svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

คนขับรถแห่ พปชร. เปิดใจ ถูกปืนจี้จริง แต่ ตร. บังคับ ให้ยอมรับว่ากุเรื่อง

05 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คนขับรถแห่ พปชร.ขต 1 บุรีรัมย์ เปิดใจทั้งน้ำตา โดนปืนจ่อหัวห้ามหาเสียงจริง แต่ ตร. บุกถึงบ้านบอกให้ไปโรงพัก บังคับให้เซ็นรับกุเรื่อง แถมยัดข้อหาแจ้งความเท็จ วอนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบให้ความเป็นธรรม

ความคืบหน้ากรณี นายเจษฎากร เขียนนิลศิริ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 เบอร์ 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนายมานิตย์ สันธิ อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นทีมงานขับรถแห่หาเสียง ได้นำหลักฐานการแจ้งลงบันทึกประจำวันที่ สภ.บ้านด่าน ว่า

ขณะขับรถยนต์ประชาสัมพันธ์ หาเสียงไปถึงบริเวณป่าอ้อยระหว่างหมู่บ้านละเบิก กับหมู่บ้านกระชาย ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน ได้ถูกชาย 2 คนขับรถจักรยานยนต์ ประกบแล้วจอดขวางหน้ารถก่อนที่คนซ้ายท้ายจะเดินมาหาใช้อาวุธปืน ชนิดลูกโม่ ไม่ทราบขนาด จ่อที่ศีรษะแล้วข่มขู่ว่า "มาวิ่งหาเสียงให้เขาทำไม" และบอกว่าห้ามเปิดเสียงประชาสัมพันธ์ เหตุเกิดเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 3 พฤษภาคม ต่อมามีกระแสข่าวว่า มานิตย์ รับสารภาพว่ากุเรื่องขึ้นมา ตำรวจจึงแจ้งข้อหา "แจ้งความเท็จ" นั้น

คนขับรถแห่ พปชร. เปิดใจ ถูกปืนจี้จริง แต่ ตร. บังคับ ให้ยอมรับว่ากุเรื่อง

5 พฤษภาคม 2566 นายมานิตย์ เปิดใจกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตา ว่า สาเหตุที่ต้องรับสารภาพว่า กุเรื่องขึ้น เพราะถูกตำรวจบังคับให้ยอมรับ ตนไม่ได้สมัครใจ โดยเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีตำรวจนอกเครื่องแบบหลายนายไปหาตนเองที่บ้าน แล้วบอกให้ตนไปที่โรงพัก สภ.บ้านด่าน ตนคิดว่าตำรวจอาจจะอยากสอบปากคำเพิ่มเติม แต่พอเข้าไปในห้องสอบสวน ซึ่งมีตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบเกือบ 10 นาย พยายามกดดันบังคับให้ตนเองยอมรับสารภาพว่า กุเรื่องขึ้นมา

ตอนนั้นรู้สึกกลัว เพราะอยู่คนเดียว และตำรวจยึดมือถือเอาไว้ไม่ให้โทรติดต่อใครเลย แม้กระทั่งพ่อกับแม่ที่บ้านก็ไม่ให้ติดต่อ โดยมีตำรวจนายหนึ่งบอกว่า ถ้ายอมรับว่ากุเรื่องก็จะได้จบ ๆ ไป

คนขับรถแห่ พปชร. เปิดใจ ถูกปืนจี้จริง แต่ ตร. บังคับ ให้ยอมรับว่ากุเรื่อง

จากนั้นตำรวจก็ให้ตนเขียนคำรับสารภาพด้วยลายมือ โดยตำรวจเป็นคนบอก ตนก็เขียนตามแล้วก็เซ็นชื่อ แล้วถูกแจ้งข้อหา "ผู้ใดรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงาน สอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทำความผิด" จากที่เป็นผู้เสียหายก็กลายเป็นผู้ต้องหา

ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนถูกชายฉกรรจ์ใช้ปืนจ่อหัวขู่ห้ามหาเสียงจริง แต่ที่ต้องยอมรับ เพราะถูกบังคับให้ยอมรับ และหลอกว่า เรื่องจะได้จบตนจึงหลงเชื่อ ที่ไปแจ้งความก็เพื่อความปลอดภัยของตนเอง ไม่ได้กล่าวหาให้ร้าย หรือพาดพิงใคร ไม่คิดว่าจะโดนแบบนี้ จึงอยากวิงวอนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมด้วย

คนขับรถแห่ พปชร. เปิดใจ ถูกปืนจี้จริง แต่ ตร. บังคับ ให้ยอมรับว่ากุเรื่อง

จากนั้นนายมานิตย์ ก็ได้พาขับรถไปดูจุดที่ถูก 2 ชายฉกรรจ์ขี่ จยย.ใช้ปืนจ่อหัวข่มขู่ห้ามหาเสียง และร้านก๋วยเตี๋ยวที่นายมานิตย์ ขับไปขอความช่วยเหลือ โดยแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว บอกว่า นายมานิตย์  ได้มาเล่าให้ฟังจริง ว่า มีคนขับรถตามใช้ปืนจ่อหัว แต่ไม่รู้ว่ามีคนตามจริงหรือไม่ เพราะไม่ได้เห็นกับตา

ขณะที่ตำรวจ ยันดำเนินการตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ไม่พบพยานหลักฐานเชื่อมโยงว่า มีชายฉกรรจ์ขับรถตาม เพื่อใช้ปืนจ่อข่มขู่ตามที่มีการแจ้งจริง ไม่ได้บังคับให้รับสารภาพตามที่กล่าวหา

คนขับรถแห่ พปชร. เปิดใจ ถูกปืนจี้จริง แต่ ตร. บังคับ ให้ยอมรับว่ากุเรื่อง

คนขับรถแห่ พปชร. เปิดใจ ถูกปืนจี้จริง แต่ ตร. บังคับ ให้ยอมรับว่ากุเรื่อง

logoline