งทำให้สภาพเหมือนโปร่งดีโดยใช้งบประมาณไปกว่า 5 แสนบาท หลังจากซ่อมแซมเสร็จไปเพียงไม่กี่เดือน ก็มาเกิดเหตุการณ์พายุพัดถล่มในวันนี้ 

ส่วนเรื่องการซ่อมแซมเป็นสิ่งที่หนักใจกับทางคณะครูและชุมชนอย่างมาก เพราะโรงเรียนเองไม่มีงบประมาณที่จะมาซ่อมแซมได้โดยตรง ต้องติดต่อทางสำนักงานเขตการศึกษา ซึ่งเป็นต้นสังกัด และจะเข้ามาอีกไม่นานนี้ และอยากวิงวอนสื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคสมทบทุนในการซ่อมแซม ซึ่งจะทำให้ซ่อมให้โดยเร็วทำให้เราสามารถจะปรับปรุงให้ดีขึ้น และมีความรวดเร็วขึ้นและโอกาสได้เรียนทันทีที่ซ่อมเสร็จ 

แต่ตอนนี้ก็ต้องใช้ไปก่อนและอาคารเรียนนี้เก่าแก่มาก เป็นอาคารที่ควรอนุรักษ์ไว้ ซึ่งยังใช้สอนปรกติอยู่ และทางโรงเรียนเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 2 ถึง ป.6มีนักเรียนอยู่ 54 คนและมีครูอยู่ 7 คนรวมถึงผู้บริหารด้วย 

ขณะที่ นางสาวกัลยารัตน์ ครูผู้ช่วย กล่าวว่า เป็นผู้ที่ถ่ายภาพตอนเกิดพายุแรงลมนั้น เด็กนักเรียนที่ผู้ปกครองยังไม่มารับ กำลังนั่งอยู่ที่ระเบียงอาคารอีกหลัง แล้วฝนก็ตกมาก่อนแล้วก็มีลมม้วนๆขณะถ่ายภาพทั้งครูและเด็กที่อยู่ด้วยกันได้กรีดเสียงร้องด้วยความกลัว ต่อมาได้ยินเสียงดัง จากนั้นหลังคาก็ปลิวตามแรงลมมาและปลิวลงมา ซึ่งเด็กนักเรียนก็ตกใจ รวมถึงครูจึงพากันวิ่งเข้าไปใต้อาคารแ ละสุดท้ายพอลมสงบก็เกิดความเสียหายและอาคารนี้เพิ่งจะปรับปรุงไปไม่นานนี้ รวมถึงหลังคาของอาคารด้วย 

ด้าน นายสิรภพ นิยมเดช นายอำเภอหนองขาหย่าง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทันทีพร้อมให้กำลังใจกับผู้อนวยการโรงเรียน และครูผู้สอน โดยกล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือ ในเบื้องต้นจะประสานกับกำนันผู้ใหญ่บ้านเข้ามาดูแลในพื้นที่ ดำเนินการเคลียร์สถานที่และประสาน อบต.หนองขาหย่าง เนื่องจากมีหลังคาที่พังลงมาและเกิดการกีดขวางอันตรายกับผู้ที่เดินทางสัญจร 

เบื้องต้น ทางอำเภอจะมีการสำรวจและรายงานไปยังจังหวัด เพื่อเป็นข้อมูลและแก้ไข ต่อไป