24 พฤษภาคม 2566 ความคืบหน้ากรณี เหตุสลด อาคารโดมโรงเรียนวัดเนินปอ ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร พังถล่มลงมา หลังถูกพายุฝนพัดถล่มอย่างหนัก ส่งผลให้ "ทีมเนินปอจูเนียร์" ที่อยู่ระหว่างฝึกซ้อม ทั้งนักฟุตบอล-โค้ช ชีวิต 7 ราย และบาดเจ็บ 18 คน จนทางจังหวัดพิจิตร ต้องมีการประกาศให้เป็นพื้นทีประสบภัยพิบัติวาตภัย โดยวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ด้วยตัวเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุด จากการตรวจสอบของ ทีมข่าวเนชั่นออนไลน์ พบว่า ข้อมูลจากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์วาตภัย ซึ่งรายงานเทียบระดับความรุนเเรงของลมพายุ ที่พัดถล่ม อ.สามง่าม จ.พิจิตร ในช่วงเย็นวันเกิดเหตุ พบว่า อยู่ที่ระดับ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งหากนำมาเทียบกับ "พายุหมุนเขตร้อน" ที่มักก่อตัวในมหาสมุทรเเปซิฟิก เเละทะเลจีนใต้ จะรุนเเรงเกินขั้นระดับ "พายุโซนร้อน" เทียบเท่า "พายุไต้ฝุ่น" พัดถล่ม เพราะเเรงลมเกิน 120 กม./ชั่วโมง
ชมคลิปลมพายุในวันเกิดเหตุ
ขณะที่ นายสุรพงษ์ สารัตปะ นักอุตุนิยมวิทยาชำนาญการ กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า สถานีอุตุนิยมวิทยาของพิจิตร ตรวจวัดได้เพียง 70 - 80 กม./ชม. ไม่น่าจะเกินระดับ 100 กม./ชม. พร้อมอธิบายว่า พายุในลักษณะนี้ จะเป็นเเรง "ลมกระโชก" ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ จะไม่ได้เคลื่อนที่ไกล เกิดจากการยกตัวเเบบเฉียบพลัน สิ่งปลูกสร้างที่ไม่สามารถทนทานเเรงของพายุได้ ก็จะพังเสียหาย
นอกจากนี้ ยังได้รับข้อมูลจากวิศวกรว่า ในช่วงที่ผ่านมา จะเกิดเหตุบ่อย เพราะการก่อสร้างโดมอาคารในรูปแบบนี้ ไม่สอดรับการต้านเเรงลม การสร้างในลักษณะเเบบนี้ จึงควรปรับเปลี่ยนให้มีความเเข็งเเรง เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ต้นไม้ที่มีลักษณะกิ่งเป็นพุ่มติดกัน เวลาลมพัดจะได้รับความเสียหาย มากกว่าต้นไม้ ที่อยู่เเบบต้นเดี่ยว ๆ
- ความเเตกต่าง พายุฤดูร้อน-พายุหมุนเขตร้อน
สำหรับพายุฤดูร้อน ที่เกิดขึ้นช่วงนี้ สอดคล้องกับที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเข้าสู่ฤดูฝน "พายุฤดูร้อน" จะมีความรุนเเรง มากกว่า "พายุหมุนเขตร้อน" เนื่องจากจะมีลมกระโชกเเรง ส่วนใหญ่มาเเต่ลมกระโชกเเรง ส่วนฝนตกไม่นาน สร้างความเสียหายให้บ้านเรือน โดยเฉพาะเสาไฟฟ้าหักโค่น สิ่งปลูกสร้าง หลังคาปลิว
สำหรับ "พายุฤดูร้อน" เกิดช่วงฤดูร้อน ก่อนเข้าฤดูฝน อุณหภูมิในภูมิภาคต่าง ๆ เริ่มสูงขึ้น เเละยังมีหย่อมความกดอากาศต่ำ เนื่องจากความร้อนปกคลุม ทำให้มีอุณหภูมิสูง และได้รับความชื้น จากลมตะวันออกเฉียงใต้ หรือ ลมใต้ซึ่งพัดจากอ่าวไทย
หากมีความกดอากาศสูงจากประเทศจีน ซึ่งเป็นมวลอากาศเย็น ก่อให้เกิดการปะทะกัน ของมวลอากาศ ทำให้เกิดความแปรปรวน ของอากาศอย่างรวดเร็วและฉับพลัน การยกตัวขึ้นของอากาศอย่างรุนแรง และรวดเร็ว ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศ
ส่วน "พายุหมุนเขตร้อน" ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน พ.ค. - พ.ย. ฝนลมที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งก็จะมีความเสียหายที่แตกต่างกันไป